Barbenheimer ดันรายได้บ็อกซ์ออฟฟิศสหรัฐและแคนาดาสุดสัปดาห์สูงสุดในรอบ 4 ปี

บาร์บี้

ปรากฏการณ์ ‘Barbenheimer’ จากการเปิดตัวภาพยนตร์ บาร์บี้ และ ออพเพนไฮเมอร์ ดันรายได้บ็อกซ์ออฟฟิศสหรัฐและแคนาดาสุดสัปดาห์แตะ 302 ล้านดอลลาร์ สูงสุดในรอบ 4 ปี

วันที่ 24 กรกฎาคม 2566 บาร์บี้ ภาพยนตร์เกี่ยวกับตุ๊กตาแฟชั่นชื่อดัง และออพเพนไฮเมอร์ ชีวประวัติของผู้ประดิษฐ์ระเบิดปรมาณู ดึงดูดแฟนหนังให้หลั่งไหลเข้ามา ช่วยให้รายได้บ็อกซ์ออฟฟิศสหรัฐและแคนาดาสุดสัปดาห์นี้เพิ่มขึ้นกว่าเท่าตัวจากปีก่อนอยู่ที่ประมาณ 302 ล้านดอลลาร์ หรือราว 10.40 พันล้านบาท

วอร์เนอร์ บราส์ (Warner Bros.) เผยว่า บาร์บี้เป็นภาพยนตร์ยอดนิยมของโรงภาพยนตร์ทั้งในสหรัฐ และแคนาดา โดยทำยอดขายตั๋วได้ 155 ล้านดอลลาร์ หรือราว 5.3 พันล้านบาท

ขณะที่นักวิจัยคอมสกอร์กล่าวว่า บาร์บี้ทำรายได้เปิดตัวสูงที่สุดของปีนี้ แซงหน้า The Super Mario Bros. Movie ที่ทำได้ 146.4 ล้านดอลลาร์ หรือราว 5 พันล้านบาท เมื่อเดือนเมษายน โดยภาพยนตร์เรื่องนี้เปิดตัวในช่วงเดียวกันกับออพเพนไฮเมอร์ ของผู้กำกับคริสโตเฟอร์ โนแลน ซึ่งทำรายได้ไป 80.5 ล้านเหรียญดอลลาร์ หรือราว 2.7 พันล้านบาท

แฟนหนังกว่า 200,000 คน ซื้อตั๋วเพื่อชมภาพยนตร์ใหม่ทั้งสองเรื่องในวันเดียวกันที่โรงภาพยนตร์เครือข่ายต่าง ๆ เช่น AMC Entertainment Holdings Inc. และ Regal ของ Cineworld Group Plc ซึ่งปรากฏการณ์นี้เรียกว่า “Barbenheimer”

ทั้งนี้ การเปิดตัวพร้อมกันของ บาร์บี้ และ ออพเพนไฮเมอร์ ทำให้คอหนังแห่ชมภาพยนตร์เป็นจำนวนมาก ทำให้โรงภาพยนตร์มีรายได้ในช่วงสุดสัปดาห์ดีที่สุดนับตั้งแต่ที่ Avengers : Endgame เปิดตัวในเดือนเมษายน 2562

“ภาพยนตร์บาร์บี้ กำกับโดย เกรต้า เกอร์วิก และนำแสดงโดย มาร์โก ร็อบบี คาดว่าจะสร้างรายได้ 140-175 ล้านดอลลาร์ หรือราว 4.8-6 พันล้านบาท สำหรับการเปิดตัวในประเทศ ตามรายงานของ Boxoffice Pro คาดการณ์รายได้เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา เนื่องจากภาพยนตร์ดังกล่าวได้รับความสนใจจากสื่ออย่างล้นหลาม สามารถทำเงินเพิ่ม 182 ล้านดอลลาร์ หรือราว 6.2 พันล้านบาท ในตลาดต่างประเทศ” วอร์เนอร์ บราส์ กล่าว

ADVERTISMENT

ด้านออพเพนไฮเมอร์ ของ Universal Pictures ก็มีส่วนอย่างมากในการดันรายได้ของโรงภาพยนตร์เช่นกัน โดยได้ล็อกโรงภาพยนตร์ Imax ในประเทศเป็นเวลาสามสัปดาห์ ยอดขายตั๋วออพเพนไฮเมอร์ในสหรัฐอเมริกาและแคนาดาเกือบ 50% เป็นจอขนาดใหญ่ระดับพรีเมี่ยม โดยจอ IMAX คิดเป็น 26% ของรายได้จากบ็อกซ์ออฟฟิศในประเทศ

ขณะที่ประเทศไทยภาพยนตร์เรื่องบาร์บี้และออพเพนไฮเมอร์ก็ถูกพูดถึงในโซเชียลมีเดียเป็นจำนวนมาก ทั้งวิเคราะห์เนื้อหาในแง่มุมต่าง ๆ รวมถึงดาราและเหล่าอินฟลูเอนเซอร์ต่างคัฟเวอร์เป็นตุ๊กตาบาร์บี้แต่งกายในชุดสีชมพูตามกระแส