ศึกแดงเดือดจบเจ๊า ลิเวอร์พลู เปิดแอนฟิลด์เสมอกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 0-0 ประตู หล่นมาอยู่อันดับสองของตาราง ตามหลังอาร์เซนอลอยู่ 1 แต้ม ส่วนแมนฯยูฯ อยู่อันดับ 7 ของตาราง
วันที่ 17 ตุลาคม 2566 ฟุตบอลพรีเมียร์ลีกคู่บิ๊กแมตช์ประจำสัปดาห์ “ศึกแดงเดือด” หงส์แดง “ลิเวอร์พูล” เปิดสนามแอนฟิลด์ต้อนรับการมาเยือนของปีศาจแดง “แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด”
- ด่วน ! วอยซ์ ทีวี ประกาศปิดกิจการทุกแพลตฟอร์ม เลิกจ้าง 100 กว่าคน
- NETA X ขาย มิ.ย.นี้ ราคาไม่เกิน 1 ล้านบาท หลัง MOU สรรพสามิต
- ลูกแม่ค้าขายผัก-พ่อขับแท็กซี่ สู่เก้าอี้ “ปลัดพลังงาน” บทพิสูจน์ชีวิต “ดร.ประเสริฐ สินสุขประเสริฐ”
เจ้าบ้านลิเวอร์พูลให้นักเตะตัวหลักได้พักอย่างเต็มที่จากเกมก่อนหน้า และแม้จะมีตัวเจ็บบ้าง แต่ผู้เล่นคนสำคัญก็ยังลงกันเกือบครบ นำทัพโดย โมฮาเหม็ด ซาล่าห์
ส่วนแมนฯ ยูไนเต็ด มีรายชื่อตัวเจ็บอื้อ เสีย แฮร์รี แม็คไกวร์ จากเกมกับ บาเยิร์น มิวนิค ในศึก ยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก มิหนำซ้ำ กัปตันทีม บรูโน เฟอร์นานเดส ยังติดโทษแบนจากการสะสมใบเหลือง ทำให้ไม่สามารถลงสนามได้
รายชื่อ 11 ตัวจริง
ลิเวอร์พูล : อลีสซง เบ็คเกอร์ (GK), เทรนท์ อเล็กซานเดอร์ อาร์โนลด์, อิบราฮิม่า โกนาเต้, เฟอร์จิล ฟาน ไดจ์ค, คอสตาส ซิมิกาส, โดมินิค โซบอสไล, วาตารุ เอ็นโด, ไรอัน กราเฟนแบร์ก, โมฮาเหม็ด ซาล่าห์, ดาร์วิน นูนเญซ, หลุยส์ ดิอาซ
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด : อ็องเดร โอนาน่า (GK), ดีโอโก้ ดาโลต์, จอนนี่ อีแวนส์, ราฟาแอล วาราน, ลุค ชอว์, สกอตต์ แม็คโทมิเนย์, โซฟียาน อัมราบัต, ค็อบบี้ ไมนู, อันโตนี่, ราสมุส ฮอยลุนด์, อเลฮานโด กรานาโช่
ครึ่งแรกไร้สกอร์
เริ่มเกมได้ไม่นาน ลิเวอร์พูลก็เป็นฝ่ายครองบอลบุกใส่แมนฯ ยูไนเต็ด และมีจังหวะป้วนเปี้ยนหน้าปากประตูผู้มาเยือนบ่อยครั้ง พลางไล่บีบสูงทำให้ยูไนเต็ดเล่นเกมของตัวเองไม่ได้
นาทีที่ 10 แมนฯ ยูไนเต็ดก็มีโอกาสยิง จากจังหวะทำเกมขึ้นมา อเลฮานโด กรานาโช่ ได้ยิงจากด้านซ้ายแต่บอลโด่งข้ามคานไป หลังจากนั้นไม่นาน โดมินิค โซบอสไล ก็ได้ลองซัดไกลบ้าง แต่บอลก็ข้ามคานเช่นกัน
นาทีที่ 16 ลิเวอร์พูลมีโอกาสได้ประตู จากจังหวะที่เทรนท์ อเล็กซานเดอร์ อาร์โนลด์ ตักจากด้านขวาให้ ดาร์วิน นูนเญซ โหม่งชงเข้ากลาง แต่บอลขลุกขลิก และอ็องเดร โอนาน่า รับหลุด ก่อนที่จะชุลมุน และ โมฮาเหม็ด ซาล่าห์ ยิงบอลออกหลังไป
นาทีที่ 28 ลิเวอร์พูลพลาดโอกาสทองขึ้นนำอีกครั้งจากจังหวะเตะมุม เป็น ฟาน ไดจ์ค ได้โขกเน้น ๆ แต่อ็องเดร โอนาน่า ยังผวากระโดดปัดไว้ได้อย่างยอดเยี่ยม เกมยัง 0-0 ประตู
เกมผ่านช่วง 30 นาทีแรก ลิเวอร์พูลครองบอลบุกเหนือกว่าชัดเจน พาบอลเข้ากรอบเขตโทษได้ 17 ครั้ง ขณะที่แมนฯ ยูไนเต็ด พาบอลเข้ากรอบเขตโทษลิเวอร์พูลได้เพียงครั้งเดียว
นาทีที่ 42 ลิเวอร์พูลมีโอกาสยิงอีกครั้งโดย โมฮาเหม็ด ซาล่าห์ แต่บอลเรียดและไม่มีอะไร อ็องเดร โอนาน่า ล้มตัวคว้าไว้ได้
ช่วงทดเวลา เเมนฯ ยูไนเต็ดได้ลูกฟรีคิก จากจังหวะที่ วาตารุ เอ็นโด ทำฟาวล์ใส่ อัมราบัต แต่ ดีโอโก้ ดาโลต์ ก็เปิดออกหลังไปอย่างน่าเสียดาย จบครึ่งเวลาแรกทำอะไรกันไม่ได้ สกอร์ 0-0 ประตู
ครึ่งหลังยังยิงกันไม่ได้
เริ่มต้นครึ่งเวลาหลังไม่นานรูปเกมก็เป็นเหมือนครึ่งแรก ลิเวอร์พูลครองบอลบุกใส่แมนฯ ยูไนเต็ด พลางหาจังหวะทำประตูอยู่เรื่อย ๆ
นาทีที่ 55 แมนฯ ยูไนเต็ดมีโอกาสเข้าทำที่อันตรายครั้งหนึ่งของเกม อเลฮานโด กรานาโช่ ที่รับบอลมาจาก ค็อบบี้ ไมนู กำลังจะมีโอกาสได้ดวลเดี่ยวกับ อลีสซง เบ็คเกอร์ แต่เทรนท์ อเล็กซานเดอร์ อาร์โนลด์ ยังตามมาช่วยสกัดไว้ได้อย่างหวุดหวิด
นาทีที่ 64 ลิเวอร์พูลทำเกมกันอยู่นาน จนกระทั่งโมฮาเหม็ด ซาล่าห์ ยิงจากหน้าเขตโทษด้วยซ้าย แต่ก็ไม่อันตราย อ็องเดร โอนาน่า คว้าไว้ได้
นาทีที่ 66 เป็นโอกาสทองอีกครั้งของลิเวอร์พูล เทรนท์ อเล็กซานเดอร์ อาร์โนลด์ วิ่งมายิงไกลหน้ากรอบเขตโทษ บอลพุ่งเรียดกำลังจะเข้ามุม แต่หลุดเสาไปอย่างน่าเสียดดาย อ็องเดร โอนาน่า ได้แต่ยืมมอง
จากนั้น นาทีที่ 67 แมนฯ ยูไนเต็ดที่เล่นเกมรับและรอจังหวะสวนของตัวเองก็มีโอกาสทองเช่นกัน ราสมุส ฮอยลุนด์ ได้หลุดไปยิงแต่ยังติดเซฟอลีสซง เบ็คเกอร์
เกมเริ่มเปิด นาทีที่ 70 ลิเวอร์พูลได้ลุ้นอีกครั้งจากจังหวะปั่นจากด้านขวาของ โมฮาเหม็ด ซาล่าห์ บอลกำลังจะเสียบเสาไกล แต่อ็องเดร โอนาน่า ยังพุ่งเซฟได้อย่างยอดเยี่ยม
โอกาสของลิเวอร์พูลมาติด ๆ กัน 2 ครั้ง นาทีที่ 76 บอลล้นจาก ดาร์วิน นูนเญซ ไปเข้าทาง หลุยส์ ดิอาซ ได้ยิง แต่ อ็องเดร โอนาน่า ดีโอโก้ ดาโลต์ และ โซฟียาน อัมราบัต ปรี่เข้ามาขวางไว้ได้
ต่อมานาทีที่ 77 ต่อเนื่องที่จังหวะเตะมุม บอลขลุกขลิก และเป็น อิบราฮิม่า โกนาเต้ ได้ยิงหน้าประตู แต่บอลไปตรงตัว อ็องเดร โอนาน่า พลาดโอกาสขึ้นนำอย่างน่าเสียดาย
ช่วงทดเวลาท้ายเกม ดีโอโก้ ดาโลต์ ไม่พอใจที่ผู้ตัดสินให้ลิเวอร์พูลได้ทุ่ม จึงโวยวาย ไมเคิล โอลิเวอร์ ทำให้โดนใบเหลืองติดต่อกัน 2 ครั้ง และกลายเป็นใบแดงถูกไล่ออกจากสนามในเวลาไม่กี่วินาที
จบเกมทำอะไรกันเพิ่มไม่ได้ ศึกแดงเดือดที่แอนฟิลด์ออกผลเสมอ 0-0 ประตู
ส่งผลลิเวอร์พูล หล่นมาอยู่อันดับ 2 ของตาราง เท่ากับแอสตันวิลล่า เตะไป 17 นัด มี 38 แต้มเท่ากัน ตามหลังอาร์เซน่อล ที่เอาชนะไบรท์ตัน 2-0 ประตู อยู่ 1 แต้ม ส่วนแมนฯ ยูฯ เตะ 17 นัด มี 28 แต้ม อยู่อันดับ 7 ของตาราง
