“โทนี่ เฟอร์นานเดส” เจ้าพ่อแอร์เอเชีย โลว์คอร์สรายใหญ่ของอาเซียน เข้าพบนายกฯ เศรษฐา ขอไทยลดภาษีน้ำมันเครื่องบิน ช่วยแอร์ไลน์ช่วงฟื้นตัว ขายไอเดียปั้นกรุงเทพฯ ศูนย์กลางการบิน “ดูไบแห่งอาเซียน”
วันที่ 10 มกราคม 2567 นายโทนี่ เฟอร์นานเดส ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร Capital A ผู้ก่อตั้งสายการบินแอร์เอเชีย เปิดเผยว่า วันนี้ (10 มกราคม) ตนได้เข้าพบนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง
- ลูกแม่ค้าขายผัก-พ่อขับแท็กซี่ สู่เก้าอี้ “ปลัดพลังงาน” บทพิสูจน์ชีวิต “ดร.ประเสริฐ สินสุขประเสริฐ”
- NETA X ขาย มิ.ย.นี้ ราคาไม่เกิน 1 ล้านบาท หลัง MOU สรรพสามิต
- KBANK ปรับโครงสร้างใหญ่ ลดจำนวนบอร์ด ตั้ง 4 เอ็มดีเป็น “ผู้จัดการใหญ่” มีผล 1 พ.ค.67
ร่วมด้วยนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม, นางสาวสุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา, ผู้บริหารจากสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (CAAT), พลตำรวจเอก วิสนุ ปราสาททองโอสถ ประธานกรรมการ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน)
โดยกลุ่มแอร์เอเชีย ได้นำเสนอข้อเรียกร้องไปยังรัฐบาลดังนี้
1. ขอลดอัตราภาษีสรรพสามิตน้ำมันเชื้อเพลิงสำหรับเครื่องบินไอพ่น จากปัจจุบันจัดเก็บอยู่ที่ 4.726 บาทต่อลิตร โดยลดลงจากอัตราดังกล่าวประมาณ 40%
2. ขอให้บริษัท วิทยุการบินแห่งประเทศไทย จำกัด คงอัตราค่าบริการการเดินอากาศ (Air Navigation Service Charge) ไว้ที่อัตราเดิม
3. ขอให้รัฐบาลไทย รวมถึงรัฐบาลประเทศอื่น ๆ ในอาเซียน ร้องขอเพิ่มสิทธิการบินจากประเทศอินเดีย
“เราไม่ได้ต้องการเงินอุดหนุน (Subsidies) ขอเพียงแค่ลดต้นทุนลงเพื่อให้การท่องเที่ยวเติบโต เช่นกันเราไม่ได้ต้องการให้ยกเลิกการจัดเก็บค่าภาษีน้ำมัน เพียงแต่ให้เวลาสายการบินก่อน” นายโทนี่กล่าว
ทั้งนี้ ประเทศไทยถือเป็นประเทศเดียวที่กลุ่มแอร์เอเชียมีฐานการบิน (ไทย, มาเลเซีย, ฟิลิปปินส์ และอินโดนีเซีย) ที่มีการจัดเก็บอัตราภาษีสรรพสามิตน้ำมันเชื้อเพลิงสำหรับเครื่องบินไอพ่น ขณะที่เวียดนามมีอัตราการจัดเก็บที่ประมาณ 1.4 บาทต่อลิตร
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ในช่วงการระบาดของโควิด-19 ที่ผ่านมา รัฐบาลไทยเคยปรับลดอัตราการจัดเก็บภาษีสรรพสามิตน้ำมันเชื้อเพลิงสำหรับเครื่องบินไอพ่น จาก 4.726 บาทต่อลิตร ลงมาเหลือ 0.20 บาทต่อลิตร เพื่อช่วยเหลืออุตสาหกรรมสายการบินของไทย
นอกจากนี้ นายโทนี่ยังได้กล่าวกับนายกรัฐมนตรีถึงประเด็นการผลักดันให้ไทยเป็นศูนย์กลางการบินของภูมิภาคอาเซียน
“ถึงเวลาแล้วที่กรุงเทพฯ จะกลายเป็น “ดูไบแห่งใหม่” หรือศูนย์กลางการบินของประเทศในกลุ่มอาเซียน ผู้โดยสารสามารถเดินทางจากไทยไปยังยุโรป แอฟริกาได้ โดยไม่ต้องต่อเครื่องบินที่ตะวันออกกลาง”
ทั้งนี้ เชื่อว่าในอนาคตท่าอากาศยานจะขยายตัวเพิ่มรองรับการเติบโตได้ และหวังว่าหากมีการก่อสร้างสนามบินจริง ขอให้คำนึงถึงการให้บริการของสายการบินต้นทุนต่ำด้วย
โอกาสนี้ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรียังได้ขอให้สายการบินเพิ่มเที่ยวบินพิเศษ เพื่อรองรับการเดินทางในช่วงเทศกาลสงกรานต์ 2567 อีกด้วย
