
“เอมิเรตส์” ทุ่มกว่า 5 ล้านเหรียญสหรัฐเปิดเลานจ์ใหม่สุดหรูขนาด 1.45 พันตารางเมตร ณ อาคาร SAT-1 สนามบินสุวรรณภูมิ เผยเป็นห้องรับรองนานาชาติที่ใหญ่ที่สุดของสายการบินเป็นรองจากที่สนามบินนานาชาติดูไบหวังยกระดับประสบการณ์การเดินทางระดับพรีเมี่ยม พร้อมหนุนกรุงเทพฯ ขึ้นแท่นหนึ่งในจุดหมายปลายทางสำคัญในภูมิภาคเซาท์อีสต์เอเชีย
นายโมฮัมเหม็ด อัล วาเฮดิ ผู้จัดการสายการบินเอมิเรตส์ (Emirates) ประจำประเทศไทย เปิดเผยว่า สายการบินได้ทุ่มงบประมาณกว่า 5 ล้านเหรียญสหรัฐสำหรับการปรับปรุงและย้ายห้องรับรองผู้โดยสาร (เลานจ์) ใหม่ไปยังอาคารเทียบเครื่องบินรองหลังที่ 1 (SAT-1) ของท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ กรุงเทพฯ
โดยถือเป็นส่วนหนึ่งของการยกระดับประสบการณ์การเดินทางระดับพรีเมี่ยมให้กับลูกค้าของสายการบิน และสะท้อนถึงมาตรฐานการให้บริการที่ยอดเยี่ยมและหรูหรา ช่วยให้ผู้โดยสารสามารถพักผ่อนและฟื้นฟูพลังก่อนการเดินทาง
โดยห้องรับรองผู้โดยสารดังกล่าวนี้ตั้งอยู่ที่ชั้น 4 ของอาคาร SAT-1 สามารถเดินไปยังประตูขึ้นเครื่องได้ภายใน 5 นาที มีพื้นที่รวม 1,454 ตารางเมตร และบริการที่ครบครัน สามารถรองรับผู้โดยสารได้สูงสุด 250 คน พร้อมรองรับการเดินทางของผู้โดยสารที่เดินทางบนเที่ยวบินแอร์บัส A380 ถึง 2 เที่ยวบินพร้อมกันในแต่ละวัน ถูกออกแบบเพื่อให้ผู้โดยสารได้รับประสบการณ์ที่สะดวกสบาย ทันสมัย และหรูหรา
ทั้งนี้ ผู้โดยสารชั้น 1 (First Class) และชั้นธุรกิจ (Business Class) รวมถึงสมาชิกโปรแกรม Skywards สามารถเพลิดเพลินกับการพักผ่อนระดับพรีเมี่ยมในสไตล์ที่เป็นเอกลักษณ์ของเอมิเรตส์ พร้อมบริการอาหารสไตล์บุฟเฟต์ที่ผสมผสานทั้งอาหารท้องถิ่นและอาหารนานาชาติ รวมถึงขนมหวานของไทย
“การขยายพื้นที่และการย้ายห้องรับรองครั้งนี้ทำให้ห้องรับรองผู้โดยสารในกรุงเทพฯ เป็นห้องรับรองนานาชาติที่ใหญ่ที่สุดของสายการบินเอมิเรตส์ รองจากห้องรับรองที่สนามบินนานาชาติดูไบ ซึ่งเป็นฐานบินหลักของสายการบินเอมิเรตส์ มีสิ่งอำนวยความสะดวกภายในห้องรับรองครบครัน ไม่ว่าจะเป็นห้องอาบน้ำ บริการ WiFi ฟรี ฯลฯ” นายโมฮัมเหม็ดกล่าว
นายโมฮัมเหม็ดกล่าวด้วยว่า สายการบินเอมิเรตส์เป็นหนึ่งในสายการบินแรก ๆ ที่ย้ายห้องรับรองผู้โดยสารไปยังอาคาร SAT-1 โดยปัจจุบันให้บริการเที่ยวบินระหว่างกรุงเทพฯ และดูไบวันละ 5 เที่ยวบิน โดยใช้เครื่องบินแอร์บัส A380 และโบอิ้ง 777 ควบคู่กับเที่ยวบินไป-กลับภูเก็ต และดูไบ รวมถึงเที่ยวบินตรงจากกรุงเทพฯ ไปยังฮ่องกงวันละ 1 เที่ยวบิน ทำให้กรุงเทพฯ เป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางที่สำคัญที่สุดของสายการบินเอมิเรตส์ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (Southeast Asia)
“นอกจากการขยายห้องรับรองผู้โดยสารแล้วเอมิเรตส์ยังมอบบริการรถรับ-ส่งสุดหรูฟรีให้กับผู้โดยสารชั้น 1 และชั้นธุรกิจครอบคลุมระยะทาง 60 กิโลเมตรจากสนามบินสุวรรณภูมิ ซึ่งสะดวกสบายและสามารถเริ่มต้นการเดินทางได้อย่างไร้กังวล” นายโมฮัมเหม็ดกล่าว และว่า
ขณะเดียวกัน บนเครื่องบินแอร์บัส A380 ของเอมิเรตส์ ผู้โดยสารชั้น 1 และชั้นธุรกิจจะได้สัมผัสประสบการณ์ที่เหนือระดับ ไม่ว่าจะเป็นห้องโดยสารแบบส่วนตัว ห้องอาบน้ำสุดหรู และเลานจ์บนเครื่องที่เป็นเอกลักษณ์ของสายการบิน พร้อมระบบความบันเทิงบนเที่ยวบินที่ได้รับรางวัล Ice ที่มีช่องรายการให้เลือกมากกว่า 6,500 ช่องแบบออนดีมานด์
นายโมฮัมเหม็ดกล่าวเพิ่มเติมอีกว่า นอกจากห้องรับรองในกรุงเทพฯ แล้วสายการบินเอมิเรตส์ยังมีห้องรับรองผู้โดยสารอีก 41 แห่งทั่วโลก โดย 7 แห่งตั้งอยู่ในสนามบินนานาชาติดูไบ และอีก 34 แห่งในจุดหมายปลายทางทั่วเครือข่ายสายการบินเอมิเรตส์ และในจุดหมายปลายทางอื่น ๆ ผ่านพันธมิตร
“สายการบินเอมิเรตส์จะยังคงขยายเครือข่ายเส้นทางการบินเพื่อรองรับการเพิ่มขึ้นของผู้โดยสาร โดยในปีที่ผ่านมาประเทศไทยยังคงเป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางยอดนิยมของนักท่องเที่ยว จากการที่มีทั้งอาหาร วัฒนธรรม และสภาพอากาศที่เอื้อต่อการท่องเที่ยว” นายโมฮัมเหม็ดกล่าว