จากกรณีที่จะมีการอ่านคำวินิจฉัยกรณีการร้องขอให้ยุบพรรคไทยรักษาชาติ (ทษช.) ณ อาคารที่ทำการศาลรัฐธรรมนูญ สถานีตำรวจนครบาลทุ่งสองห้อง ในช่วงบ่ายของวันที่ 7 มีนาคมนี้
ล่าสุด ล่าสุด เพจเฟซบุ๊ก iLaw ซึ่งให้ความรู้ทางด้านกฎหมาย ได้โพสต์ข้อความระบุ
- ประกาศแล้ว! พระราชกฤษฎีกาเงินช่วยค่าครองชีพผู้รับเบี้ยหวัดบำนาญ รับ 11,000 บาทต่อเดือน
- บังคับใช้แล้ว! หลักเกณฑ์การดำเนินงาน 30 บาทรักษาทุกที่ ด้วยบัตรประชาชนใบเดียว
- รักษาการอธิบดี DSI เปิดเงื่อนไข “ขนย้ายกากแคดเมียม” เข้าข่ายเป็นคดีพิเศษหรือไม่
รู้หรือไม่? วิจารณ์คำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ เสี่ยงคุก 1 เดือน ปรับ 50,000 บาท
เพิ่งครบรอบหนึ่งปีการบังคับใช้ พ.ร.ป.ว่าด้วยวิธีพิจารณาคดีของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2561 ขณะที่พรุ่งนี้ (7 มี.ค.62) ศาลรัฐธรรมนูญจะวินิจฉัยคดีสำคัญ คือ การยุบพรรคไทยรักษาชาติ ในข้อหาเป็นปฏิปักษ์ต่อระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข
การตัดสินคดีการเมืองของศาลรัฐธรรมนูญครั้งนี้เกิดขึ้นภายใต้บริบทใหม่ เมื่อ สนช. ร่างกฎหมายคุ้มครองศาลรัฐธรรมนูญ ด้วยการเพิ่มบทบัญญัติ “การห้ามละเมิดอำนาจศาลรัฐธรรมนูญ” ซึ่งไม่เคยมีบทบัญญัตินี้มาก่อน
การห้ามละเมิดอำนาจศาลรัฐธรรมนูญ ปรากฏอยู่ในมาตรา 38 ของ พ.ร.ป.ศาลรัฐธรรมนูญฯ โดยกำหนดให้ศาลรัฐธรรมนูญมีอำนาจรักษาความสงบเรียบร้อยของการพิจารณาคดี ในส่วนที่บุคคลเข้ามาในบริเวณที่ทำการศาล โดยศาลอาจมีคำสั่งให้บุคคลกระทำหรืองดกระทำเพื่อให้การพิจารณาคดีดำเนินไปโดยสงบเรียบร้อยและรวดเร็ว ซึ่งเป็นหลักการเดียวกับการห้ามละเมิดอำนาจศาลของศาลทั่วไป
นอกจากนั้นในมาตรา 38 ยังกำหนดไม่ให้ “วิจารณ์คำสั่งหรือวินิจฉัยคดีศาลรัฐธรรมนูญ” ที่กระทำด้วยความไม่สุจริต และใช้ถ้อยคำหรือความหมายที่หยาบคาย เสียดสี อาฆาตมาดร้าย ให้เป็นความผิดฐานละเมิดอำนาจศาลด้วย
ในส่วนนี้ อุดม รัฐอมฤต โฆษกกรธ. ให้ความเห็นว่า การป้องกันการวิจารณ์ศาลรัฐธรรมนูญโดยไม่สุจริตนั้นให้ครอบคลุมการใช้สื่อและสังคมออนไลน์ และรวมถึงการปลุกระดมมวลชนที่มาล้อมกดดันศาลด้วย
การละเมิดอำนาจศาลมีบทลงโทษตามมาตรา 39 ตั้งเเต่ การตักเตือน การไล่ออกจากบริเวณศาล ไปจนถึงการลงโทษจำคุกไม่เกิน 1 เดือน หรือ ปรับไม่เกิน 50,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
…
๐ สรุปสาระสำคัญ พ.ร.ป.ศาลรัฐธรรมนูญฯ https://goo.gl/9FPL7W
๐ พ.ร.ป.ศาลรัฐธรรมนูญฯ https://goo.gl/5oVGRx
ขอบคุณเพจเฟซบุ๊ก iLaw