เงินเฟ้อทุบมู้ดท่องเที่ยว UK ททท. ลอนดอนเน้น “คุ้มค่า”

ท่องเที่ยว UK

ททท. สำนักงานลอนดอน เผยตลาด UK เน้นเดินทางระยะใกล้ คาดไทยฟื้นตัวกลุ่มสุดท้ายปลายปี’66 ชี้ราคาตั๋วบินสูง นักท่องเที่ยวยังกังวลเรื่องสุขอนามัย หวั่นปัญหาเงินเฟ้อทุบมู้ดเดินทางท่องเที่ยว เตรียมนำเสนอประเทศไทย affordable luxury destination จุดหมายปลายทางท่องเที่ยวที่คุ้มค่า คุ้มราคา สอดคล้องภาวะเศรษฐกิจ

นางสาวสดุดี แสงนิล ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานลอนดอน เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า สถานการณ์การท่องเที่ยวตลาดสหราชอาณาจักร (UK) กำลังอยู่ในระหว่างระยะฟื้นตัว

โดยตลาดภายในประเทศเป็นตลาดกลุ่มแรกที่ฟื้นตัวอย่างรวดเร็วและยังคงเป็นที่นิยมมากที่สุด โดยเฉพาะสถานที่ท่องเที่ยวแถบชายทะเล ตามด้วยการท่องเที่ยวในกลุ่มประเทศระยะใกล้ เช่น หมู่เกาะคานารี (สเปน) โปรตุเกส ไซปรัส กรีซ

ส่วนตลาดการท่องเที่ยวระยะไกล หรือ long haul destination รวมถึงประเทศไทยนั้น ประเมินว่าจะเป็นกลุ่มสุดท้ายที่ฟื้นตัวอย่างช้า ๆ อันเนื่องมาจากปัจจัยหลายประการ ไม่ว่าจะเป็นราคาบัตรโดยสารการบินที่เพิ่มสูงขึ้น ความกังวลเรื่องสุขอนามัยที่ต้องอยู่บนเครื่องบินเป็นเวลานาน

รวมถึงกฎเกณฑ์และมาตรการเรื่องโควิด-19 ซึ่งจากการหารือกับพันธมิตรบริษัทนำเที่ยวคาดว่าการเดินทางสำหรับตลาด long haul น่าจะกลับสู่สภาวะปกติในช่วงปลายปี 2566

ชอบเป็นส่วนตัว-หนีความวุ่นวาย

นางสาวสดุดีกล่าวด้วยว่า หลังสถานการณ์โควิด-19 พบว่านักท่องเที่ยวตลาดสหราชอาณาจักรให้ความสนใจกับเรื่องความเป็นส่วนตัวเพิ่มมากขึ้น และหลีกเลี่ยงจุดหมายปลายทางที่มีภาพลักษณ์ของความวุ่นวาย

ขณะเดียวกันนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ยังนิยมตัดสินใจเดินทางแบบ last minute หรือล่วงหน้าก่อนการเดินทางไม่เกิน 6 สัปดาห์ และใช้บริการสำรองการเดินทางจากบริษัทนำเที่ยวมากขึ้น เนื่องจากความสะดวกและง่ายในการเปลี่ยนแปลงการเดินทาง

นอกจากนี้ แพ็กเกจท่องเที่ยวแบบ all-inclusive ยังได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับนักท่องเที่ยวกลุ่มครอบครัว เนื่องจากเป็นอีกหนึ่งวิธีในการควบคุมค่าใช้จ่าย

เที่ยวบินน้อย-ต้นทุนเดินทางสูง

นางสาวสดุดีกล่าวต่อไปอีกว่า ปัจจัยบวกที่ส่งเสริมให้นักท่องเที่ยวจากตลาดสหราชอาณาจักรเดินทางเข้าประเทศไทยในช่วงไตรมาสที่ 4/2565 และ 1/2566 ประกอบด้วย สถานที่ท่องเที่ยวในกลุ่มประเทศตะวันออกกลาง มหาสมุทรอินเดีย และแคริบเบียนปรับราคาสูงขึ้น ทำให้บริษัทนำเที่ยวหลายแห่งหันมาเสนอขายประเทศไทยเพิ่มมากขึ้น เนื่องจากคุ้มค่าต่อการเดินทาง

ส่วนปัจจัยลบที่อาจทำให้นักท่องเที่ยวไม่เดินทางเข้าสู่ประเทศไทย คือ จำนวนเที่ยวบินทั้งเที่ยวบินตรงและเที่ยวบินเช่าเหมาลำ (chartered flight) ที่ยังกลับมาให้บริการแค่ 62% เมื่อเทียบกับปี 2562 ซึ่งยังไม่เพียงพอต่อความต้องการท่องเที่ยวของตลาด ประกอบกับราคาน้ำมันที่พุ่งสูงขึ้น ส่งผลให้ราคาบัตรโดยสารเพิ่มขึ้น

เงินเฟ้อพุ่งกระทบการเดินทาง

ขณะเดียวกันสหราชอาณาจักรยังประสบปัญหาเงินเฟ้อขั้นรุนแรง ส่งผลให้ค่าครองชีพเพิ่มขึ้น และอาจกระทบต่อเนื่องไปถึงการตัดสินใจเดินทางท่องเที่ยว ส่งผลให้การลดราคา หรือการนำเสนอโปรโมชั่นราคาพิเศษ เป็นปัจจัยหลักสำคัญในการพิจารณาเลือกประเทศ

“นักท่องเที่ยวบางส่วนมีแนวโน้มที่จะเลือกเดินทางแบบสั้นลง หรือเลือกเดินทางไปยังประเทศที่ใกล้ขึ้น เพื่อควบคุมค่าใช้จ่าย ซึ่งส่งผลกระทบโดยตรงต่อประเทศไทย” นางสาวสดุดีกล่าว

ทั้งนี้ ททท.สำนักงานลอนดอน เตรียมแผนรับมือโดยนำเสนอผลิตภัณฑ์การท่องเที่ยวของประเทศไทย ในฐานะ affordable luxury destination เน้นความคุ้มค่า

ชูจุดขาย “Value for Money”

สำหรับแผนการดึงนักท่องเที่ยวจากตลาดสหราชอาณาจักร ในช่วงไตรมาสที่ 4/2565 และ 1/2566 นั้น ททท.สำนักงานลอนดอนจะมุ่งเน้นการทำงานร่วมกับบริษัทนำเที่ยว ทั้งบริษัทนำเที่ยวแบบดั้งเดิม (tour operator/travel agent) และ OTA

โดยทำกิจกรรม joint marketing ส่งเสริมการขายท่องเที่ยวไทย ทั้งแบบล่วงหน้า และแบบ last minute พร้อมประชาสัมพันธ์และสร้างภาพลักษณ์ให้ไทยเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีความคุ้มค่า หรือเป็น value for money holiday destination เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์ทางเศรษฐกิจ

และเตรียมจัด joint marketing หรือ partner on demand ร่วมกับสายการบินต่าง ๆ ทั้งประเภทบินตรง และประเภท indirect flight-code share หรือแวะเปลี่ยนเครื่องที่ประเทศอื่น เพื่อกระตุ้นยอดขาย และเพิ่มปริมาณการเดินทางท่องเที่ยวไปยังประเทศไทย

รวมไปถึงสายการบินประเภทเช่าเหมาลำ (charter flight) ได้แก่ บริษัท TUI UK ซึ่งจะให้บริการเที่ยวบินตรงจากท่าอากาศยานลอนดอนแกตวิก (LGW) และจากท่าอากาศยานเมืองแมนเชสเตอร์ (MAN) ไปยังท่าอากาศยานนานาชาติภูเก็ต สัปดาห์ละ 2 เที่ยวบิน โดยจะเริ่มให้บริการในเดือนพฤศจิกายน 2565 ไปจนถึงกลางเดือนเมษายน 2566

“เราจะมุ่งทำการตลาดเสนอขายแพ็กเกจท่องเที่ยวที่มีความหลากหลายในรูปแบบแพ็กเกจท่องเที่ยวหลายเมืองเพิ่มมากขึ้น อันจะช่วยกระตุ้นให้นักท่องเที่ยวพำนักนานขึ้น ตลอดจนส่งเสริมการขายการท่องเที่ยวในรูปแบบ value added activities/services เพื่อให้เกิดการใช้จ่ายในการทำกิจกรรมท่องเที่ยวเพิ่มมากขึ้น” นางสาวสดุดีกล่าว