ทัวร์ศูนย์เหรียญ ทัวร์คิกแบ็ก ทัวร์อั้งยี่ ปัญหาระดับชาติที่แก้ไขไม่ตรงจุด เข้าใจไม่ตรงกัน

ทัวร์ศูนย์เหรียญ
AFP/ Mladen ANTONOV

เป็นที่ยอมรับจากหน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยวของไทยแล้วว่า หลังจากที่สาธารณรัฐประชาชนจีน เปิดประเทศให้ “กรุ๊ปทัวร์” ออกเดินทางท่องเที่ยวต่างประเทศได้ตั้งแต่ 6 กุมภาพันธ์ 2566 ที่ผ่านมา ก็เริ่มเห็นการเคลื่อนตัวของ “ทัวร์ศูนย์เหรียญ” หรือทัวร์ต่ำกว่าต้นทุน และ “ทัวร์คิกแบ็ก” หรือทัวร์ซื้อหัว เริ่มกลับมาคึกคักอีกครั้ง โดยเฉพาะในกลุ่มผู้ประกอบการตลาดจีน

อารัญ บุญชัย ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ให้ข้อมูลกับ “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า ภาพของของตลาดจีนหลังจากเปิดให้กรุ๊ปทัวร์ออกเดินทางนอกประเทศได้ พบว่ามีบริษัทนำเที่ยว (เอเย่นต์ทัวร์) ในฝั่งจีนจำนวนหนึ่งโหมโปรโมตขายแพ็กเกจทัวร์เที่ยวไทยที่มีราคาต่ำกว่าต้นทุน หรือที่เรียกกันว่า “ทัวร์ศูนย์เหรียญ” 

อารัญ บุญชัย ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา

สอดรับกับ จาตุรนต์ ภักดีวานิช อธิบดีกรมการท่องเที่ยว กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ที่ยอมรับว่า ประเด็นที่เข้ามาพร้อมกับการเข้ามาของนักท่องเที่ยวจีนคือ กระแสการกลับมาของกลุ่มทัวร์ศูนย์เหรียญ หรือทัวร์ต่ำกว่าทุน รวมถึงปัญหาไกด์เถื่อน และธุรกิจนอมินี 

โดยขณะนี้กรมการท่องเที่ยวได้เตรียมความพร้อมและหาแนวทางป้องกันและแก้ไขปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้น โดยร่วมกับหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และเครือข่ายที่เกี่ยวข้อง พร้อมเน้นย้ำและให้ความสำคัญในเรื่องคุณภาพ ความปลอดภัย การสร้างความประทับใจของนักท่องเที่ยว 

ทั้งนี้ มีเป้าหมายเพื่อแก้ไขปัญหาที่เคยเกิดขึ้นในอดีต อาทิ การหลอกลวงนักท่องเที่ยว การรั่วไหลของรายได้การท่องเที่ยว ภาพลักษณ์ของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวไทย ฯลฯ

จาตุรนต์ ภักดีวานิช อธิบดีกรมการท่องเที่ยว กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา

เช่นเดียวกับ สุรวัช อัครวรมาศ รองประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยงแห่งประเทศไทย (สทท.) และในฐานะผู้ประกอบการบริษัทนำเที่ยว ที่บอกกับ “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า ทัวร์ศูนย์เหรียญ รวมถึงทัวร์คิกแบ็ก หรือทัวร์ซื้อหัวของตลาดจีนมีแนวโน้มกลับมาอีกครั้ง และคาดว่าจะเดินทางเข้ามาชัดเจนขึ้นเรื่อย ๆ ในช่วงครึ่งปีหลังนี้ หลังจากไม่ได้ทำตลาดกันมา 3 ปีเต็ม ๆ 

โดยมีรูปแบบทั้งเข้ามาสร้างเครือข่ายเอง และหาพาร์ตเนอร์ในประเทศไทย ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นเครือข่ายของตัวเองเป็นหลัก ทำให้ปัจจุบันผู้ประกอบการสัญชาติไทยไม่ได้อานิสงส์จากการเปิดประเทศของจีนมากนัก

พร้อมระบุว่า ประเด็นที่น่าเป็นห่วงของระบบทัวร์ศูนย์เหรียญและทัวร์คิกแบ็กคือ ทำให้โครงสร้างธุรกิจท่องเที่ยวบิดเบี้ยว สร้างปัญหา ไม่มีความน่าเชื่อมั่น ทำให้เกิดระบบมาเฟีย เป็น “อั้งยี่การท่องเที่ยว” หรือเรียกว่า “ทัวร์อั้งยี่” ซึ่งส่งผลต่อความปลอดภัยของนักท่องเที่ยว และภาพลักษณ์ของประเทศ

สุรวัช อัครวรมาศ รองประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (สทท.)

ขณะที่ ชำนาญ ศรีสวัสดิ์ ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (สทท.) บอกกับ “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า ประเทศไทยไม่มีระบบ “ทัวร์ศูนย์เหรียญ” นักท่องเที่ยวทุกคนที่เดินทางเข้ามาทุกคนมีการใช้จ่ายทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็นค่าโรงแรม ค่าอาหาร เข้าแหล่งท่องเที่ยว ซื้อสินค้าต่าง ๆ ฯลฯ 

“จากการตรวจสอบข้อเท็จจริงและพูดคุยกับกลุ่มมัคคุเทศน์ พบว่ารูปแบบการทำตลาดที่พอจะเข้าข่ายทัวร์ศูนย์เหรียญมีเพียงแค่กรณีไกด์ไปซื้อหัวนักท่องเที่ยวจากบริษัททัวร์มาเพื่อขายออปชั่นเพิ่มเติมจากแพ็กเกจทัวร์ที่นักท่องเที่ยวซื้อมาเท่านั้น” ประธาน สทท.ย้ำ

ชำนาญ ศรีสวัสดิ์ ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (สทท.)

จากปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ “ประชาชาติธุรกิจ” ขอรวบรวมนิยามคำว่า ทัวร์ศูนย์เหรียญ ทัวร์คิกแบ็ก และทัวร์อั้งยี้ จากหลากหลายแหล่งที่มา ดังนี้

“ทัวร์ศูนย์เหรียญ” หมายถึง การขายแพ็กเกจทัวร์ต่ำกว่าต้นทุนจริงของบริษัทนำเที่ยว (เอเย่นต์ทัวร์) ในฝั่งจีน และส่งลูกทัวร์ทั้งกรุ๊ปมาให้บริษัททัวร์ในประเทศไทย โดยไม่จ่ายค่าทัวร์แฟร์ ซึ่งเป็นค่าใช้จ่ายในการพาเที่ยวที่เก็บมาจากลูกทัวร์ให้กับเอเย่นต์ฝ่ายไทย หรือบริษัททัวร์ในเครือข่ายของตัวเองในเมืองไทย

บริษัททัวร์ฝั่งไทยซึ่งมีทั้งบริษัทคนไทยและเครือข่ายของกลุ่มทัวร์จีนจะงัดสารพัดกลยุทธ์เพื่อหารายได้และกำไรจากการพานักท่องเที่ยวไปซื้อสินค้าในร้านช็อปปิ้ง รวมถึงขายออปชั่นเพิ่ม หากนักท่องเที่ยวใช้จ่ายน้อย มีรายได้ไม่พอกับค่าใช้จ่าย ไกด์จะบังคับขู่เข็ญนักท่องเที่ยว เช่น ไม่ให้กุญแจห้อง ยึดพาสปอร์ต ลอยแพ เป็นต้น 

“ทัวร์คิกแบ็ก” หมายถึง กรุ๊ปทัวร์ที่บริษัททัวร์ในเมืองไทย ซึ่งมีทั้งบริษัทคนไทยและเครือข่ายกลุ่มทัวร์ในจีนไปซื้อจำนวนหัวนักท่องเที่ยวจากบริษัททัวร์จีน เช่น บริษัท A มีลูกค้าอยู่ 1,000 คน คิดค่าหัวคนละ 500 หยวน หรือประมาณ 2,500 บาท บริษัทฝั่งไทยต้องจ่ายค่าหัวล่วงหน้าไปก่อน 2.5 ล้านบาท หลังจากนั้นบริษัททัวร์ฝั่งจีนจะทยอยส่งลูกค้าเข้ามา

รูปแบบนี้บริษัททัวร์ฝั่งไทยจะรับผิดชอบค่าใช้จ่าย ทั้งค่าที่พัก ค่าทัวร์ ค่าอาหาร ฯลฯ แล้วก็พาลูกทัวร์ไปช็อปปิ้ง ดูโชว์ เพื่อหารายได้ให้คุ้มกับต้นทุนและมีกำไรเพิ่มเติม โดยดำเนินการในรูปแบบเหมือน “ทัวร์ศูนย์เหรียญ” แต่รูปแบบนี้บริษัททัวร์ฝั่งไทยจะมีความเสี่ยงค่อนข้างสูง เพราะหากขาดทุนก็จะไม่สามารถหยุดทำได้ เพราะจ่ายเงินค้าซื้อหัวนักท่องเที่ยวล่วงหน้าไปแล้ว

“ทัวร์อั้งยี่” หมายถึง การทำธุรกิจทัวร์ที่ผูกขาดและใช้บริการเฉพาะบริษัทที่อยู่ในเครือข่ายของตัวเอง ทั้งโรงแรม ร้านอาหาร รถนำเที่ยว โชว์ ร้านช็อปปิ้ง ไกด์นำเที่ยว ฯลฯ รายได้จากการท่องเที่ยวทั้งหมดกระจุกอยู่เฉพาะในเครือข่ายเท่านั้น ไม่กระจายถึงกลุ่มผู้ประกอบการคนไทย

รูปแบบนี้คนในวงการท่องเที่ยวบอกว่า “รุนแรง” กว่าทัวร์ศูนย์เหรียญและทัวร์คิกแบ็ก เพราะทำธุรกิจกันเป็นขบวนการ ซึ่งนำไปสู่ระบบ “มาเฟีย” ในที่สุด


ครั้งนี้ อธิบดีกรมการท่องเที่ยว กระทรวงการท่องเที่ยวฯ ประกาศพร้อมแก้ไขปัญหาจริงจัง ทั้งในระดับรัฐบาลกับรัฐบาล ระหว่างไทยและจีน และขอความร่วมมือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมถึงภาคเอกชนท่องเที่ยวเข้าใจ “นิยาม” ของปัญหาให้ตรงกัน เพื่อแก้ปัญหาร่วมกันให้ตรงจุดต่อไป