เป็นที่แน่นอนแล้วว่าสายการบิน “นกแอร์” จะยุติการให้บริการเส้นทางบินตรงกรุงเทพฯ (ดอนเมือง) สู่เบตง จ.ยะลา ในสิ้นเดือนตุลาคม 2565 นี้ หลังจากเปิดให้บริการเชิงพาณิชย์อย่างเป็นทางการเมื่อ 29 เมษายน 2565
และมีความเป็นได้สูงอีกเช่นกันว่าจะหยุดให้บริการเส้นทางบิน จากท่าอากาศยานหนองเต็ง จ.นครราชสีมาสู่เชียงใหม่ หลังจากเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการไปเมื่อ 2 สิงหาคมที่ผ่านมา หรือเพียงแค่เวลา 2 เดือนเศษเท่านั้น
- สถิติหวย ตรวจหวย ผลสลากกินแบ่งรัฐบาล งวด 16 เมษายน ย้อนหลัง 10 ปี
- อย.เปิดชื่ออาหารเสริม พบสารอันตราย ร้ายแรงจนถึงแก่ชีวิต เตรียมดำเนินการตามกฎหมาย
- BITE SIZE : ขึ้นค่าแรง 10 จังหวัด-ปรับเงินเดือนข้าราชการ เพิ่มขึ้นเท่าไร
“ประชาชาติธุรกิจ” ได้สัมภาษณ์ “ธีรพล โชติชนาภิบาล” ประธานเจ้าหน้าที่สายการพาณิชย์ บริษัท สายการบินนกแอร์ จำกัด (มหาชน) ถึงแนวคิดในการเปิดให้บริการเส้นทางบินทั้ง 2 เส้นทาง รวมถึงปัญหาที่ทำให้ทั้ง 2 เส้นทางบินดังกล่าวนี้จำเป็นต้องหยุดให้บริการไว้ดังนี้
“ธีรพล” บอกว่า สำหรับเส้นทางกรุงเทพฯ (ดอนเมือง)-เบตงนั้น นกแอร์ยังมองว่าเป็นตลาดที่มีศักยภาพสูง เพียงแต่ว่าสถานการณ์โดยรวมของการท่องเที่ยววันนี้เปลี่ยนไป กล่าวคือ ในวันที่เริ่มต้นให้บริการเส้นทางบินตรงสู่ “เบตง” นั้น หลาย ๆ ประเทศยังไม่เปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ ทำให้ทั้งผู้ประกอบการด้านการท่องเที่ยวและคนทั่วไปให้ความสนใจเป็นอย่างมาก
วันนี้หลาย ๆ ประเทศเปิดประเทศแล้ว คนไทยมีทางเลือกมากขึ้น และหันไปสนใจไปท่องเที่ยวต่างประเทศแทน ซึ่งจะเห็นชัดเจนว่าคนไทยที่มีกำลังใช้จ่ายไหลออกไปเที่ยวต่างประเทศ ทั้งยุโรป อเมริกา รวมถึงญี่ปุ่น เกาหลี ฯลฯ
เช่นเดียวกับผู้ประกอบการบริษัทนำเที่ยวที่มีทางเลือกมากขึ้น และหันไปทำแพ็กเกจทัวร์ไปเที่ยวต่างประเทศกันเป็นอย่างมากเช่นกัน
“ผู้ประกอบการทัวร์บอกเราเองว่า ขณะนี้เส้นทางเบตงขายยากขึ้น เพราะคนไทยเริ่มมีทางเลือกในการท่องเที่ยวมากขึ้น ทำให้เบตงได้รับความสนใจลดลงไปด้วย และบอกเราว่าราคาที่ขายอยู่ปัจจุบันขายไม่ได้ และขอลดราคาตั๋วโดยสารลงมาอีก ซึ่งเราไม่ไหว”
ทั้งนี้ ต้องยอมรับว่าเส้นทางบินตรง “เบตง” นั้น มีต้นทุนค่าใช้จ่ายสูงมาก เพราะการเปิดให้บริการเพียงสายการบินเดียว และไม่ได้ทำการบินทุกวัน ทำให้แบกรับต้นทุนคนเดียวและค่อนข้างสูง
“ต้องบอกตามตรงว่าเส้นทางกรุงเทพฯ-เบตงนั้น เรามองว่าเป็นการลงทุน และไม่ได้มองว่าเป็นการลงทุนที่ผิด เพราะเบตงเป็นตลาดที่น่าสนใจ และเป็นอีกหนึ่งตลาดที่เราเชื่อว่ามีศักยภาพ เพียงแต่บังเอิญว่าพอหลาย ๆ ประเทศเปิด คนไทยเปลี่ยนจุดหมายปลายทางไปเที่ยวต่างประเทศแทน”
“ธีรพล” บอกอีกว่า ส่วนเส้นทางนครราชสีมา (โคราช)-เชียงใหม่ ที่ทำการบินจากท่าอากาศยานหนองเต็ง ขณะนี้ทางผู้ใหญ่ของนกแอร์ยังเจรจากับทางจังหวัดนครราชสีมาอยู่ และเชื่อว่าจะยังมีการคุยกันต่ออีกเป็นระยะ เพื่อหาทางออกร่วมกัน เพราะแม้ว่าจะเป็นเส้นทางที่ต้นทุนไม่สูงเท่าเบตง แต่นกแอร์ก็ต้องแบกรับต้นทุนบริการภาคพื้นรายเดียวเช่นกัน
“ตั้งแต่เปิดให้บริการเส้นทางนี้ ผลตอบรับยังไม่ค่อยดีนัก ยังต่ำกว่าเป้าหมายที่เราคาดการณ์ไว้ แต่ทางจังหวัดก็ช่วยทำตลาดและช่วยผลักดันให้เกิดการเดินทางสูงมาก ต้องบอกว่าถ้าไม่ได้ทางจังหวัดช่วยเราคงเหนื่อยกว่านี้เยอะ”
เมื่อถามว่าหลังหยุดบินเส้นทางเบตงและโคราช นกแอร์มีแผนเปิดเส้นทางบินระยะสั้นเพิ่มเติมอย่างไร “ธีรพล” บอกว่า ล่าสุดนกแอร์มีแผนจะเปิดให้บริการเส้นทางเชียงใหม่-แม่ฮ่องสอน ในช่วงไฮซีซั่นปีนี้ โดยคาดว่าจะเริ่มให้บริการในเดือนตุลาคม 2565 นี้
โดยเส้นทางดังกล่าวนี้จะให้บริการเป็นซีซันนิ่ง หรือให้บริการในช่วงที่เป็นฤดูการท่องเที่ยว หรือรองรับการเดินทางในช่วงฤดูหนาวเป็นหลัก
สอดรับกับกลยุทธ์การหมุนการใช้เครื่องบินตามดีมานด์ของตลาด และใช้เครื่องบินที่มีอยู่ให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด
