“ไฮเออร์” ติดอันดับ 1 แบรนด์เครื่องใช้ไฟฟ้าขนาดใหญ่ของโลก 14 ปีติดต่อกัน

ไฮเออร์

รั้งท็อป 3 ของแบรนด์เครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านในไทย

ไฮเออร์ (Haier) สามารถรักษาตำแหน่งแบรนด์เครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านที่ระดับท็อป 3 อันดับแรกในไทย ด้วยอัตราการเติบโต 15% แม้ว่าปัจจัยทางเศรษฐกิจและสังคมจะฉุดรั้งผลการดำเนินงานของอุตสาหกรรมโดยรวมก็ตาม

นอกจากนี้ ไฮเออร์สมาร์ทโฮม (Haier Smart Home) แบรนด์เครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้านชั้นนำของโลกยังติดอันดับหนึ่งแบรนด์เครื่องใช้ไฟฟ้าขนาดใหญ่ระดับโลกอีกครั้ง โดยไฮเออร์ได้รับรางวัลนี้เป็นปีที่ 14 ติดต่อกัน รายงานของยูโรมอนิเตอร์อินเตอร์เนชันแนล (Euromonitor International) ผู้ให้บริการวิจัยตลาดเชิงกลยุทธ์อิสระระบุ

ขณะที่ยอดขายตู้เย็น, เครื่องซักผ้า, ตู้แช่ และตู้แช่ไวน์ของไฮเออร์ยังคงอยู่ในอันดับหนึ่ง ผลงานการขายที่โดดเด่นของเครื่องใช้ไฟฟ้าทั้ง 4 หมวดดังกล่าว นับเป็นความก้าวหน้าครั้งสำคัญของไฮเออร์ในตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าขนาดใหญ่ระดับโลก โดยเครื่องทำความเย็นของไฮเออร์สามารถครองอันดับ 1 ติดต่อกันเป็นเวลา 15 ปี, อุปกรณ์ซักอบรีดภายในบ้าน 14 ปี, 13 ปีสำหรับตู้แช่ไวน์ และตู้แช่ 12 ปี

หลังจากที่ภาวะเศรษฐกิจโลกชะลอตัวที่ทำให้การใช้จ่ายของลูกค้าหยุดชะงักนั้น ไฮเออร์ได้รับมือด้วยการยกระดับอีโคซิสเต็มของแบรนด์และใช้แนวทางแบบเน้นผู้ใช้งานเป็นอันดับแรก โดยยกความต้องการของลูกค้าเป็นศูนย์กลางของกลยุทธ์ของบริษัท ซึ่งแนวทางนี้ช่วยให้ไฮเออร์ทำผลงานได้ดีสวนทางภาวะเศรษฐกิจ บรรลุการเติบโตอย่างมั่นคงตลอดทั้งปี

  • ในปี 2565 แบรนด์คาซาร์เต้ (CASARTE) ของไฮเออร์ ยังคงครองตำแหน่งแบรนด์เครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านระดับไฮเอนด์อันดับหนึ่งของจีน
  • ในยุโรปที่ยอดขายในตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านลดลง 8.8% ไฮเออร์กลับมียอดขายโดยรวมเพิ่มขึ้น 4.2%
  • อัตราการเติบโตของไฮเออร์สมาร์ทโฮมสูงกว่าของกลุ่มอุตสาหกรรมเดียวกันในออสเตรเลียเป็นเวลาสามปีติดต่อกัน ด้วยยอดขายที่เพิ่มขึ้นถึง 30%
  • ผลประกอบการอันยอดเยี่ยมของไฮเออร์สมาร์ทโฮมในญี่ปุ่น สวนทางกับกลุ่มอุตสาหกรรมเดียวกันที่ตกต่ำ โดยเติบโตเร็วกว่าอัตราของทั้งตลาดถึงแปดเท่า

ไฮเออร์เป็นแบรนด์ชั้นนำด้านเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านที่ขับเคลื่อนการพัฒนาอุตสาหกรรมด้วยนวัตกรรมเทคโนโลยีมาเป็นเวลากว่า 30 ปีแล้ว และในยุคของอินเทอร์เน็ตของสรรพสิ่ง (IoT) ไฮเออร์จะสานต่อภารกิจในการเป็นแบรนด์อีโคซิสเต็มชั้นนำระดับโลก ด้วยการนำเสนอเทคโนโลยีสมาร์ทโฮมคุณภาพสูงแก่ครัวเรือนทั่วโลก

ทรีวิงเบิร์ด (Three-Winged Bird) แบรนด์ในเครือไฮเออร์ที่ให้บริการโซลูชั่นตามสั่งสำหรับเครื่องใช้ในบ้าน, เครื่องเรือนและการตกแต่งบ้าน ยังคงเดินหน้าอัปเกรดโมเดลธุรกิจเพื่อเป็นผู้ให้บริการโซลูชันบ้านอัจฉริยะแบบครบวงจรแก่ผู้ใช้ และได้เปิดร้านเอ็กซ์พีเรียนซ์สโตร์ (experience store) ไปแล้วกว่า 3,300 แห่งทั่วโลก

ขณะที่อีโคซิสเต็มบ้านอัจฉริยะของไฮเออร์ ที่ขับเคลื่อนโดยอินเทอร์เน็ตของเสื้อผ้า (Internet of Clothing หรือ IoC) และอินเทอร์เน็ตของอาหาร (Internet of Food หรือ IoF) ซึ่งมีขนาดใหญ่ที่สุดในโลกนั้น ก็มีการเติบโตอย่างมากในปี 2565

ทั้งนี้ บริการ IoC ได้ร่วมมือกับผู้ให้บริการทรัพยากรมากกว่า 5,300 รายใน 15 อุตสาหกรรม เพื่อนำเสนอประสบการณ์อัจฉริยะครบวงจร ครอบคลุมทั้งการซักผ้า, การดูแล, การจัดการ, การสวมใส่ และการจัดซื้อ แก่ผู้ใช้กว่า 65 ล้านคน

นอกจากนี้ ไฮเออร์ยังได้สร้างแพลตฟอร์มดิจิทัลสำหรับการวิจัยและพัฒนา, การผลิต, การตลาด, การควบคุมคุณภาพ, โลจิสติกส์ และบริการ อีกทั้งยังได้จัดทำระบบปฏิบัติการที่รวมเอาดีไซน์แพลตฟอร์ม, การผลิตอัจฉริยะ, การทำงานร่วมกันบนอินเทอร์เน็ต, การปรับแต่ง, การขยายบริการ และการจัดการดิจิทัล เพื่อขับเคลื่อนการเติบโต ตลอดจนสนับสนุนเป้าหมายในการลดต้นทุนและเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงาน

ไฮเออร์ได้เปิดตัวอุทยานนวัตกรรมไฮเออร์อีโคซิสเต็ม (Haier Ecosystem Innovation Park) เมื่อวันที่ 29 ธ.ค. 2565 โดยอุทยานดังกล่าวซึ่งมีทั้ง IoT, บิ๊กดาต้า และเทคโนโลยี 5G จะเชื่อมโยงกับห้องแล็บระดับรัฐ และทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางที่เชื่อมโยงทรัพยากรด้านการวิจัยและพัฒนากับนักวิจัยชั้นนำของโลกเข้าด้วยกัน