“ASW-แอสเซทไวส์” ชูยุทธศาสตร์ “WIND OF CHANCE” กางใบเรือรับสายลมแห่งโอกาสเปิด 7 โครงการใหม่ทั้งแนวสูงและเพิ่มพอร์ตแนวราบ มูลค่ากว่า 12,400 ล้านบาท ปี 2565 ตั้งเป้ารับรู้รายได้ 6,000 ล้านบาท รุกกลยุทธ์ synergy จับมือพันธมิตรบุกธุรกิจใหม่ เสริมความแข็งแกร่ง ตั้งเป้าโกยยอดขายปีนี้กว่า 10,000 ล้านบาท
วันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2565 นายกรมเชษฐ์ วิพันธ์พงษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอสเซทไวส์ จำกัด (มหาชน) หรือ ASW บริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่เป็นผู้นำด้านไลฟ์สไตล์ ภายใต้แนวคิด “ความสุขที่ออกแบบมาเพื่อคุณ-We Build Happiness” เปิดเผยว่า ปี 2565 บริษัทก้าวสู่การดำเนินธุรกิจปีที่ 18 เปรียบเสมือนเรือที่กางใบเต็มที่พร้อมออกไปคว้าโอกาสใหม่ ในช่วงเวลาที่มีแรงลมส่งธุรกิจทุกทิศทาง โดยยุทธศาสตร์สำคัญที่บริษัทเตรียมพร้อมไว้ในปีนี้คือ “WIND OF CHANCE” ต่อยอดความสุขของทุกการอยู่อาศัย พร้อมเปิดรับทุกโอกาสทางธุรกิจ
- ประกาศแล้ว! พระราชกฤษฎีกาเงินช่วยค่าครองชีพผู้รับเบี้ยหวัดบำนาญ รับ 11,000 บาทต่อเดือน
- บังคับใช้แล้ว! หลักเกณฑ์การดำเนินงาน 30 บาทรักษาทุกที่ ด้วยบัตรประชาชนใบเดียว
- รักษาการอธิบดี DSI เปิดเงื่อนไข “ขนย้ายกากแคดเมียม” เข้าข่ายเป็นคดีพิเศษหรือไม่
ทั้งนี้ ทิศทางตลาดอสังหาริมทรัพย์ในไทยมีแนวโน้มฟื้นตัวต่อเนื่องในปีนี้ ตามทิศทางเศรษฐกิจที่ฟื้นตัว โดยมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐเป็นแรงลมส่ง แอสเซทไวส์ มองว่าเป็นจังหวะที่ดีในการคว้าโอกาสขยายธุรกิจเชิงรุก ด้วยการพัฒนาโครงการที่ตอบโจทย์ และเชื่อมต่อความสุขสู่ทุกกลุ่มลูกค้าได้อย่างแท้จริง โดยวางแผนเปิดตัวใหม่ 7 โครงการ มูลค่ารวม 12,400 ล้านบาท แบ่งเป็นคอนโดมิเนียม 5 โครงการ และเพิ่มพอร์ตบ้านแนวราบอีก 2 โครงการ แบ่งเป็นสัดส่วนคอนโดมิเนียม 60% และบ้าน 40%
“จากประสบการณ์ ความเข้าใจไลฟ์สไตล์ที่เปลี่ยนไปของกลุ่มลูกค้า และการศึกษาวิเคราะห์ข้อมูล ผนวกกับสถานการณ์ปัจจุบันในยุค New Normal ทำให้ผู้บริโภคมองหาที่อยู่อาศัยที่มีพื้นที่ใช้สอยกว้างขวาง มีฟังก์ชั่นการใช้งานเป็นสัดส่วน ทำให้เราตัดสินใจปรับเพิ่มพอร์ตโครงการบ้านเพื่อตอบโจทย์อุปสงค์ที่ขยายตัวในตลาด”
ล่าสุดตั้งแต่ต้นปี 2565 ที่ผ่านมา บริษัทเริ่มส่งสัญญาณเชิงบวกเพื่อสะท้อนการเติบโตที่แข็งแกร่ง โดยประกาศจับมือพันธมิตรยักษ์ใหญ่จากญี่ปุ่น “บริษัท ทาคาระ เลเบ็น จำกัด” ประเทศญี่ปุ่นพัฒนาโครงการแรก “แอทโมซ บางนา” มูลค่าโครงการกว่า 2,200 ล้านบาท
และเสริมแกร่งให้พอร์ตลงทุนด้วยการเข้าซื้อคอนโดมิเนียมบนทำเลทองใจกลางรัชดา-สุทธิสาร อย่าง โครงการ แม็กซี่ ไพร์ม รัชดา-สุทธิสาร จาก บริษัท แม็กซี่ พรีเมียร์ วัน จำกัด
และเมื่อเร็ว ๆ นี้ แอสเซทไวส์ได้ร่วมเป็นพันธมิตรในการเปิดตัวเหรียญ Popcoin ซึ่งเป็น Smart Marketing Platform Entertainmerce ที่เกิดจากความร่วมมือของบริษัทชั้นนำอย่าง บริษัท อาร์เอส จำกัด (มหาชน) หรือ RS Group, บริษัท โฟร์ท แอปเปิ้ล จํากัด, บริษัท ฟิวเจอร์คอมเพเทเร่ จำกัด ฯลฯ
นอกจากนี้ยังพร้อมมุ่งสู่เทรนด์การดูแลสุขภาพผ่านช่องทางดิจิทัล หรือ Digital Health ด้วยการร่วมมือกับ Doctor A to Z ผู้พัฒนาแพลตฟอร์มเทคโนโลยีบริการด้านสุขภาพออนไลน์ เพื่อยกระดับการดูแลสุขภาพของลูกบ้านด้วย “Health Station” Facility ที่ออกแบบเพื่อการดูแลสุขภาพครบวงจร พร้อมเชื่อมต่อแพลตฟอร์มเทคโนโลยีบริการด้านสุขภาพออนไลน์ 24 ชั่วโมง ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ New Normal เปิดให้บริการแก่ลูกค้าไปแล้วในช่วงเดือนมกราคมที่ผ่านมา
แอสเซทไวส์ ยังมีแผนจับมือกับ บริษัท บางกอก เฮลท์แคร์เซอร์วิส จำกัด หรือ BHS ผู้ดำเนินธุรกิจดูแลผู้สูงอายุและเวชศาสตร์ฟื้นฟู เพื่อเปิดศูนย์ REHAB ฟื้นฟูสภาพร่างกาย ให้บริการประเมิน รักษา และฟื้นฟูสมรรถภาพจากผู้เชี่ยวชาญ ที่จะทำให้ลูกค้าได้รับบริการสุขภาพที่มีคุณภาพ และสะดวกสบายยิ่งขึ้น ซึ่งในรายละเอียดทางบริษัทจะมีการเปิดตัวอย่างเป็นทางการอีกครั้งเร็ว ๆ นี้
“จากความมุ่งมั่นขยายธุรกิจอสังหาฯที่เราเชี่ยวชาญอยู่แล้วอย่างไม่หยุดยั้ง ประกอบกับการมุ่งมั่นค้นหาโอกาสในธุรกิจใหม่ ๆ ทำให้เราเชื่อว่า ปีนี้จะเป็นอีกปีที่ท้าทายในการดำเนินธุรกิจของแอสเซทไวส์ โดยเรามุ่งมั่นไต่ระดับความแข็งแกร่งขององค์กร ด้วยเป้าหมายยอดขาย 10,000 ล้านบาท ซึ่งเรามั่นใจว่าจะบรรลุเป้าหมายที่ตั้งไว้ได้อย่างแน่นอน” นายกรมเชษฐ์กล่าว
ข้อมูล ณ สิ้นปี 2564 บริษัทพัฒนาโครงการไปรวม 38 โครงการ มูลค่าโครงการรวมกว่า 38,000 ล้านบาท มีทั้งโครงการสร้างเสร็จและส่งมอบเป็นที่เรียบร้อย 29 โครงการ และมีโครงการที่กำลังเปิดขายและพัฒนาอยู่ 9 โครงการ ปัจจุบันบริษัทมียอดรอรับรู้รายได้ (Backlog) มูลค่ารวมกว่า 7,338 ล้านบาท