เศรษฐา ประกาศแผนแสนสิริ 3 ปี ลงทุนใหม่ 1.5 แสนล้าน

เศรษฐา ทวีสิน
เศรษฐา ทวีสิน

แสนสิริประกาศปี 2565 ก้าวแกร่งด้วย “STEP BEYOND” เติบโตยั่งยืนทุกมิติ แข็งแกร่งระยะยาว 3 ปี ด้วยแผนเปิดตัวโครงการใหม่มูลค่ารวม 150,000 ล้านบาท พร้อมเป้าหมายยอดขายรวม 120,000 ล้านบาท ภายใต้ 3 กุญแจสำคัญขับเคลื่อนองค์กร PROFIT – PEOPLE – PLANET ปี 2564 ผลงานยอดขาย 33,500 ล้านบาท สูงกว่าเป้าหมาย 29% ยอดโอน 32,500 ล้านบาท สูงกว่าเป้าหมาย 21%

วันที่ 11 มกราคม 2565 นายเศรษฐา ทวีสิน ประธานอำนวยการและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ปี 2564 นับเป็นอีกปีท่ามกลางสถานการณ์ความท้าทายที่แสนสิริผ่านมาได้อย่างแข็งแกร่งจากความเชื่อมั่นใน “ความหวัง” หรือ “Year of Hope” ที่แสนสิริสามารถตอบรับทุกความหวังของลูกค้า สังคม และคนไทยทุกคนได้อย่างประสบความสำเร็จ ทั้งการตอบรับความหวังให้คนไทยมีบ้านง่ายขึ้น ด้วยการเน้นการเปิดตัวโครงการแนวราบเพื่อตอบรับ Real Demand และเน้นการเปิดตัวโครงการ Affordable Segment ราคาเข้าถึงง่าย ที่ได้รับการตอบรับที่ดี

ทั้ง “คอนโด มี” แบรนด์คอนโดฯล่าสุดราคาต่ำล้าน ที่ปิดการขายทันทีที่เปิดจองโครงการคอนโด มี นวนคร เป็นโครงการแรก คอนโดมิเนียมแบรนด์ เดอะ มูฟ คอนโดฯแนวคิดใหม่ ราคาล้านต้น ที่ได้รับการตอบรับที่ดีจากลูกค้าในทั้ง 5 โครงการที่เปิดตัวในปีที่ผ่านมา

ทาวน์โฮมแบรนด์ สิริ เพลส ซีรีส์ใหม่ “Dream Destination” ที่เขย่าตลาดทาวน์โฮมราคาเข้าถึงง่าย จากกระแสการตอบรับที่ดี ทั้ง สิริ เพลส บางนา-เทพารักษ์ และสิริ เพลส วงแหวน-ลำลูกกา และมิกซ์โปรดักต์ บ้านและทาวน์โฮม แบรนด์ “อณาสิริ” ที่ลูกค้าตอบรับสูง ด้วยยอดขายโต 200%

นอกจากนี้ แสนสิริยังมีบ้านเดี่ยวที่ตอบรับทุกความต้องการ กระจายในหลายทำเลและระดับราคาเพื่อให้คนไทยมีบ้านได้ง่ายขึ้น ส่งผลให้บ้านเดี่ยวแบรนด์บุราสิริ และเศรษฐสิริ ได้รับการตอบรับที่ดีจากลูกค้าเช่นเดียวกัน รวมถึง บูก้าน Exclusive Modern Residence เพียง 14 ยูนิต ที่ปิดการขาย ภายในระยะเวลา 4 เดือน ส่งผลให้แสนสิริมีผลประกอบการที่เกินเป้าหมาย สะท้อนความหวังในการสร้างความแข็งแกร่งของแสนสิริด้วยผลงานยอดขาย 33,500 ล้านบาท สูงกว่าเป้าหมาย 29% จากเป้ายอดขาย 26,000 ล้านบาท และยอดโอน 32,500 ล้านบาท สูงกว่าเป้าหมาย 21% จากเป้ายอดโอน 27,000 ล้านบาท ที่ได้วางไว้

นอกจากนี้ แสนสิริยังตอบรับความหวังในการสร้างรอยยิ้มให้คนไทยและดูแลโลก ได้สำเร็จผ่านแคมเปญ “No One Left Behind แสนสิริไม่ทอดทิ้งใคร” ให้ความช่วยเหลือสังคมไทยทุกภาคส่วนเพื่อให้ทุกคนก้าวข้ามวิกฤตโควิด-19 ไปด้วยกัน รวมถึง แคมเปญการตลาดสร้างรอยยิ้ม อาทิ การจับมือบาร์บีคิวพลาซ่า ส่งปรากฏการณ์สร้างความสุข ยืนหยัดให้คนไทยทั้งประเทศ ได้มีบ้านง่ายขึ้นและอิ่มท้อง ความร่วมมือกับฮาเก้นดาส ปลุกพลังบวกและให้กำลังใจคนไทยทั้งประเทศ สร้างปรากฏการณ์ดับเบิลความสุขครั้งใหญ่

ตลอดจนให้คนไทยมีบ้านง่ายขึ้นผ่านโปรโมชั่นพิเศษมากมาย ซึ่งประสบความสำเร็จอย่างมากนับตั้งแต่เปิดตัว แคมเปญ Live Love Joy ที่ดึง 13 ศิลปิน ปลุกพลังบวก ให้กำลังใจคนไทย ส่งต่อทุกรอยยิ้ม ผ่านโลก Virtual ทั้งยังสนับสนุนความเท่าเทียมภายใต้แนวคิด Live Equally ผ่านแคมเปญสินเชื่อ LGBTQ และการอนุมัติให้พนักงาน LGBTQ ลาแต่งงานและลาแปลงเพศได้ แสนสิริยังเป็นอสังหาฯ รายแรกของไทยที่ประกาศเป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net-zero) เพื่อร่วมกู้วิกฤติสิ่งแวดล้อมโลกอีกด้วย

นายเศรษฐา กล่าวว่า ปี 2565 แสนสิริจะก้าวแกร่งด้วย “STEP BEYOND” เติบโตยั่งยืนทุกมิติมีกลยุทธ์ 3 กุญแจขับเคลื่อนองค์กร PROFIT – PEOPLE – PLANET ได้แก่

“Profit” แสนสิริจะมุ่งสร้างรายได้และผลกำไรเพื่อผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทุกส่วน และความแข็งแกร่งขององค์กรด้วยแผนเปิดตัว 46 โครงการใหม่ มูลค่ารวม 50,000 ล้านบาท แบ่งเป็นโครงการแนวราบ 28 โครงการ และคอนโดมิเนียม 18 โครงการ โดยมีสัดส่วนของ Affordable Segment 50% เพื่อให้แสนสิริเป็นแบรนด์ที่เข้าถึงง่าย

ประกอบด้วยคอนโดมิเนียมราคาเข้าถึงได้ ภายใต้แบรนด์คอนโด มี, เดอะ มูฟ, ดีคอนโด, เดอะ ไลน์ พร้อมไฮไลต์ด้วยการรุกคอนโดมิเนียมแบรนด์ “เดอะ เบส” ซึ่งในปีนี้จะมีการเปิดตัว 4 โครงการใหม่ มูลค่ารวม 4,500 ล้านบาท ขณะที่แนวราบ วางแผนเปิดตัวทาวน์โฮมราคาเข้าถึงง่าย แบรนด์ สิริ เพลส 8 โครงการใหม่ มูลค่ารวม 6,100 ล้านบาท

นอกจากนี้ยังมีแผนเปิดตัวบ้านและทาวน์โฮม แบรนด์ “อณาสิริ” ที่ลูกค้าให้การตอบรับสูงในปีที่ผ่านมา เพื่อตอบรับความต้องการที่หลากหลาย รุกแบรนด์ “สราญสิริ” พร้อมเผยโฉมใหม่ของบ้านเดี่ยวแบรนด์สราญสิริดีไซน์ใหม่ ครองความเป็นผู้นำบ้านเดี่ยวระดับบนด้วยการเปิดตัวแบรนด์ ”บุราสิริ และเศรษฐสิริ” ต่อเนื่อง รวมทั้งต่อยอดความสำเร็จของ Exclusive Modern Residence แบรนด์ “บูก้าน”

และไฮไลต์ที่สำคัญของโครงการแนวราบ ด้วยการกลับมาของบ้านเดี่ยวในระดับ Luxury แบรนด์ “นาราสิริ” 2 โครงการใหม่ มูลค่ารวม 8,300 ล้านบาท โดยตั้งเป้าหมายยอดขาย และยอดโอนโครงการ ในปี 2565 ไว้ที่ 35,000 ล้านบาท นอกจากนี้แสนสิริยังมองถึงความแข็งแกร่งระยะยาว 3 ปี เติบโตอย่างยั่งยืน ด้วยแผนเปิดตัวโครงการใหม่มูลค่ารวม 150,000 ล้านบาท พร้อมเป้าหมายยอดขายรวม 120,000 ล้านบาทอีกด้วย

“PEOPLE” การดำเนินธุรกิจภายใต้ “YOU-centric” คุณทุกคนเป็นศูนย์กลางการขับเคลื่อนที่สำคัญของแสนสิริ ทั้ง พนักงาน ลูกค้า และสังคม อาทิ การส่งเสริมความเสมอภาคในพนักงาน ทั้งในด้านการเติบโตและสวัสดิการของทุกเพศ การนำเสนอโครงการที่คิดมาจากความต้องการของกลุ่มลูกค้าอย่างแท้จริง และ คนตัวใหญ่ต้องช่วยคนตัวเล็ก ลดความเหลื่อมล้ำ ส่งเสริมความเท่าเทียมในสังคม

“PLANET” แสนสิริยังมุ่งมั่นเดินหน้าในพันธกิจสีเขียว โดยวางเป้าหมายเป็นบริษัทอสังหาริมทรัพย์รายแรกของไทยที่วางเป้าหมายเป็น Net-zero องค์กรที่ปล่อยก๊าซเรือนกระจกเป็นศูนย์ โดยพันธกิจในปี 2565 โครงการแสนสิริต้องใช้พลังงานสะอาด ด้วยการติดตั้ง Solar Roof ในส่วนกลางของโครงการใหม่ 100% รวมทั้ง ติดตั้ง Solar Roof ในบ้านทุกหลังของโครงการใหม่ในระดับบน 100% พร้อมไฟในสวนต้องเป็นไฟพลังงานแสงอาทิตย์ 100% ทุกโครงการในปีนี้

นอกจากนี้ ไฟถนนจะเป็นไฟพลังงานแสงอาทิตย์ ที่จะเริ่มในปีนี้เช่นเดียวกัน และผลักดันให้เพิ่มขึ้นเป็น 100% ในอนาคต ส่งเสริมการใช้รถยนต์พลังงานไฟฟ้า โดยส่วนกลางของทุกโครงการใหม่ของแสนสิริต้องมี EV Charger 100% เริ่มต้นในปีนี้ รวมทั้งบ้านทุกหลังในโครงการระดับบนโครงการใหม่ของแสนสิริจะต้องมี EV Charger 100% พร้อมการจัดการเรื่อง Waste Management ทั้งจากการก่อสร้างและในโครงการ นอกจากนี้บ้านโครงการใหม่ของแสนสิริกว่า 70% จะต้องเป็น COOLIVING DESIGNED HOME เพื่อช่วยลดอุณหภูมิให้บ้านเย็น และประหยัดพลังงาน

“ภายใต้วิสัยทัศน์ ‘STEP BEYOND’ ในปีนี้ แสนสิริมุ่งมั่นที่จะเติบโตอย่างแข็งแกร่งยั่งยืนในทุกมิติ พร้อมเป็นกำลังสำคัญให้ทุกองค์กรก้าวแกร่งไปด้วยกันในทั้ง 3 ด้าน เพราะเราเชื่อว่า ‘ธุรกิจที่แข็งแรงต้องดูแลโลก และดูแลสังคม’ และเมื่อคนแข็งแรงช่วยกัน เราก็จะสามารถสร้างความหวังและกำลังใจให้คนตัวเล็กสู้ต่อ เพื่อให้ประเทศขับเคลื่อนต่อไปได้” นายเศรษฐากล่าว