“ผู้ว่าอัศวิน” จ่อผุดฟีดเดอร์เชื่อมรถไฟฟ้าทั่วกรุงนำร่อง 3 สายมี.ค.นี้

พลตำรวจเอกอัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร(กทม.) ได้โพสต์ข้อความบนเฟสบุ๊คว่า กทม.และหน่วยงานต่างๆที่เกี่ยวข้อง ได้พยายามพัฒนาระบบขนส่งมวลชนสาธารณะมาอย่างต่อเนื่องตามนโยบายของรัฐบาล

 

 
โดยที่ผ่านมาได้เปิดให้บริการสถานีรถไฟฟ้าทั้งบนดินและใต้ดินเพิ่มเติมหลายสถานีด้วยกัน รวมถึงมีการดำเนินโครงการต่างๆ เช่น การขยายเส้นทางรถไฟฟ้าการให้บริการเดินเรือ ฯลฯ เพื่อเชื่อมต่อระบบการเดินทางต่างๆให้เป็นหนึ่งเดียว และเพิ่มความสะดวกสบายในการเดินทางให้พี่น้องประชาชนมากขึ้น
 
แต่ปัญหาหนึ่งที่ กทม. เล็งเห็นก็คือ ระบบฯของเราไม่ได้รองรับการเดินทางตั้งแต่ต้นทางจนถึงปลายทาง ดังนั้นจึงยังเห็นคนจำนวนมากขับขี่รถส่วนตัวมาหาที่จอดเพื่อเดินทางต่อด้วยระบบสาธารณะต่างๆ รวมถึงมีคนอีกจำนวนไม่น้อยที่เลือกเดินทางด้วยรถส่วนตัวเพราะความไม่สะดวกดังกล่าว ซึ่งนี่เป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่ทำให้ระบบขนส่งมวลชนสาธารณะของเรายังไม่ตอบโจทย์การใช้ชีวิตของคนกรุงเทพฯเท่าที่ควร
 
วันนี้ กทม.จึงได้พัฒนา”ระบบ feeder” หรือระบบขนส่งฯระบบรองที่ให้บริการเสริมในส่วนที่ระบบหลักครอบคลุมไปไม่ถึง เพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าว โดยจะทดลองให้บริการเดินรถ shuttle bus ในเส้นทางหลักที่ยังไม่มีบริการขนส่งมวลชนอื่นๆรองรับ เพื่อรับผู้โดยสารจากต้นทางมาป้อนเข้าสู่ระบบขนส่งมวลชนสาธารณะหลัก
 
โดยจะเริ่มทดลองเดินรถประมาณเดือนมีนาคม 2563 ใน 3 เส้นทางนำร่อง ได้แก่ สถานีขนส่งมวลชนสายใต้ – สถานี bts บางหว้า, ดินแดง – สถานี bts สนามเป้า และชุมชนเคหะร่มเกล้า – สถานีแอร์พอร์ตลิงก์ลาดกระบัง ระหว่างช่วงเวลา 05.00 – 21.00 น. โดยไม่คิดค่าบริการ ซึ่งจุดจอดรับ-ส่งผู้โดยสารของแต่ละสาย จะแจ้งให้ทราบโดยละเอียดในโอกาสต่อไปครับ
 
นอกจากนั้นยังมีเส้นทางอื่นที่อยู่ระหว่างการศึกษาความเป็นไปได้อีก 7 เส้นทาง ได้แก่
1. พระราม 6 – สถานี BTS อารีย์
2. ทองหล่อ – เอกมัย
3. ท่าเรือกรุงเทพ – อ่อนนุช
4. ซอยเสนานิคม – สถานี BTS เสนานิคม
5. สถานี BTS สยาม – สนามหลวง
6. ถนนสามเสน(ดุสิต) – ถนนมิตรไมตรี(ดินแดง)
7. สายไหม – สถานี BTS สะพานใหม่
 
ทั้งนี้กทม. ยังคงมีแผนที่จะเพิ่มเส้นทางอื่นๆ เพื่อพัฒนาการขนส่งมวลชนสาธารณะระบบต่างๆให้เชื่อมโยงเข้าด้วยกัน ทั้งล้อ ราง เรือ รวมไปถึงสนามบิน (ดอนเมือง) โดยมีเป้าหมายสำคัญให้พี่น้องประชาชนตลอดจนนักท่องเที่ยวสามารถเดินทางได้อย่างสะดวกสบาย ปลอดภัย และรวดเร็ว โดยไม่ต้องใช้รถส่วนตัว เพื่อให้กรุงเทพฯ มีศักยภาพในการส่งเสริมความเจริญของประเทศในทุกๆมิติต่อไปครับ