ศาสตราจารย์ ดร.สมเด็จเจ้าฟ้าฯ กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี เสด็จไปทรงติดตามความก้าวหน้าการดำเนินงานโครงการศึกษาวิจัยมะเร็งตับและท่อน้ำดี

ศาสตราจารย์ ดร.สมเด็จเจ้าฟ้าฯ กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารีเสด็จไปยัง  โรงพยาบาลบ้านหลวง อำเภอบ้านหลวง จังหวัดน่าน  เพื่อทรงติดตามความก้าวหน้าการดำเนินงานโครงการศึกษาวิจัยมะเร็งตับและท่อน้ำดี หรือ โครงการ TIGER-LC ของสถาบันวิจัยจุฬาภรณ์ และโรงพยาบาลจุฬาภรณ์ เพื่อหาแนวทางป้องกันและช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ที่มีอุบัติการณ์เกิดโรคมะเร็งตับ และมะเร็งท่อน้ำดีในจังหวัดน่าน โดยมีพระดำริให้จัดทำโครงการศึกษาวิจัยมะเร็งตับและท่อน้ำดี ตั้งแต่ปีพ.ศ. 2554  ด้วยทรงมีความห่วงใยในชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชน และทรงเพียรพยายามที่จะช่วยเหลือในการแก้ปัญหาด้านสาธารณสุขของประเทศ

ในการนี้  ทรงรับฟังการกราบทูลรายงานความก้าวหน้า จากคณะนักวิจัยของสถาบันวิจัยจุฬาภรณ์ และแพทย์จากโรงพยาบาลจุฬาภรณ์  เกี่ยวกับ การศึกษาปัจจัยเสี่ยงต่อการเกิดโรคมะเร็งตับและท่อน้ำดี ในพื้นที่อำเภอบ้านหลวง ที่อาจจะช่วยเป็นแนวทางในการป้องกันการเกิดโรค และการคัดกรอง และเฝ้าระวังโรคมะเร็งเซลล์ตับและท่อน้ำดี  ในพื้นที่อำเภอบ้านหลวง รวมถึงพื้นที่ที่พบการระบาดเฉพาะถิ่น ซึ่งต่อมาได้มีการพัฒนาแนวทางการคัดกรองโรคมะเร็งตับและท่อน้ำดี  โดยใช้ปัญญาประดิษฐ์ ซึ่งจะช่วยตรวจจับรอยโรคเพื่อเพิ่มความแม่นยำในการวินิจฉัยโรคร่วมกับภาพอัลตราซาวด์ เพื่อช่วยในการวินิจฉัยโรคมะเร็งตับได้ในระยะแรกเริ่มได้ ทำให้เพิ่มระยะการรอดชีวิตและระยะปลอดโรค และการดำเนินโครงการอาสาจุฬาภรณ์ รุ่นที่ 2 ซึ่งเป็นโครงการเพื่อพัฒนาศักยภาพของประชาชน ให้มีความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องในด้านการดูแลสุขภาพอนามัยของตนเอง ครอบครัว และชุมชน  รวมถึง การจัดทำแอพพลิเคชั่น การสร้างระบบบริการเชื่อมโยงระหว่างชุมชน โรงพยาบาลในพื้นที่ และโรงพยาบาลจุฬาภรณ์

โอกาสนี้  พระราชทานผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพจากโครงการวิจัยในพระดำริ ของสถาบันวิจัยจุฬาภรณ์ อาทิ เจลแอลกอฮอล์ สบู่เหลวล้างมือ เป็นต้น  แก่ผู้แทนตำบลของอำเกอบ้านหลวง 4 ตำบล และผู้อำนวยการโรงพยาบาลบ้านหลวง ได้แก่ ตำบลสวด  ตำบลบ้านฟ้า ตำบลป่าคาหลวง ตำบลบ้านพี้ และผู้อำนวยการโรงพยาบาลบ้านหลวง  เพื่อนำไปใช้ประโยชน์แก่ประชาชนในพื้นที่ต่อไป  พร้อมกับทรงเยี่ยมราษฎรและผู้ป่วยในโครงการศึกษาวิจัยมะเร็งตับและท่อน้ำด

โรคมะเร็งตับ  เป็นมะเร็งที่พบมากเป็นอันดับ 1 ของประเทศและเป็นสาเหตุที่ทำให้เสียชีวิต ไม่น้อยกว่าปีละ 15,000 คน โดยมะเร็งชนิดนี้จะแบ่งย่อยได้เป็น มะเร็งเซลล์ตับที่มีสาเหตุหลักเกิดจากเชื้อไวรัสตับอักเสบบีและซี และมะเร็งท่อน้ำดีที่มีปัจจัยเสี่ยงที่ที่เกี่ยวข้องกับ สารเคมีที่ได้รับจากชีวิตประจำวัน การได้รับพยาธิใบไม้ในตับ และอื่น ๆ การรักษาโรคมะเร็งชนิดนี้ยังเป็นปัญหา เนื่องจากจะตรวจพบโรคเมื่ออยู่ในระยะที่เป็นมากแล้ว และมักจะเสียชีวิตในเวลาอันรวดเร็ว อีกทั้งการยังขาดความรู้เกี่ยวกับกลไกการเกิดโรคและยาที่จะใช้รักษาอย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งนี้ ทรงเห็นถึงความจำเป็นเร่งด่วนที่จะต้องทำการวิจัยโรคมะเร็งตับและท่อน้ำดี และทรงผนึกกำลังระหว่างสถาบันวิจัยจุฬาภรณ์ โรงพยาบาลจุฬาภรณ์ และสถาบันชั้นนำของประเทศไทย ได้แก่ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ มหาวิทยาลัยขอนแก่น และสถาบันมะเร็งแห่งชาติ ร่วมกับ สถาบันชั้นนำของโลก อย่างสถาบันมะเร็งแห่งชาติ ของสหรัฐอเมริกา ร่วมมือกันทำการวิจัย เพื่อนำไปสู่แนวทางการป้องกันโรค ตลอดจนการตรวจวินิจฉัย และรักษา เพื่อให้ผู้ป่วยได้มีชีวิตที่ยืนยาว และสามารถใช้ชีวิตได้ปกติสุขต่อไป