เลสเตอร์ ซิตี้ ไร้ปาฏิหาริย์ แชมป์พรีเมียร์ลีกเทพนิยายตกชั้นสู่แชมเปี้ยนชิพ

เลสเตอร์
Photo by DARREN STAPLES / AFP

หลังโลดแล่นอยู่บนลีกสูงสุดนาน 9 ปี เลสเตอร์ ซิตี้ แชมป์พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ฤดูกาล 2015-2016 ก็ตกชั้นสู่แชมเปี้ยนชิพ นับเป็นทีมที่ 2 ในประวัติศาสตร์ที่เคยได้แชมป์แล้วตกชั้น ต่อจากแบล็กเบิร์น โรเวอร์ส แชมป์ในฤดูกาล 1994-1995 ที่ตกชั้นในฤดูกาล 1998-1999 และ 2011-2012

วันที่ 29 พฤษภาคม 2566 เมื่อเสียงนกหวีดหมดเวลา 90 นาทีดังขึ้น ผู้เล่นของทัพจิ้งจอก “เลสเตอร์ ซิตี้” ทำหน้าที่ของตัวเองสำเร็จ เปิดสนามคิง เพาเวอร์ สเตเดียม เฉือนชนะ “ขุนค้อน” เวสต์แฮม ยูไนเต็ด ไปได้ 2-1 ที่เหลือคือลุ้นผลจากสนามกูดิสัน พาร์ก คู่ “เอฟเวอร์ตัน” รับการมาเยือนของ บอร์นมัธ แต่เมื่อ ทอฟฟี่สีน้ำเงิน ชนะ 1-0 ความหวังของทัพจิ้งจอกก็พังทลายลง

หลังจากโลดแล่นอยู่ในพรีเมียร์ลีก อังกฤษ มา 9 ฤดูกาล และสร้างเทพนิยายเลสเตอร์ด้วยการคว้าแชมป์ในฤดูกาล 2015-2016 วันนี้ เลสเตอร์ ซิตี้ ตกชั้นสู่ ลีก แชมเปี้ยนชิพ เรียบร้อยแล้ว

อัยยวัฒน์ ศรีวัฒนประภา
Photo : Reutres

เรื่องราวที่สโมสรเขียนขึ้นในช่วงเวลากว่าทศวรรษบนเวทีพรีเมียร์ลีก มีทั้งมนต์ขลังและโรแมนติก แต่ก็จบลงอย่างโหดร้ายในฤดูกาลนี้ บอร์ดบริหาร ผู้จัดการทีม และนักเตะต่างมีส่วนต้องร่วมกันรับผิดชอบ ที่สำคัญคือการรวมพลังกับแฟนบอลเพื่อสู้กันต่อใน เดอะ แชมเปี้ยนชิพ และพยายามกลับสู่ลีกสูงสุดให้ได้โดยเร็ว ซึ่งคงต้องติดตามกันต่อไป

เลสเตอร์ ที่คว้าแชมป์ในฤดูกาล 2015-2016 กลายเป็นทีมที่ 2 ในประวัติศาสตร์ ที่เคยได้แชมป์พรีเมียร์ลีก อังกฤษ แล้วต้องตกชั้น ต่อจากแบล็กเบิร์น โรเวอร์ส ที่ได้แชมป์ฤดูกาล 1994-1995 แต่ตกชั้นในฤดูกาล 1998-1999 และ 2011-2012

เลสเตอร์
Photo : เพจ Leicester City Football Club

“ดีน สมิธ” ผู้จัดการทีมเลสเตอร์ กล่าวว่า เขาจะพูดคุยกับ อัยยวัฒน์ ศรีวัฒนประภา ประธานสโมสรในอีก 2-3 วันข้างหน้า

เราเล่นได้ดีในเกมชนะเวสต์แฮม ยูไนเต็ด ซึ่งเป็นสิ่งที่น่าพอใจ แต่สุดท้ายมันคือความน่าผิดหวังและความเสียใจที่สโมสรไม่สามารถอยู่เหนือโซนตกชั้นได้

ในระหว่างการแข่งขัน เขาไม่ได้สนใจผลคู่อื่นแต่อย่างใด เนื่องจากรู้สึกว่ามันไม่เกี่ยวข้อง เขาพยายามจดจ่ออยู่กับการพยายามชนะให้ได้ และหลังจากนั้นจะได้เห็นว่าอะไรจะเกิดขึ้น

“ทุกคนรู้ว่าเลสเตอร์ถูกสร้างขึ้นเพื่อเป็นสโมสรระดับแนวหน้า สถานที่นี้พร้อมสำหรับความสำเร็จ น่าเสียดายที่ปีนี้เป็นปีที่ยากลำบาก แต่ความสวยงามคือแฟนบอลจะยังคงสนับสนุนสโมสรของพวกเขาต่อไป พวกเขาจะกลับมา โดยหวังว่าสโมสรจะประสบความสำเร็จและกลับมาได้ในทันที นั่นเป็นสิ่งที่แฟนบอลควรได้รับ” ดีน สมิธ กล่าว

ไม่ดีพอ

เลสเตอร์ ซิตี้ ในพรีเมียร์ลีกฤดูกาลนี้แข่งไป 38 นัด ชนะเพียง 9 เสมอ 7 และแพ้ไปถึง 22 นัด ยิงได้ 51 เสีย 68 ผลต่างประตู -17 เก็บได้เพียง 34 แต้ม จบฤดูกาลอันเลวร้ายด้วยชัยชนะเพียง 3 นัด จาก 17 เกมสุดท้าย และเก็บคลีนชีตได้เพียงนัดเดียวตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนปีก่อน

เมื่อ ดีน สมิธ ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นผู้จัดการทีมคนใหม่ในเดือนเมษายน หน้าที่ของเขาคือการทำให้ทีมสามารถอยู่รอดได้ในฤดูกาลนี้ แต่ 9 แต้ม จาก 8 เกมที่เขาคุมนั้นไม่เพียงพอ และนั่นหมายถึงการตกชั้นไปเล่นแชมเปี้ยนชิพเพียง 6 ปีหลังจากที่เลสเตอร์เคยไปไกลถึงรอบก่อนรองชนะเลิศศึกยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก

Photo by DARREN STAPLES / AFP

มาร์ค ชวาร์เซอร์ อดีตผู้รักษาประตูของเลสเตอร์ ซิตี้ กล่าวกับ BBC SPORT ว่า แน่นอนต้องรู้สึกผิดหวัง และแทบไม่เชื่อกับสิ่งที่เกิดขึ้นโดยเฉพาะในหมู่แฟนบอล

“ไม่น่าเชื่อว่าสโมสรจะตกต่ำจากการคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก เอฟเอ คัพ จนตอนนี้ต้องมาเริ่มต้นใหม่อีกครั้ง” อดีตนายประตูกล่าว

เลสเตอร์ต้องตรวจสอบสิ่งที่เกิดขึ้นในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมาว่ามีอะไรผิดพลาดตรงไหน ทำไมถึงเจอสถานการณ์แบบนี้ แม้นัดสุดท้ายจะทำผลงานได้ดี แต่มันก็สายเกินไปแล้ว

“เลสเตอร์ ตลอดฤดูกาล ยังไม่ดีพอ เช่นเดียวกับลีดส์ และเซาแธมป์ตัน”

Photo by DARREN STAPLES / AFP
Photo by DARREN STAPLES / AFP
Photo by Darren Staples / AFP
Photo by DARREN STAPLES / AFP
Photo by DARREN STAPLES / AFP