ท่องเที่ยวยั่งยืน เทรนด์ใหม่ ผู้ประกอบการไทย 99% เห็นประโยชน์แต่พร้อมลงทุนแค่ 4%

ท่องเที่ยวเชิงคุณภาพและยั่งยืน เทรนด์ใหม่ท่องเที่ยวโลก เผยเป็นปัจจัยสำคัญในการตัดสินใจจองที่พัก ค้นหาแหล่งท่องเที่ยว และออกแบบแผนการเดินทางของนักท่องเที่ยว ขณะที่ผู้ประกอบการไทยร้อยละ 99 เห็นประโยชน์ แต่พร้อมลงทุนแค่ร้อยละ 4

วันที่ 17 เมษายน 2567 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากรายงานของ Expedia Group ระบุว่า พฤติกรรมนักท่องเที่ยวหลังจากวิกฤตโควิด-19 จะมองหาประสบการณ์การท่องเที่ยวที่ต่างไปจากเดิม โดยจะให้ความสำคัญกับเทรนด์การท่องเที่ยวยั่งยืน ที่ให้ความสำคัญทั้งกับสิ่งแวดล้อม ธรรมชาติ ชุมชน ไปจนถึงการอนุรักษ์วัฒนธรรมท้องถิ่นอันล้ำค่ามากขึ้น

ความยั่งยืนจึงกลายเป็นปัจจัยสำคัญต่อการตัดสินใจจองที่พัก ค้นหาแหล่งท่องเที่ยว และออกแบบแผนการเดินทางที่จะส่งผลกระทบทางลบแก่สิ่งแวดล้อมในจุดหมายปลายทางให้น้อยที่สุด

โดยจากการสำรวจพบว่า 69% ของนักท่องเที่ยวมองหาทริปที่ช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม 66% ของนักท่องเที่ยวต้องการสนับสนุนเศรษฐกิจชุมชน 65% ของนักท่องเที่ยวสนใจวัฒนธรรมท้องถิ่นและความเป็นชุมชน และ 52% ของนักท่องเที่ยวอยากไปเยี่ยมชมสถานที่ที่ยังไม่เป็นที่รู้จัก และพบว่าร้อยละ 90 ของนักเดินทางใช้เกณฑ์เรื่องความยั่งยืนเป็นตัวเลือกหลักเมื่อตัดสินใจออกเดินทางท่องเที่ยว

สำหรับประเทศนั้นจากการสำรวจดัชนีเชื่อมั่นผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวในประเทศไทย ไตรมาส 1/2567 ซึ่งจัดทำโดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ร่วมกับสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (สทท.) และมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชัย จ.สงขลา ซึ่งได้สำรวจในประเด็นความพร้อมของผู้ประกอบการในการปรับตัวเข้าสู่การท่องเที่ยวเชิงคุณภาพและการท่องเที่ยวยั่งยืน พบว่า ผู้ประกอบการส่วนใหญ่ ร้อยละ 93 มีความรู้และความเข้าใจเกี่ยวกับการท่องเที่ยวเชิงคุณภาพและท่องเที่ยวยั่งยืน

ร้อยละ 99 เห็นผลประโยชน์ทางสังคมและสิ่งแวดล้อมในการปรับเปลี่ยนธุรกิจไปสู่การท่องเที่ยวเชิงคุณภาพและท่องเที่ยวยั่งยืน และร้อยละ 94 มีการพัฒนาความรู้และพัฒนาทักษะของบุคลากร เพื่อปรับเปลี่ยนธุรกิจ แต่มีผู้ประกอบการเพียบร้อยละ 4 เท่านั้นที่มีแผนลงทุนเพื่อปรับเปลี่ยนธุรกิจไปสู่การท่องเที่ยวเชิงคุณภาพและท่องเที่ยวยั่งยืน