ดัชนีความเชื่อมั่นอสังหาฯ กทม. -ปริมณฑล Q2 ลดลงต่อเนื่อง 9 ไตรมาส

ดัชนีความเชื่อมั่นฯผู้ประกอบการธุรกิจพัฒนาที่อยู่อาศัยในกรุงเทพฯ – ปริมณฑล ในภาพรวมของธุรกิจ ณ ไตรมาส 2/64 มีค่าดัชนีเท่ากับ 46.4 เพิ่มขึ้นเล็กน้อยเมื่อเทียบกับไตรมาส 1/64 แต่ยังคงยังต่ำกว่าค่ากลางที่ระดับ 50.0 เป็นระยะเวลาติดต่อกันมาถึง 9 ไตรมาส

วันที่ 10 กรกฎาคม 2564 ดร.วิชัย วิรัตกพันธ์ รักษาการผู้อำนวยการศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ กล่าวว่า เป็นผลจากการชะลอตัวทางเศรษฐกิจโดยค่าดัชนีความเชื่อมั่นลดลงต่อเนื่องจากไตรมาส 2/62 จนถึงปัจจุบัน

เริ่มต้นจากการบังคับใช้มาตรการควบคุม LTV ของธนาคารแห่งประเทศไทยในไตรมาส 2/62 ปี 2563 ประสบกับการแพร่ระบาด COVID-19 ทำให้ตลาดอสังหาริมทรัพย์ชะลอตัวทั้งในด้านอุปสงค์และอุปทาน

ทั้งนี้ สถานการณ์การแพร่ระบาดในปัจจุบัน ที่ยังไม่สามารถควบคุมได้จนมาถึงไตรมาส 2/64 ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทยให้มีการฟื้นตัวช้ากว่าที่เคยคาดการณ์ไว้

อย่างไรก็ตาม ความเชื่อมั่นในภาวะปัจจุบันของผู้ประกอบการกลุ่มบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ หรือ Listed Companies ประจำไตรมาส 2/64 มีค่าดัชนีเท่ากับ 51.1 สูงกว่าค่ากลางที่ระดับ 50 และสูงกว่าไตรมาส 1/64 ที่มีค่าดัชนีเพียง 49.4 แสดงให้เห็นว่ามีความเชื่อมั่นต่อธุรกิจในภาวะปัจจุบัน

ทั้งนี้ เป็นผลมาจากการเพิ่มขึ้นของยอดขาย การลงทุนใหม่ ๆ และการเปิดตัวโครงการใหม่หรือเฟสใหม่ โดยเฉพาะโครงการบ้านจัดสรรเพื่อทดแทนหน่วยที่ได้ขายไปและทดแทนอาคารชุดที่เปิดตัวลดลง

ขณะที่ผู้ประกอบการกลุ่มผู้ประกอบการนอกตลาดหลักทรัพย์ หรือ Non-listed Companies มีค่าดัชนีความเชื่อมั่นเท่ากับ 39.3 ลดลงจากไตรมาส 1/64 ที่มีค่าดัชนี 41.7 และค่าดัชนียังต่ำกว่าค่ากลางที่ระดับ 50 แสดงให้เห็นว่าไม่มีความเชื่อมั่นต่อธุรกิจในภาวะปัจจุบันในทุก ๆ ปัจจัย

สำหรับดัชนีความเชื่อมั่นของผู้ประกอบการธุรกิจพัฒนาที่อยู่อาศัยกรุงเทพฯ – ปริมณฑล ในภาพรวมอีก 6 เดือนข้างหน้า พบว่าโดยภาพรวมค่าดัชนีความเชื่อมั่น เท่ากับ 50.5 ลดลงอย่างชัดเจนจากไตรมาส 1/64 ซึ่งอยู่ที่ 58.8 แม้ว่าค่าดัชนียังสูงกว่าค่ากลางที่ 50.0 แต่มีการลดลงอย่างมากในทุกปัจจัย

สะท้อนให้เห็นว่าผู้ประกอบการก็ยังคงมีความเชื่อมั่นต่อการพัฒนาธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในอีก 6 เดือนข้างหน้าในเชิงบวกเล็กน้อย อาจเป็นเหตุผลจากการที่รัฐบาลได้ประกาศแผนการเปิดประเทศภายใน 120 วัน หรือเดือนตุลาคม 2564 หากสามารถทำได้ตามแผนดังกล่าวก็จะทำให้สามารถฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศได้ แต่ก็ยังมีความกังวลเรื่องของควบคุมการระบาดของ COVID-19 ที่ยังไม่สามารถควบคุมสถานการณ์ได้ในปัจจุบัน

เมื่อจำแนกกลุ่มผู้ประกอบการฯ ตามประเภทบริษัท พบว่า บริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์มีค่าดัชนีเท่ากับ 55.7 ลดลงจากไตรมาส 1/64 ซึ่งอยู่ที่ 63.6

ขณะที่บริษัทนอกตลาดหลักทรัพย์ มีค่าดัชนีเท่ากับ 42.7 ลดลงจากไตรมาส 1/64 ซึ่งอยู่ที่ 51.5 และจะเห็นได้ชัดว่าผู้ประกอบการขาดความเชื่อมั่นมากกว่าบริษัทมหาชน อาจเป็นผลมาจากความเสียเปรียบในด้านเงินลงทุนพัฒนาโครงการใหม่ หรือ ขยายเฟสใหม่ และความเชื่อมั่นของผู้ซื้อที่มีต่อชื่อเสียงของบริษัทมหาชนซึ่งมีผลต่อโอกาสและการแข่งขันในตลาด โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงที่มีสถานการณ์การแพร่ระบาดของ COVID-19