ครม. อนุมัติดำเนินโครงการ “ที่พักอาศัยผู้สูงอายุ รามาฯ-ธนารักษ์ วงเงินลงทุน 1,345 ล้านบาท
วันที่ 24 พฤษภาคม 2565 นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงมติคณะรัฐมนตรี อนุมัติให้กรมธนารักษ์และบริษัท ธนารักษ์พัฒนาสินทรัพย์ จำกัด (ธพส.) ดำเนินโครงการ “ที่พักผู้สูงอายุ รามาฯ-ธนารักษ์” บนที่ดินราชพัสดุ จังหวัดสมุทรปราการ กรอบวงเงิน ประมาณ 1,345.934 ล้านบาท
- แคดเมียมมีดีอะไร ทำไมแค่กากยังมีคนอยากได้?
- เช็กเงินอุดหนุนบุตร 600 บาท เดือนเมษายน 2567 เงินเข้าวันไหน
- ปรับเงินเพิ่มค่าครองชีพ ข้าราชการ 4 กลุ่ม เริ่ม 1 พ.ค.นี้
ทั้งนี้ จะเริ่มดำเนินการก่อสร้างโครงการ เมื่อมีผู้เช่า (Leasehold) ห้องพักแล้วทั้งหมดเท่านั้น ซึ่งปัจจุบันมีผู้สูงอายุสนใจจองสิทธิเช่าห้องพักอาศัยแล้ว 1,310 ราย โดยผู้สูงอายุที่เข้าร่วมโครงการ จะได้รับสิทธิประโยชน์ต่าง ๆ เช่น สิทธิการพักอาศัย 30 ปี สิทธิประโยชน์ด้านสุขภาพ
สาระสำคัญของโครงการ
- วัตถุประสงค์ เพื่อส่งเสริมให้ผู้สูงอายุมีที่พักอาศัย พร้อมอุปกรณ์อำนวยความสะดวกที่เหมาะสมสำหรับการดำรงชีวิต รวมทั้งยังเป็นการพัฒนาและใช้ประโยชน์จากที่ดินราชพัสดุที่ว่างให้เกิดประโยชน์สูงสุด และเปิดโอกาสทางธุรกิจและช่องทางการหารายได้ให้กับ ธพส. และรัฐ
ผังโครงการ
- อาคารพักอาศัยรวม 8 ชั้น จำนวน 7 อาคาร มีห้องพักรวมทั้งสิ้น 921 ห้อง
- อาคารให้บริการ ส่วนกลาง
- อาคารสำนักงาน และพื้นที่พาณิชย์
คุณสมบัติและเงื่อนไข
- มีสัญชาติไทยอายุไม่ต่ำกว่า 58 ปี ณ วันจองสิทธิและหรือมีอายุตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไป ณ วันที่เข้าพักอาศัยจริง
- ต้องเป็นผู้ที่มีสุขภาพแข็งแรงช่วยเหลือพึ่งพาตัวเองได้ดี
- มีรายได้หลังเกษียณอย่างน้อย 30,000 บาทต่อเดือนโดยอาจจะเป็นรายได้โดยตรงของผู้สูงอายุ เช่น เงินบำนาญ หรือเงินสนับสนุนจากบุตรหลานก็ได้
สิทธิประโยชน์
- สิทธิที่พักอาศัย 30 ปี ไม่สามารถซื้อขายหรือโอนสิทธิให้บุคคลอื่น เว้นแต่ขายคืนให้ผู้บริหารโครงการ และไม่ตกทอดทายาท
- สิทธิประโยชน์ด้านสุขภาพ
- กรณีเจ็บป่วยฉุกเฉินในระดับปฐมภูมิที่ไม่รุนแรง สามารถใช้ห้องพยาบาลตลอด 24 ชั่วโมง
- กรณีเข้าสู่ภาวะต้องพึ่งพิงแต่ยังสามารถอาศัยอยู่ในห้องพักได้ โดยมีญาติหรือผู้ดูแล
- กรณีไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้และต้องการดูแลในระยะยาว จะได้รับสิทธิการอยู่ในสถานบริบาลผู้สูงอายุรามาธิบดี เมื่อห้องว่าง
- กรณีเข้าสู่ภาวะผู้ป่วยระยะท้ายที่คาดว่าจะเสียชีวิตภายในระยะเวลา 3 เดือน สามารถใช้บริการสถานบริบาลผู้ป่วยระยะท้ายใน Hospice Zone
สิทธิประโยชน์ด้านสินเชื่อ
- ตามเงื่อนไขของแต่ละธนาคารที่เข้าร่วมโครงการ
- กรอบงบ ฯ การลงทุนโครงการ
- จำนวน 1,345.934 ล้านบาท โดยใช้งบฯลงทุนของ ธพส.
ประมาณการค่าใช้จ่าย
- ผู้สูงอายุต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่าย
- ค่าเช่าสิทธิที่ห้องพัก เริ่มต้นที่ 1.82 – 3 ล้านบาท
- ค่าใช้จ่ายส่วนกลาง เดือนละ 2,000 บาท
- ค่าใช้จ่ายในการดูแลสุขภาพ เดือนละ 2,000 บาท
- เงินทุนสำรองในการดำรงชีพ ขณะอยู่ในโครงการ จำนวน 300,000 บาท
- ค่าน้ำ ค่าไฟ และค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ชำระตามจริง
การเปิดรับจองสิทธิ
- ผู้สูงอายุจำนวน 1,310 คน
อย่างไรก็ตาม การเข้าพักอาศัยและการออกจากโครงการ ธพส. จะส่งมอบห้องพักให้ผู้สูงอายุตามที่ได้รับจองสิทธิไว้เมื่อโครงการก่อสร้างแล้วเสร็จ กรณีประสงค์จะออกจากโครงการก่อนกำหนด สิทธิการพักอาศัยจะถูกระงับและไม่ตกทอดแก่ทายาท และหากเสียชีวิต โดยคู่สมรสสามารถพักอาศัยในโครงการต่อไปได้ จนครบตามสัญญา
โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีกล่าวเพิ่มเติมว่า คณะรัฐมนตรีได้เคยมีมติ (8 พ.ย. 2559) เห็นชอบมาตรการการสร้างที่พักอาศัยสำหรับผู้สูงอายุ (Senior Complex) บนที่ราชพัสดุ 4 แห่ง ในพื้นที่จังหวัดชลบุรี นครนายก เชียงราย และเชียงใหม่ ซึ่งการสร้างที่พักอาศัยทั้ง 4 แห่งบนที่ราชพัสดุดังกล่าวอยู่ระหว่างดำเนินการ
ต่อมาได้มีการจัดทำบันทึกข้อตกลงโครงการศูนย์ที่พักอาศัยสำหรับผู้สูงอายุแบบครบวงจร (Senior Complex) ร่วมกัน 6 ฝ่ายระหว่างกรมธนารักษ์ บริษัท ธนารักษ์พัฒนาสินทรัพย์ จำกัด (ธพส.) มหาวิทยาลัยมหิดล โดยคณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี จังหวัดสมุทรปราการ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ ธนาคารออมสิน และธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) บนที่ราชพัสดุแปลงหมายเลขทะเบียนที่ สป.623 (บางส่วน)
ขณที่ สป.646 (บางส่วน) ตำบลบางปลา อำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ เนื้อที่ประมาณ 72 – 1 – 97 ไร่ ประกอบด้วย ศูนย์เรียนรู้และพัฒนาสุขภาวะผู้สูงอายุแบบครบวงจรและบริบาลผู้ป่วยระยะท้าย (Hospice Zone) (มหาวิทยาลัยมหิดลเช่าที่ราชพัสดุ) พื้นที่สำหรับผู้สูงอายุที่ต้องการการพักฟื้นหรือฟื้นฟูสุขภาพ (Nursing Home Zone) (อยู่ระหว่างดำเนินการ)
ส่วนที่พักอาศัยสำหรับผู้สูงอายุ (Senior Housing Zone) ภายใต้ชื่อโครงการ “ที่พักอาศัยผู้สูงอายุ รามาฯ – ธนารักษ์” (โดยบริษัท ธนารักษ์พัฒนาสินทรัพย์ จำกัด เป็นผู้ดำเนินการจัดสร้างและบริหารโครงการ) บนเนื้อที่ประมาณ 20 ไร่ ซึ่งจะเป็นโครงการนำร่อง เพื่อพัฒนาที่พักอาศัยสำหรับผู้สูงอายุ จัดสร้างสถานที่เพื่อให้ผู้สูงอายุที่ดูแลตัวเองได้มีที่พักอาศัยพร้อมอุปกรณ์อำนวยความสะดวกที่เหมาะสมสำหรับการดำรงชีวิต มีระบบการดูแลสุขภาพและสวัสดิการอื่น ๆ แบบครบวงจร