เมกะโปรเจ็กต์2020 “ศักดิ์สยาม” จัดคิวประมูลรถไฟฟ้าสี”ส้ม-ม่วงใต้-แดง-ทางด่วน”3แสนล้าน

นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า ผลการหารือกับนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี กำชับต้องเร่งผลักดันการลงทุนของรัฐวิสาหกิจ โดยเฉพาะโครงการขนาดใหญ่ได้แนะนำให้นำเข้ากองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานเพื่ออนาคตประเทศไทย (TFFIF) ซึ่งกระทรวงมีนโยบายอยู่แล้ว แต่ได้รายงานถึงเรื่องที่ติดล็อกประเด็นต่างๆ เช่น การเวนคืนโครงการต่างๆ ที่ทำให้โครงการล่าช้า ก็ได้ปลดล็อกไปหมดแล้ว หน่วยงานที่เป็นห่วงมากที่สุดตอนนี้ คือการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) กำลังพยายามปลดล็อกปัญหาอยู่

ทั้งนี้ มีบางโครงการที่ดูเหมือนวงเงินน้อยลง แต่ข้อเท็จจริงมาจากการแก้ปัญหาบางอย่างได้ จึงทำให้วงเงินดังกล่าวลดลง เช่น ประมูลทางด่วนพระราม 3 – ดาวคะนอง -วงแหวนตะวันตกของการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.)

“รองนายกสมคิดยังแนะนำอีกว่า ต้องการเห็นการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) กระจายโครงการลงทุนไปตามภูมิภาคต่างๆ ซึ่งก็รายงานไปว่ามีอยู่แล้ว เช่น โครงการรถไฟฟ้า จ.ภูเก็ต รวมถึงโครงการอื่นๆ ที่กำลังศึกษาความเป็นไปได้อยู่ และอยากให้ กทพ.ออกไปลงทุนต่างประเทศ เช่น เมียนมาร์ ลาว จึงได้เรียนไปว่า คงต้องดูแหล่งเงินทุนที่ต้องใช้ก่อน เพราะศักยภาพองค์กรเหล่านี้ก็พอมีอยู่แล้ว”

ส่วนการกำหนดคิวเสนอโครงการต่างๆ นายสมคิดได้บอกให้เร่งรัดเช่นกัน ทางกระทรวงได้แจ้งว่า มีโครงการที่จะเข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เร็วๆ นี้แน่นอน ยกตัวอย่าง โครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มตะวันตก ช่วงศูนย์วัฒนธรรม – บางขุนนนท์ ระยะทาง 27 กม. วงเงินรวมงานระบบ 122,041 ล้านบาท ก็ได้รายงานไปว่า อยู่ระหว่างการจัดวาระเพื่อพิจารณาในที่ประชุม ครม.แล้ว

 

รถไฟฟ้าสายสีม่วงใต้ช่วงเตาปูน-ราษฎร์บูรณะ วงเงิน 124,595 ล้านบาท ได้เคลียร์ปัญหาการขอเข้าใช้พื้นที่บริเวณ ถ.สามเสน เพื่อดำเนินการก่อสร้างเรียบร้อยแล้ว

รถไฟชานเมืองสายสีแดงส่วนต่อขยาย 3 เส้นทาง คือ สายสีแดงเข้ม ช่วงรังสิต-มธ.ศูนย์รังสิต ระยะทาง 8.84 กม. กรอบวงเงิน 6,570.40 ล้านบาท, สายสีแดงอ่อน ช่วงตลิ่งชัน-ศาลายา กรอบวงเงินลงทุน 10,202.18 ล้านบาท มีระยะทาง 14.8 กม., สายสีแดงอ่อน ช่วงตลิ่งชัน-ศิริราช ระยะทาง 4.3 กม. กรอบวงเงิน 6,645.03 ล้านบาท จะดำเนินการเปิดประมูลภายในปีนี้

และโครงการระบบทางด่วนขั้นที่ 3 สายเหนือ ตอน N2 เชื่อมต่อไปยังถนนวงแหวนรอบนอก กทม.ด้านตะวันออก ระยะทาง 10.5 กม. วงเงิน 15,200 ล้านบาท

“การใช้เงินจากกองทุน TFFIF มาสร้างทางด่วน ที่กำลังมีปัญหาเรื่องของภาระดอกเบี้ย ก็ได้ให้นโยบายกับทาง กทพ.ไปว่า ขอให้ดูให้เหมาะสมให้พอดี ขนาดโครงการที่จะลงทุนไม่ควรใหญ่เกินไป อย่าผูกสัญญาเดียว ควรจะเอาโมเดลการแบ่งสัญญาออกเป็นหลายๆ ตอน อย่างมอเตอร์เวย์บางปะอิน- นครราชสีมา และมอเตอร์เวย์บางใหญ่ – กาญจนบุรี ถ้าทำให้เสร็จได้ภายใน 1 ปีถึง 1 ปีครึ่งก็ยิ่งดี ต้นทุนไม่สูง”


ขณะที่เงินในกองทุนที่มีกว่า 40,000 ล้านบาท ที่ยังเบิกจ่ายช้า จะเกลี่ยไปใช้โครงการอื่นหรือไม่นั้น ต้องดูในรายละเอียด เพราะทุกอย่างก็ต้องไปที่กระทรวงการคลังอยู่ดี โดยได้ถามนายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังแล้ว นายอุตตมก็บอกว่า ไม่มีปัญหาทำมาเถอะ โครงการที่จะเข้าข่ายต้องเป็นโครงการที่จะสามารถใช้เงินจากกองทุนได้นั้นต้องเป็นโครงการที่สร้างผลตอบแทนทางการลงทุน เช่น มอเตอร์เวย์ศรีนครินทร์ – สุวรรณภูมิ และมอเตอร์เวย์นครปฐม – ชะอำ ของกรมทางหลวง (ทล.) เป็นต้น