แมนฯ ยูไนเต็ด ถล่ม เชลซี 4-1 คว้าตั๋ว ยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก ใบสุดท้าย

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
ภาพจาก AFP

ปีศาจแดง “แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด” เปิดบ้านถล่ม สิงห์บูลส์ “เชลซี” ขาดลอย 4-1 ประตู คว้าตั๋ว ยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก ใบสุดท้าย เก็บได้ 72 แต้ม แซง นิวคาสเซิล ขึ้นอันดับ 3

วันที่ 26 พฤษภาคม 2566 ศึกฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ นัดที่ 37 ของฤดูกาลก่อนที่จะเข้าสู่นัดสุดท้ายในช่วงปลายสัปดาห์ ปีศาจแดง “แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด” เปิดรังโอลด์แทรฟฟอร์ดรับการมาเยือนของ สิงห์บูลส์ “เชลซี”

เกมนี้ผีแดงขอเพียงเเต้มเดียวก็จะการันตีท็อปโฟร์ คว้าตั๋ว “ยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก” ใบสุดท้ายไปครองแต่หากหวังอันดับ 3 เหนือนิวคาสเซิลก็ต้องเก็บชัยชนะให้ได้ ขณะที่ เชลซี เล่นแบบไม่มีอะไรจะเสีย เนื่องจากไม่มีลุ้นอะไรแล้วในฤดูกาลนี้ และจบที่ครึ่งล่างของตารางพรีเมียร์ลีกเป็นครั้งแรกตั้งแต่ฤดูกาล 1995-96 เป็นที่แน่นอนแล้ว

รายชื่อ 11 ตัวจริง

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด : ดาบิด เด เคอา (GK), อารอน วาน บิสซาก้า, ราฟาแอล วาราน, วิคตอร์ ลินเดอเลิฟ, ลุค ชอว์, คาเซมิโร่, คริสเตียน อีริคเซ่น, แอนโทนี่, บรูโน่ แฟร์นันด์ส, เจดอน ซานโช่ และอองโตนี่ มาร์กซิยาล

เชลซี : เกป้า อาร์ริซาบาลาก้า (GK), เทรฟโวห์ ชาโลบาห์, เวสลีย์ โฟฟาน่า, เซซาร์ อัซปิลิกวยต้า, ลูอิส ฮอลล์, เอ็นโซ เฟร์นานเดซ, คาร์นีย์ ชุควูเมก้า, คอเนอร์ กัลลาเกอร์, มิไคโล มูดริค, โนนิ มาดูเอเก้ และไค ฮาแวร์ตซ์

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
ภาพจาก AFP

ครึ่งแรกคาเซมิโร่เป็นพระเอก

เริ่มเกมมาได้ไม่นานเจ้าบ้าน ปีศาจแดง มีโอกาสป้วนเปี้ยนหน้าปากประตูของเชลซีก่อน เนื่องจากทัพสิงห์บูลส์ต่อบอลกันไม่ได้และเสียจากการโดนเพรสซิ่ง แต่หมัดสวนของเชลซีก็น่ากลัวไม่น้อยมีโอกาสได้หลุดแบบหวาดเสียว ในนาทีที่ 4 ลูอิส ฮอลล์ ได้ปาดจากทางซ้ายให้ มูดริค แปโล่ง ๆ แต่วืดไปอย่างน่าเสียดาย

ADVERTISMENT

จากนั้น แมนฯ ยูไนเต็ด ได้ลูกฟรีคิก และเป็น คริสเตียน อีริคเซ่น ที่เปิดจากลูกตั้งเตะให้ คาเซมิโร่ ได้โขกเน้น ๆ ส่งบอลเข้าตาข่ายไปชนิดที่ เกป้า หมดสิทธิป้องกัน พาเจ้าบ้านขึ้นนำเร็ว 1-0 ประตู ในนาทีที่ 6 เท่านั้น โดยเจ้าตัวยิงประตูได้สองนัดติดต่อกันแล้ว

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
ภาพจาก AFP

ในนาทีที่ 19 ปีศาจแดงพลาดโอกาสขึ้นนำอย่างน่าเสียดาย จากจังหวะสวนกลับที่ คริสเตียน อีริคเซ่น หวดบอลยาวให้ แอนโทนี่ ได้หลุดในสถานการณ์ที่มีผู้เล่นยูไนเต็ดสามคนและเหลือกองหลังเชลซีเพียงคนเดียว เจ้าตัวเลือกจ่ายให้ อองโตนี่ มาร์กซิยาล แต่น่าเสียดายที่จับบอลแรกห่างตัว อัซปิลิกวยต้า จึงตามลงมาสกัดได้ทันเวลา

ADVERTISMENT

จากนั้นยูไนเต็ดมาเสียผู้เล่นตัวสำคัญ แอนโทนี่ บาดเจ็บข้อเท้าจนเล่นต่อไม่ไหวถึงขั้นต้องหามออกจากสนาม จากจังหวะเข้าปะทะกับ เทรฟโวห์ ชาโลบาห์ และเป็น มาร์คัส แรชฟอร์ด ที่ถูกส่งลงมาแทนในนาทีที่ 29

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
ภาพจาก AFP

นำหนึ่งลูกยังวางใจไม่ได้ เชลซี ยังบุกและได้จบอยู่เป็นระยะ ลูอิส ฮอลล์ คนเดิมจากด้านซ้ายปาดเข้ามาให้ ไค ฮาแวร์ตซ์ ได้พุ่งโหม่งจ่อ ๆ แต่ก็หลุดกรอบไปอย่างน่าเสียดายในนาทีที่ 32

ช่วงท้ายครึ่งเวลาเเรกเป็น เชลซี ที่ได้บุกใส่ แมนฯ ยูไนเต็ด อยู่ฝ่ายเดียว แต่พอลำเลียงบอลมาถึงกรอบเขตโทษก็มีแต่จังหวะไม่เป็นใจและไม่แม่นกันเอง จึงทำได้เพียงหวดเสียวเท่านั้น ในนาทีที่ 45+1 เป็น คอเนอร์ กัลลาเกอร์ ที่ได้ยิงจากฝั่งขวา แต่บอลก็เรียดพุ่งออกเสาไกล ผ่านมือ ดาบิด เด เคอา ไปอย่างน่าเสียดาย

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
ภาพจาก AFP

เกมทำท่าจะจบครึ่งแรก เมื่อ เชลซี มีโอกาสแต่ทำไม่ได้ แมนฯ ยูไนเต็ด ก็มาบวกประตูเพิ่มจากจังหวะเริ่มต้นที่ คาเซมิโร่ จ่ายแบบเหนือชั้นไม่มองบอล หลอกกองหลังเชลซีทั้งแผง ก่อน เจดอน ซานโช่ จะทะลุไปปาดให้ อองโตนี่ มาร์กซิยาล ยิงจ่อ ๆ นำห่างเป็น 2-0 ประตู ในนาทีที่ 45+5 ก่อนจบครึ่งเวลาแรกด้วยสกอร์นี้

ครึ่งหลังเจ้าบ้านรัวเพิ่ม

เริ่มต้นครึ่งเวลาหลังเพียงนาทีที่ 47 เท่านั้น เชลซี เกือบเสียประตูที่ 3 จากการเสียบอลในแดนตัวเอง วิคตอร์ ลินเดอเลิฟ ที่ขึ้นมาเพรสซิ่งและขโมยบอลมาได้ จ่ายให้ ซานโช่ ก่อนจะถวายพานให้ บรูโน่ ได้กดเน้น  ๆ แต่บอลไปชนสามเหลี่ยมอย่างน่าเสียดาย

เชลซี ยังคงมีโอกาสเยอะเหมือนในครึ่งแรก เป็น มูดริค ที่ได้เลี้ยงตัดเข้ากลางและเลือกยิงหักข้อ แต่ เด เคอา ยังพุ่งปัดไว้ได้ จากนั้นก็เป็นทีของ ยูไนเต็ด ที่ได้ล่อเป้า ในนาทีที่ 53 ไทเรลล์ มาลาเซีย ปาดให้ เอริคเซ่น ได้ยิงจ่อ ๆ แต่บอลย้อนหลัง ทำให้ เกป้า กลับมาควักลูกออกจากเส้นได้แบบเหลือเชื่อ และในจังหวะต่อเนื่อง คาเซมิโร่ ก็ได้บรรจงปั่นจากหน้ากรอบเขตโทษแต่บอลหลุดเสาไป

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
ภาพจาก AFP

หลังผ่านนาทีที่ 60 เกมเริ่มเปิดอย่างชัดเจน ผู้เล่นสองฝั่งผลัดกันทำเกมบุกสวนกลับชนิดที่ว่าประตูถึงประตู จนกระทั่งผู้เล่นของ เชลซี เสียท่า เวสลีย์ โฟฟาน่า โดน บรูโน่ เเตะบอลลอดขา และตามไปสกัดล้มในกรอบเขตโทษ ผู้ตัดสินเป่าเป็นลูกโทษที่จุดโทษทันที เป็น บรูโน่ ที่ลุกมายิงเอง ส่งบอลเข้าตาข่ายไปแบบนิ่ม ๆ พาปีศาจแดงนำห่าง 3-0 ประตู ในนาทีที่ 73 เจ้าตัวทำสถิติยิง 7 ประตูแล้วในฤดูกาลนี้

เท่านั้นยังไม่พอ โฟฟาน่า คนเดิม จ่ายบอลพลาดในเขตโทษตัวเองดื้อ ๆ ทำให้ บรูโน่ ฉกได้ และจ่ายให้มาร์คัส แรชฟอร์ด ก่อนหลอกเจ้าตัวหนึ่งทีและยิงไปติด เกป้า แต่ก็ตามซ้ำเข้า ยูไนเต็ด ออกนำเป็น 4-0 ประตู ในนาทีที่ 78

ประตูล่าสุดของ แรชฟอร์ด ทำให้เจ้าตัวยิงได้ 30 ประตูในฤดูกาลนี้รวมทุกรายการ เป็นนักเตะคนแรกนับตั้งแต่ โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ ทำไว้ได้ในปี 2012-13 หรือเมื่อ 10 ปีที่แล้ว

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
ภาพจาก AFP

เชลซี ยังไม่ยอมแพ้ เล่นกันสามคนระหว่าง เอ็นโซ เฟร์นานเดซ ฮาคิม ซีเย็ค และเจา เฟลิกซ์ ที่ลากมาครึ่งสนาม โดยไม่มีผู้เล่นของ ยูไนเต็ด เข้ามาขวาง ทำให้เจ้าตัวได้เลือกมุมยิง ส่งบอลเสียบเสาเข้าตาข่ายไป ผู้มาเยือนจึงได้สกอร์ปลอบใจ 4-1 ประตู ในนาทีที่ 89

จบเกมทำอะไรกันเพิ่มไม่ได้ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เปิดบ้านชนะ เชลซี 4-1 ประตู คว้าตั๋ว ยูฟ่า แชมเปียส์ ลีก ใบสุดท้ายไปครองได้สำเร็จ เก็บ 72 แต้ม แซงนิวคาสเซิลขึ้นอันดับ 3 กับสถิติเล่นในบ้านที่ยังไม่แพ้ใครมา 29 นัดในทุกรายการ ส่วนเชลซีมี 43 แต้ม รั้งอันดับ 12 ไม่มีอะไรให้ลุ้นแล้วในฤดูกาลนี้

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
ภาพจาก AFP