ESG โอกาสเติบโตของพอร์ตควบคู่กับธีมการลงทุนอย่างยั่งยืน

นายศิระ คล่องวิชา  ประธานเจ้าหน้าที่กลุ่มการลงทุน  บลจ.กรุงศรี เปิดเผยว่า “ภาพรวมเศรษฐกิจโลกมีแนวโน้มชะลอตัวลงและการลงทุนในสินทรัพย์ต่างๆมีความผันผวนเพิ่มมากขึ้น อย่างไรก็ตาม แนวคิดการลงทุนอย่างยั่งยืนที่ให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล หรือที่เรียกกันว่า ESG ยังเป็นหนึ่งในเมกะเทรนด์ที่มีความน่าสนใจจากกระแสสังคมโลกได้ให้ความสำคัญด้าน ESG และพร้อมสนับสนุนการลงทุนในบริษัทที่ให้ความสำคัญกับ ESG ภายใต้แนวคิดการลงทุนอย่างยั่งยืน”

“บลจ.กรุงศรี ได้ให้ความสำคัญและพร้อมสนับสนุนการลงทุนภายใต้แนวคิดการลงทุนอย่างยั่งยืนเช่นกัน  เห็นได้จากการได้รับรางวัล Outstanding  Asset Management Company Awards – ESG ประจำปี 2565 จากงาน SET Awards 2022 จัดโดยตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ซึ่งเป็นรางวัลที่มอบให้บริษัทที่มีความโดดเด่นในด้านการกำกับดูแลกิจการที่ดี การดำเนินงานด้านสังคมและสิ่งแวดล้อม รวมถึงการกำหนดนโยบายการลงทุนด้าน ESG ของบริษัท”

“บลจ.กรุงศรี เชื่อมั่นว่าปัจจุบันเป็นจังหวะที่ดีของการลงทุนในธีม ESG ซึ่งการลงทุนตั้งแต่ระยะแรกจะได้รับปัจจัยสนับสนุนจากนโยบายด้านสิ่งแวดล้อมของประเทศต่างๆทั่วโลกที่มีความเข้มงวดและเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ จึงเป็นโอกาสของการลงทุนที่ช่วยให้พอร์ตการลงทุนมีโอกาสเติบโตพร้อมรับมือกับความผันผวนของเศรษฐกิจได้เป็นอย่างดี”

สำหรับกองทุนของบลจ.กรุงศรี ที่มีนโยบายลงทุนในธีม ESG ได้แก่ กองทุน KFESG-A (กรุงศรี Equity Sustainable Global Growth-สะสมมูลค่า) ลงทุนในกองทุนหลัก AB Sustainable Global Thematic Portfolio เน้นลงทุนใน 3 ธีมการลงทุนหลักที่สอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (Sustainable Development Goals) ของสหประชาชาติ ได้แก่ ธีมสภาวะอากาศ (Climate) เช่น พลังงานสะอาด การจัดการทรัพยากร  การรีไซเคิล  ธีมสุขภาพ (Health) ครอบคลุมการเข้าถึงการดูแลสุขภาพ นวัตกรรมทางการแพทย์ คุณภาพชีวิตและการเป็นอยู่  และธีมการเสริมสร้างบทบาทและความเท่าเทียมในสังคม (Empowerment)  เช่น การศึกษาและการจ้างงาน ความมั่นคงทางการเงิน  เทคโนโลยีสารสนเทศ การสื่อสาร และโครงสร้างพื้นฐานที่ยั่งยืน เป็นต้น ซึ่ง SDGs ได้รับการสนับสนุนจาก193 ประเทศทั่วโลกและมีเม็ดเงินลงทุนเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง จึงเป็นธีมการลงทุนระยะยาวที่ดี”

กองทุน KFCLIMA-A ลงทุนในกองทุนหลัก DWS Invest ESG Climate Tech, Class USD TFC เน้นลงทุนในบริษัทที่มีการพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อสิ่งแวดล้อมโดยการลดหรือป้องกันการปล่อยคาร์บอน เช่น โรงไฟฟ้าพลังงานสะอาด  โครงข่ายไฟฟ้าอัจฉริยะ  และบริษัทที่ได้รับประโยชน์จากการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ เช่น บริษัทผลิตเครื่องฟอกอากาศ  บริษัทที่ผลิตยาโรคภูมิแพ้  บริษัทที่ทำเกี่ยวกับนวัตกรรมการจัดการน้ำ โดยเกณฑ์ในการพิจารณาคัดเลือกหุ้นของกองทุนหลักจะให้ความสำคัญกับ ESG มาก มีการคัดกรองบริษัทที่ได้รับการจัดอันดับ ESG ที่โดดเด่นเมื่อเทียบกับคู่แข่งหรือเป็นบริษัทผู้นำด้าน ESG”

สำหรับผู้ที่มองหาสิทธิประโยชน์ทางภาษีควบคู่ไปกับการลงทุน ยังสามารถลงทุนในกองทุนกลุ่มกองทุนอย่าง KFESGSSF/ KFESGRMF และ KFCLIMASSF /KFCLIMARMF ได้อีกด้วย สำหรับ SSF/ RMF ทุกกองทุนลงทุนขั้นต่ำเพียง 500 บาท โดยกลุ่มที่ลงทุนในหุ้นสามารถซื้อผ่านบัตรเครดิตในเครือกรุงศรีที่ร่วมรายการ นอกจากนี้ คะแนนสะสมในบัตรเครดิตกรุงศรีทุก1,000 พอยต์ แลกเป็นเงินลงทุนได้ 100 บาทผ่านระบบออนไลน์อย่าง  @ccess Mobile Application และ @ccess Online Service ได้อีกด้วย” นายศิระกล่าว

ที่มา: บลจ.กรุงศรี ณ 21 พ.ย. 65

สอบถามเพิ่มเติมพร้อมขอข้อมูลหนังสือชี้ชวนได้ที่ บลจ.กรุงศรี โทร. 02-657-5757 | www.krungsriasset.com

หรือ ติดต่อธนาคารกรุงศรีอยุธยาทุกสาขา 

โปรโมชั่นกองทุน SSF/ RMF คลิกที่นี่

“การซื้อหน่วยลงทุนไม่เข้าร่วมรายการส่งเสริมการขายกับบัตรเครดิต”

SSF เป็นกองทุนเพื่อส่งเสริมการออม | RMF ลงทุนเพื่อเกษียณอายุ

ผู้ถือหน่วยลงทุนจะไม่ได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษี หากไม่ปฎิบัติตามเงื่อนไขการลงทุน

ควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน ความเสี่ยง และศึกษาสิทธิประโยชน์ทางภาษีในคู่มือการลงทุนก่อนตัดสินใจลงทุน | ผลการดำเนินงานในอดีตของกองทุนรวม มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต

KFESG/ KFESGSSF/ KFESGRMF

มีนโยบายลงทุนใน AB Sustainable Global Thematic Portfolio, Class S1 USD  (กองทุนหลัก)โดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่า 80% ของ NAV ความเสี่ยงระดับ 6: เสี่ยงสูง และกองทุนป้องกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยนเต็มจำนวน 

KFCLIMA-A/ KFCLIMASSF/ KFCLIMARMF

มีนโยบายลงทุนใน DWS Invest ESG Climate Tech, Class USD TFC (กองทุนหลัก) โดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่า 80% ของ NAV ความเสี่ยงระดับ 6: เสี่ยงสูง และกองทุนป้องกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยนตามดุลยพินิจของผู้จัดการกองทุน  จึงมีความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน ซึ่งอาจทำให้ผู้ลงทุนขาดทุนหรือได้รับกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน/หรือได้รับเงินคืนต่ำกว่าเงินลงทุนเริ่มแรกได้