สาวโพสต์บ่น โดนกรมศุลกากรปรับค่าแบรนด์เนมใช้แล้ว 54,000 บาท

สาวโพสต์บ่น โดนกรมศุลกากร ปรับค่าแบรนด์เนมใช้แล้ว 54,000 บาท

สาวโพสต์บ่นถือแบรนด์เนมใช้แล้วกลับไทยในรอบ 2 ปี งงหนัก โดนถอดเครื่องประดับ-กระเป๋ากลางห้อง แฟนต่างชาติร่วมโดนศุลกากรที่สุววรณภูมิ โดนปรับกว่า 54,000 บาท

วันที่ 23 พฤษภาคม 2565 ผู้สื่อข่าวรายงานว่าสาวรายหนึ่งได้โพสต์เตือนผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวเมื่อวันที่ 21 พ.ค.ที่ผ่านมา ถึงประเด็นค่าปรับภาษีสินค้าแบรนด์เนมกว่า 54,000 บาท ที่สนามบินสุวรรณภูมิ ระบุ “ตอนแรกว่าจะไม่พิมพ์แต่ว่ามีคนถามเข้ามาเยอะมากและเราไม่อยากให้เรื่องนี้เกิดกับคนอื่น เพราะมันแย่มาก”

“เมื่อวานเป็นวันแรกที่กลับเข้าไทย ในรอบ 2 ปีที่เหนื่อยมาก ลงเครื่องเวลาประมาณ 13.30 น.เวลาไทย เดินลงมาตรวจ QR code ปกติ และผ่านด่านเข้าเมืองจนมาหยิบกระเป๋าก็ปกติไม่มีอะไร เมื่อวานคนเยอะมากมีทั้งคนไทยและนักท่องเที่ยวมาพอสมควร พอหยิบกระเป๋าเสร็จเดินมาที่กรมศุลกากรแฟนเข็นรถที่มีกระเป๋า ลาก 3 ใบ ส่วนเราเข็นรถมา มีแต่กระเป๋าถือ 2 ใบระหว่างที่กำลังจะเดินผ่านไม่ทันไร มีคนมาดึงเราทันที”

“ทั้งแฟนและเรา เขาบอกให้เอากระเป๋าสแกนให้หมด เรากับแฟนนำกระเป๋าให้เขาสแกน จากนั้นเขาก็เรียกเรากับแฟนเข้าห้องทันที มีเจ้าหน้าที่พาเข้าห้องหลังจากนั้นก็มีเจ้าหน้าที่เข้ามากัน ประมาณ 8 – 9 คน แฟนกับเราตกใจมาก ทำไมต้องมากันเยอะขนาดนี้ พวกเจ้าหน้าที่เริ่มเปิดค้นกระเป๋าทีละใบอย่างละเอียด เน้นว่าอย่างละเอียด พวกของกินเขาไม่ยุ่งเลย ไม่ว่าจะเป็นพวกวิตามินหรือของฝาก โสม เจ้าหน้าที่ดูแล้วผ่าน ๆ ไม่ถามอะไรมาก แต่ชิ้นไหนที่เป็นแบรนด์เนมจะเอามาแยกโต๊ะทันที ในห้องนั้นมี 2 โต๊ะ อารมณ์เป็นห้องตรวจค้น”

“เจ้าหน้าที่แยกของที่เป็นแบรนด์เนม ได้แก่ เสื้อผ้า รองเท้า กระเป๋า หมวก แว่นตากันแดด แว่นสายตา กระเป๋าสตางค์ กางเกง และที่เราช็อกที่สุดคือ ให้เราถอด เครื่องประดับทั้งหมด เราตกใจเลยถาม “ทำไมต้องถอดหมดเลย”

เจ้าหน้าที่ผู้ชาย บอกว่า ถอดออกมาเช็กครับ เราก็ถอดกำไลและสร้อยคอ เขายังบอกว่า ต่างหูด้วย แหวนด้วย พอถอดออกมาหมดแล้ว ก็พาเข้าอีกห้อง เพื่อค้นร่างกาย ทั้งเราและแฟนโดนกระทำแบบนี้ทั้ง 2 คน และมีการบอกว่าไม่ให้บันทึกภาพอะไรทั้งนั้น

“หลังจากที่เราถอดของออกจากตัวหมด เขาก็ทำการตรวจว่าของแต่ละชิ้นมีมูลค่าเท่าไหร่ โดยไม่สนว่าชิ้นนั้นใช้แล้วหรือไม่ โดยเราอธิบายว่าของทุกชิ้นใช้แล้ว เรามีหลักฐานยกเว้น รองเท้า 2 คู่ 1 คู่เพิ่งซื้อที่ดิวตี้ฟรีเกาหลีไม่ใช่ของเรา แฟนเราซื้อให้น้องสาวแฟนเรา (ซึ่งมีหลักฐานการคุยว่ารองเท้าคู่นั่นซื้อให้น้องสาวจริง  ๆ)”

“อีกคู่ของใหม่ แต่ทำส้นแล้ว จะเอามาใช้ที่ไทย ของทุกชิ้นเราอธิบายหมดแล้ว มีหลักฐานการใช้ แม้กระทั่งเสื้อผ้า มีการซักแห้งมาแล้ว มีกลิ่นน้ำยาหมด กางเกง gucci ของแฟน นางหวงเลยใส่กล่องมา ก็มีหลักฐานว่าใส่แล้ว ไม่เชื่อก็ลองดม (แล้วมีคนหนึ่ง ดมจริง)”

“สักพักนึงเจ้าหน้าที่อีกคนเดินมาบอกว่า ของที่อยู่ตรงนี้ทั้งหมดจะถูกยึดนะคะ เราตกใจมากแล้วถามเจ้าหน้าที่ทำไมต้องยึดค่ะ ทำอะไรผิด ใช้ของแบรนด์เนมไม่ได้เลยหรือคะ เจ้าหน้าที่บอกว่าใช้ได้ แต่ต้องเสียภาษี คุณไม่ทราบหรือว่า ของติดตัวเข้าประเทศได้ทั้งหมดไม่เกิน 20,000 บาท เราบอกว่า แต่ดิฉันมาในฐานะนักท่องเที่ยวแล้วก็ไม่ได้อยู่ประเทศไทยด้วย มาเที่ยวไทยแล้วก็กลับของทุกชิ้นก็กลับพร้อมดิฉัน แฟนดิฉันก็ไม่ได้เป็นคนไทยทำไมต้องเสียภาษีให้”

“ตอนแรกเจ้าหน้าที่ไม่ฟังเหตุผล และบอกว่าถ้าเราไม่ยอมให้ยึด จะติดแบล็กลิสต์ไม่สามารถเข้าประเทศได้อีก เราไม่ยอมจึงปรึกษาทางพี่ ๆ ของเรา เพราะดูแล้วเหตุการณ์แบบนี้ไม่สมควรที่จะเกิดขึ้นมาก สักพักหนึ่งทางเจ้าหน้าที่อีกคน (มันมีหลายคนมาก เพราะในห้องมาเกือบ 10 คนได้) เดินมาบอกว่า เอางี้ถ้าชิ้นไหนมีหลักฐานการใช้แล้ว พี่จะยอมปล่อยไป แต่ถ้าชิ้นไหนไม่มีหลักฐาน จะถูกคิดภาษี ปรากฏว่ากระเป๋า Chanel เพิ่งเอามาใช้กับรองเท้าอีก 2 คู่และเสื้อคลุม Gucci เพิ่งใช้ไปไม่มีรูปถ่ายมาก่อนเลยโดนภาษีไป เกือบ 7 หมื่นบาท”

“ยังไงก็จะคิดภาษีกับแฟนเราให้ได้ เพราะรองเท้าอีกคู่นั่น แฟนเราซื้อด้วยตัวเอง ซึ่งแฟนเราไม่เคยเจอแบบนี้มาก่อน โดยอัตตราการคิดภาษี กระเป๋า 20% (+vat 7% ) รวม 27% ส่วนรองเท้าและเสื้อผ้า 30% (+vat7%) = 37% ในตอนนั้นเราก็ยังไม่ยอม จึงยืนรอจนกระทั่ง 3 ชม. มีเจ้าหน้าที่อีกกลุ่มมา เขาลดหย่อนจนเหลือ 54,000 บาท”

“ต่อไปนี้ใครจะใส่แบรนด์เนมต้องระวัง เพราะเขาคงจะจ้องคุณตั้งแต่ลงเครื่องแล้ว หลักฐานต้องมี ต้องแน่น มีการมาบอกเราด้วย พี่จับมากี่หลายราย พี่รู้ทุกแบรนด์ ดิฉันไม่ใช่แม่ค้า ดิฉันใช้เอง ไม่คิดจะปกปิดอะไรทั้งนั้น และที่สำคัญ คุณไม่มีสิทธิมาคิดภาษีกับชาวต่างชาติ มันเสียความรู้สึกมาก หากกฎข้อไหน ที่บอกให้ชาวต่างชาติห้ามนำแบรนด์เนมเข้าประเทศ รบกวนช่วยแจ้งทีค่ะ เพราะที่ประเทศเกาหลีเขาไม่ทำแบบนี้

“หากคุณซื้อของดิวตี้ฟรีไทยแล้วมาเที่ยวเกาหลี คุณไม่อยากเสียภาษีเอาของเข้าประเทศก็ให้ฝากที่สนามบินอินชอน ขากลับคุณค่อยไปเบิกเอา โดยมีค่าฝากเท่านั้น” “กระเป๋าก็สะพายอยู่กับตัวเลยค่ะ ไม่ได้เก็บใส่กระเป๋าค่ะ ไม่ได้ติดเรื่องเสียภาษีค่ะ แต่ติดที่ว่ากระทำของเจ้าหน้าที่ และของที่ชาวต่างชาติซื้อไม่ควรเสียภาษีค่ะ ควรแจ้งค่ะ ว่าสามารถฝากเก็บที่ได้หรือไม่ แต่นี่ทางเจ้าหน้าที่ไม่ได้แจ้ง แจ้งแต่จะยึดของทั้งหมด แม้แต่เครื่องประดับที่อยู่กับตัวค่ะ”