เราเที่ยวด้วยกัน เฟส 5 แจก 2 ล้านสิทธิ ชง ครม. 28 พ.ย.นี้

เราเที่ยวด้วยกัน

กระทรวงการท่องเที่ยวฯจ่อชง ครม.ของบฯ 7,200 ล้าน ต่อโครงการ “เราเที่ยวด้วยกัน” เฟส 5 อีก 2 ล้านสิทธิ 28 พ.ย.นี้ ได้สิทธิที่พัก-คูปองใช้จ่าย ไร้สิทธิลดตั๋วเครื่องบิน พร้อมขออีก 1,500 ล้านใช้กระตุ้นตลาดท่องเที่ยวไทย-ต่างประเทศ

วันที่ 15 พฤศจิกายน 2565 นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า จะเสนอให้คณะรัฐมนตรี พิจารณางบประมาณรายจ่ายงบฯกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น จำนวนเงิน 8,700 ล้านบาท เพื่อดำเนินการโครงการเราเที่ยวด้วยกัน เฟส 5 และงบฯกระตุ้นตลาดท่องเที่ยวในปี 2566

โดยโครงการเราเที่ยวด้วยกัน เฟส 5 จะกำหนดให้มีสิทธิห้องพักจำนวนไม่น้อยกว่า 2 ล้านคืน-ห้อง เป็นค่าใช้จ่ายเฉพาะห้องพักและคูปองค่าใช้จ่าย วงเงิน 7,200 ล้านบาท และงบประมาณกระตุ้นตลาดการท่องเที่ยวในปี 2566 แบ่งเป็นตลาดต่างประเทศ 1,000 ล้านบาท เพื่อบรรลุเป้าหมายของนายกรัฐมนตรี ที่ตั้งเป้าให้มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้ามายังประเทศไทยจำนวน 20 ล้านคน และอีก 500 ล้านบาทใช้ส่งเสริมตลาดการท่องเที่ยวในประเทศ

“นายกฯเคยรับปากภาคเอกชนท่องเที่ยวไว้ว่าจะทำโครงการเราเที่ยวด้วยกัน เฟส 5 และท่านพูดใน ครม.หลายครั้งว่า ให้ไปคิดโครงการที่เคยทำแล้วสำเร็จมาก่อน จึงเป็นที่มาที่เสนอโครงการนี้เป็นของขวัญปีใหม่ให้ประชาชน ส่วนเรื่องของบฯกระตุ้นการตลาด เพื่อสร้างรายได้จากการท่องเที่ยวในปี 2566 ให้ได้ตามเป้า” นายพิพัฒน์กล่าว

นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย กล่าวว่า จะเสนอโครงการเราเที่ยวด้วยกัน เฟส 5 ให้กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาในวันที่ 22 พฤศจิกายนนี้ และเตรียมเสนอเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี ในวันที่ 28 พฤศจิกายนนี้

โดยโครงการเราเที่ยวด้วยกัน เฟส 5 ใช้งบประมาณราว 7,200 ล้านบาท คำนวณจากต้นทุนค่าใช้จ่ายราว 3,600 บาทต่อคน แบ่งเป็นมูลค่าโรงแรมที่พักซึ่งรัฐอุดหนุนให้ 40% ไม่เกิน 10 คืนต่อห้องต่อคน และคูปองค่าใช้จ่ายอิเล็กทรอนิกส์จำนวน 600 บาทต่อวัน แต่ไม่สนับสนุนค่าบัตรโดยสารเครื่องบิน

โครงการดังกล่าววางแผนกรอบเวลาใช้สิทธิราว 6 เดือน และหากสามารถเริ่มโครงการในเดือนมกราคม 2566 จะสิ้นสุดโครงการในเดือนมิถุนายน 2566 โครงการจะครอบคลุมช่วงเทศกาลสงกรานต์ ซึ่งคาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวชาวไทยเดินทางไปต่างประเทศ และจะช่วยกระตุ้นให้นักท่องเที่ยวยังเดินทางในประเทศอยู่

ส่วนงบฯส่งเสริมการตลาดวงเงิน 1,500 ล้านบาทนั้น นายยุทธศักดิ์กล่าวว่า วัตถุประสงค์ใช้เพื่อดำเนินมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยว (Tourism Stimulus Package : TSP) ทดแทนงบฯ Booster Shot เดิม ที่เคยเสนอของบประมาณ พ.ร.บ.เงินกู้โควิด-19 แต่ไม่ทันกำหนดการอนุมัติใช้เงินกู้ภายในสิ้นเดือนกันยายน 2565

ทั้งนี้ ททท.ประเมินว่าโครงการเราเที่ยวด้วยกันจะทำให้เกิดมูลค่าเศรษฐกิจไม่น้อยกว่า 18,000 ล้านบาท ทั้งยังมีส่วนช่วยให้ผู้ประกอบการอุตสาหกรรมท่องเที่ยวในประเทศฟื้นตัว