กระทรวงมหาดไทย เชิดชูวีรสตรีไทย  จัดงาน ‘ฉลองชัยชนะท้าวสุรนารี 2568’

กระทรวงมหาดไทย เชิดชูวีรสตรีไทย  จัดงาน ‘ฉลองชัยชนะท้าวสุรนารี 2568’

กระทรวงมหาดไทย จัดงาน ‘วันฉลองชัยชนะท้าวสุรนารี ประจำปี 2568’ อย่างยิ่งใหญ่ เพื่อรำลึกถึงวีรกรรมของท้าวสุรนารี ครบรอบ 199 ปี  โดยเมื่อวันที่ 23 มีนาคม 2568 สมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี เสด็จไปทอดพระเนตรการรำบวงสรวงท้าวสุรนารี โดยมี นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วยข้าราชการระดับสูง และประชาชน เฝ้าฯ รับเสด็จ ณ ลานอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี จังหวัดนครราชสีมา

ในการนี้ สมเด็จเจ้าฟ้าฯ กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี ทรงวางเครื่องสักการะส่วนพระองค์ และพระราชทานของที่ระลึกแก่ผู้มีจิตศรัทธาถวายเงินโดยเสด็จพระกุศลตามพระอัธยาศัย จำนวน 100 ราย และพระราชทานผ้าสไบแก่นายอำเภอ 32 อำเภอ เพื่อเชิญไปเปลี่ยนให้อนุสาวรีย์ท้าวสุรนารีประจำอำเภอ ทั้ง 32 อำเภอของจังหวัดนครราชสีมา แล้วทอดพระเนตรการรำบวงสรวงท้าวสุรนารี โดยมีสตรีจากทุกอำเภอในจังหวัดนครราชสีมาร่วมรำบวงสรวง จำนวน 7,272 คน

ทั้งนี้ ท้าวสุรนารี หรือ คุณหญิงโม เป็นวีรสตรีที่รวบรวมสตรีชาวไทยจับอาวุธขึ้นสู้รบกอบกู้เมืองนครราชสีมาจากผู้รุกราน ด้วยความกล้าหาญและเสียสละ จนได้รับชัยชนะ กระทั่งความทราบถึงใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาท พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว จึงได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ สถาปนาคุณหญิงโมให้ดำรงฐานันดรศักดิ์เป็น “ท้าวสุรนารี” พร้อมพระราชทานเครื่องยศทองคำเป็นบำเหน็จแห่งคุณงามความดี

ADVERTISMENT

สำหรับปีนี้ นับเป็นวาระครบรอบ 91 ปี ของการสร้างอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี ซึ่งถือเป็นสัญลักษณ์แห่งความเสียสละของวีรสตรีไทยที่ปกป้องบ้านเมือง โดยชาวจังหวัดนครราชสีมา ได้พร้อมใจกันก่อสร้างอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารีขึ้น ณ บริเวณหน้าประตูชุมพล แล้วนำอัฐิของท้าวสุรนารีมาบรรจุไว้ ณ ฐานรองรับที่สร้างเสร็จเมื่อวันที่ 15 มีนาคม 2477 รวมถึงจัดงานสมโภชเป็นประจำทุกปีสืบเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน ตลอดจนมีการรำบวงสรวงท้าวสุรนารี เพื่อสดุดีและน้อมรำลึกถึงวีรกรรมของท้าวสุรนารี ถือว่าเป็นมงคลสูงสุดแก่ผู้รำบวงสรวงเป็นประจำทุกปี

ADVERTISMENT

นายอนุทิน กล่าวว่า การเฉลิมฉลองวันแห่งชัยชนะของท้าวสุรนารีในวันนี้ เกิดขึ้นจากความกตัญญูและความรักในแผ่นดินเกิดของชาวนครราชสีมา ที่ร่วมกันรำลึกถึงคุณงามความดีและความเสียสละของท้าวสุรนารี ทั้งยังเป็นโอกาสให้เยาวชนรุ่นใหม่ได้เรียนรู้ประวัติศาสตร์และซึมซับความรักชาติสืบไป

“ปีนี้ครบ 91 ปีการก่อสร้างอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี และเป็นปีที่ 199 ของการฉลองครบรอบชัยชนะของท่าน การที่ท่านทั้งหลายยังมีงานเช่นนี้ สะท้อนความโดดเด่นทางประเพณีและวัฒนธรรมของนครราชสีมา และยังเป็นจังหวัดหลักทั้งด้านอุตสาหกรรม การท่องเที่ยว เกษตรกรรม และการค้าการลงทุน อันจะนำมาซึ่งชัยชนะของพวกเราทุกคนในปัจจุบัน นั่นคือ ความมีคุณภาพชีวิต ความอยู่ดีกินดี สมบูรณ์พูนสุขของประชาชน” นายอนุทิน กล่าว

สำหรับงาน วันฉลองชัยชนะท้าวสุรนารี ประจำปี 2568 จัดขึ้นระหว่างวันที่ 23 มีนาคม – 3 เมษายน 2568 รวม 12 วัน 12 คืน โดยมีกิจกรรมมากมาย อาทิ การแสดงศิลปวัฒนธรรมพื้นบ้าน การออกร้านกาชาดเพื่อการกุศล การจัดนิทรรศการประวัติศาสตร์ท้าวสุรนารี การประกวด ‘อัญมณี ศรีเมืองย่า ดาวค้างฟ้าแห่งเมืองย่าโม’ ที่สะท้อนถึงความงามและภูมิปัญญาท้องถิ่น การเดินแบบผ้าไหมเพื่อส่งเสริมอุตสาหกรรมสิ่งทอของจังหวัด การแสดงคอนเสิร์ตจากศิลปินชื่อดังที่มาร่วมสร้างสีสัน และกิจกรรมถนนสายวัฒนธรรม ตลาดน้ำคูเมือง รำวงย้อนยุค รวมถึงการแสดงลิเกที่ได้รับความสนใจจากประชาชนและนักท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก

นอกจากนี้ ยังมีการจัดแสดงขบวนแห่เชิงประวัติศาสตร์ที่นำเสนอเรื่องราวความกล้าหาญของท้าวสุรนารีผ่านขบวนรถบุปผชาติที่ตกแต่งอย่างวิจิตรตระการตา รวมถึงการสาธิตศิลปะการต่อสู้โบราณที่สะท้อนถึงความแข็งแกร่งและภูมิปัญญาของบรรพบุรุษ นับได้ว่างานนี้เป็นเวทีสำหรับการส่งเสริมการท่องเที่ยวของจังหวัดนครราชสีมาให้เป็นที่รู้จักมากขึ้นในระดับประเทศและนานาชาติ

กระทรวงมหาดไทยจึงเชิญชวนประชาชนร่วมเป็นส่วนหนึ่งในงาน “วันฉลองชัยชนะท้าวสุรนารี ประจำปี 2568” เพื่อร่วมรำลึกถึงวีรกรรมของท้าวสุรนารี สืบสานประเพณีวัฒนธรรมอันทรงคุณค่าให้คงอยู่สืบไป โดยมั่นใจว่างานนี้จะเป็นอีกหนึ่งความภาคภูมิใจของชาวนครราชสีมา และเป็นสัญลักษณ์แห่งความสามัคคีของคนในชาติ