ลุ้น “แผนฟื้นฟู ขสมก.” ปลดหนี้ 1.2 แสนล้าน ฝ่าม็อบเข้า ครม. พรุ่งนี้

จับตา ครม.นัด 20 ต.ค. เคาะแผนฟื้นฟู ขสมก.เวอร์ชั่นใหม่ปลดแอกหนี้ 1.2 แสนล้าน โยกหนี้เก่าให้รัฐแบกรับแทน จ้างเอกชนเดินรถ ปลดระวางรถเก่า เช่ารถใหม่ใช้ระบบไฟฟ้า ค่าตั๋ว 30 บาทนั่งได้ทุกสายได้ทั้งวัน

นายสุระชัย เอี่ยมวชิรสกุล ผู้อำนวยการองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) กล่าวกับ “ประชาชาติธุรกิจ”ว่า ขณะนี้ได้ส่งเรื่องแผนฟื้นฟูกิจการ ขสมก. กลับไปที่กระทรวงคมนาคม เพื่อรอเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบในขั้นตอนถัดไป

เสนอ ครม.เคาะ 20 ต.ค.นี้

สาเหตุที่ยังไม่เสนอ ครม. ซึ่งได้รับการเห็นชอบจากคณะกรรมการพิจารณารายละเอียดแผนฟื้นฟูกิจการ ขสมก. (ฉบับปรับปรุงใหม่) ที่มี นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.สาธารณสุข เห็นชอบแผนฟื้นฟูไปเมื่อวันที่ 14 ก.ย. 2563 เนื่องจากมีการตรวจทานและปรับแก้ตัวเลขข้อมูลต่าง ๆ ให้ถูกต้องก่อน ซึ่งได้ตรวจทานและส่งให้กระทรวงคมนาคมแล้ว

“ขั้นตอนต่อไปจึงเป็นการเสนอให้ที่ประชุม ครม. เห็นชอบ คาดว่าจะมีการเสนอและเห็นชอบในวันที่ 20 ต.ค. 2563 นี้“

อย่างไรก็ตาม จากการที่มีสถานการณ์การชุมนุมจากกลุ่มประชาชนและนักศึกษาในหลายจุด ตั้งแต่วันที่ 14 ต.ค. 2563 ที่ผ่านมา ทำให้มีความกังวลว่า แผนฟื้นฟูดังกล่าวอาจจะยังไม่ถูกเสนอให้ ครม. พิจารณาได้ เนื่องจากรัฐบาลต้องจัดการสถานการณ์ตามประกาศ พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน 2548 ก่อน

ส่วนการดำเนินการตามแผนฟื้นฟู เช่น การจัดหารถเมล์จำนวน 2,511 คัน, การใช้ราคาใหม่ 30 บาทขึ้นได้ทุกสายทุกเที่ยว เป็นต้นนั้น ยังขอไม่ระบุรายละเอียด ขอให้รอ ครม.เห็นชอบก่อน

7 ประเด็นชง ครม.เห็นชอบ

ผู้สื่อข่าวรายงาน สำหรับรายละเอียดของแผนฟื้นฟูที่จะต้องเสนอให้ ครม.เห็นชอบ จะเกี่ยวเนื่องกับ ขสมก. และกรมการขนส่งทางบก (ขบ.) ในฐานะกำกับเส้นทางรถเมล์รวม 7 ประเด็น ดังนี้

1. แนวทางการปฏิรูประบบรถโดยสารประจำทางในเขตกรุงเทพมหานครและจังหวัดที่มีเส้นทางต่อเนื่อง โดยมีโครงข่ายหลัก จำนวน 162 เส้นทาง และให้ ขสมก.บริหารจัดการเดินรถตามแผนฟื้นฟูฉบับปรับปรุงใหม่ ทั้งนี้ ให้ ขบ. พิจารณาปรับปรุงเส้นทางให้มีความสอดคล้องกับความต้องการของประชาชน ให้ครอบคลุมพื้นที่และเชื่อมต่อกับระบบขนส่งในอนาคตต่อไป

2. ขสมก. มีสิทธิ์ได้รับใบอนุญาตประกอบการขนส่งในเส้นทางที่มีการกำหนดใหม่ หรือเส้นทางเดินรถที่มีการเปลี่ยนแปลงในอนาคต ก่อนผู้ประกอบการขนส่งรายอื่น ในกรณีที่ ขสมก. ไม่ประสงค์เดินรถในเส้นทางดังกล่าว ให้ ขบ.โดยอนุมัติจากคณะกรรมการควบคุมการขนส่งทางบกกลาง ประกาศรับคำขอเป็นการทั่วไป

3. นโยบายการกำหนดอัตราค่าโดยสาร ให้ ขสมก. จัดเก็บเป็นอัตราเดียว (Single price) ในอัตรา 30 บาท/คน/วัน/ไม่จำกัดจำนวนเที่ยว

4. ทบทวนมติ ครม. เมื่อวันที่ 25 มิ.ย. 2562 ที่เห็นชอบในหลักการของแผนฟื้นฟูกิจการฉบับเดิมเป็นเห็นชอบแผนฟื้นฟูกิจการฉบับปรับปรุงใหม่ โดยให้ ขสมก. เช่ารถโดยสารไฟฟ้า (EV) จำนวน 2,511 คัน และจ้างเอกชน เดินรถให้บริการ เป็นรถโดยสารไฟฟ้า (EV) หรือรถโดยสาร NGV จำนวน 1,500 คัน

5. อนุมัติให้สำนักงบประมาณจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2565 สำหรับโครงการเกษียณอายุก่อนกำหนด

6. ให้รัฐบาลรับภาระหนี้สินของ ขสมก. มีอยู่ว่า 1.2 แสนล้านบาท โดยจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปี เพื่อชำระคืนต้นเงินกู้ของ ขสมก. เมื่อ Ebitda เป็นบวก ตั้งแต่ปีงบประมาณ 2563 เป็นต้นไป

และ 7. ขอสนับสนุนเงินอุดหนุนจากภาครัฐ จำนวน 7 ปี โดยเป็นไปตามระเบียบที่เกี่ยวข้อง

เปิดภาระหนี้กว่า 1.2 ล้านบาท

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า สำหรับสถานะการเงินของ ขสมก. ณ วันที่ 30 พ.ย. 2562 มีหนี้สินค้างชำระรวม 122,102 ล้านบาท แยกเป็นหนี้พันธบัตรเงินกู้พร้อมดอกเบี้ยจำนวน 57,673 ล้านบาท หนี้เงินกู้ระยะยาวพร้อมดอกเบี้ย จำนวน 56,318 ล้านบาท หนี้ค่าเชื้อเพลิง 113 ล้านบาท หนี้ค่าเหมาซ่อม 252 ล้านบาท หนี้ภาระผูกพันผลประโยชน์พนักงาน 1,560 ล้านบาท หนี้กองทุนบำเหน็จพนักงาน 4,362 ล้านบาท และหนี้สินอื่น ๆ 1,822 ล้านบาท

โดยในปีงบประมาณ 2564 ขสมก.ได้ประมาณการรายรับเงินสด 9,579 ล้านบาท รายจ่ายเงินสด 42,665 ล้านบาท ส่งผลให้ติดลบจำนวน 33,085 ล้านบาท ล่าสุด ครม.อนุมัติให้กู้เงินเพื่อเสริมสภาพคล่องทางการเงิน 7,895 ล้านบาท


นำไปใช้เป็นเงินสดหมุนเวียนในการดำเนินงาน และทำให้มีสภาพคล่องทางการเงินเพียงพอในการให้บริการขนส่งสาธารณะ แยกเป็นนำไปใช้ชำระค่าเชื้อเพลิง 3,219 ล้านบาท ชำระค่าเหมาซ่อม 1,642 ล้านบาท และเสริมสภาพคล่องทางการเงิน 3,033 ล้านบาท