ไพเรทเกิร์ลทุ่มปั้น “บลูทรีภูเก็ต” ขึ้นแท่น “แลนด์มาร์ก” ใหม่ท่องเที่ยวภูเก็ต

กลุ่มทุน “ไพเรท เกิร์ล” ภูเก็ต ทุ่มงบฯลงทุนกว่า 1.2 พันล้านบาท ดึงกลุ่ม “คริสตัน ลากูนส์” อเมริกา ร่วมปั้นเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์แห่งใหม่ พร้อมโครงการ “บลูทรี ภูเก็ต” บนพื้นที่ 140 ไร่ใน อ.ถลาง หวังดันเป็นแลนด์มาร์กท่องเที่ยวระดับเวิลด์คลาสล่าสุดของภูเก็ต มั่นใจเป็น man-made attraction ที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก-หนุนท่องเที่ยวภูเก็ตเติบโตต่อเนื่อง เผยเปิดให้บริการเฟสแรก ก.พ. 62 คาดกวาดนักท่องเที่ยวเข้าชมปีแรกได้ไม่ต่ำกว่า 1.5 ล้านคน

นายไมเคิล ไอลิง ผู้จัดการทั่วไปโครงการบลูทรี ภูเก็ต บริษัท ไพเรท เกิร์ล จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทได้ลงทุนมูลค่ากว่า 40 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือกว่า 1,200 ล้านบาท สำหรับพัฒนาโครงการเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ บนพื้นที่ 140 ไร่ใน อ.ถลาง เพื่อให้เป็นแลนด์มาร์กใหม่แห่งการพักผ่อนและแหล่งความบันเทิงครบวงจรแห่งแรกในจังหวัดภูเก็ต พร้อมด้วยโครงการ “บลูทรี ลากูน” มหาสมุทรสไตล์ลากูนที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ซึ่งก่อสร้างโดยคริสตัน ลากูนส์ (Crystal Lagoons) บริษัทผู้นำด้านวัตกรรมลากูน ซึ่งมีสำนักงานใหญ่อยู่ที่เมืองไมอามี รัฐฟลอริดา สหรัฐอเมริกา

เฟสแรก 6 โซน-บนพื้นที่ 70 ไร่

นายไมเคิลกล่าวว่า โครงการ “บลูทรี ภูเก็ต” เป็นสวนน้ำและศูนย์รวมความบันเทิงครบวงจรสำหรับครอบครัว รวมถึงนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างประเทศ โดยเฟสแรกบริษัทได้พัฒนาขึ้นบนพื้นที่รวม 70 ไร่ ประกอบด้วย 6 โซนหลัก ๆ ประกอบด้วย 1.Retail ซึ่งจะเป็นส่วนของร้านค้าต่าง ๆ หลากหลายกว่า 70 ร้านค้า รวมถึงซูเปอร์มาร์เก็ต และบันเทิง 2.Dining Destination เป็นโซนร้านอาหารทั้งอาหารไทยและอาหารนานาชาติจากทั่วโลก เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกรวม 17 ร้านอาหาร รวมถึงโซนร้านอาหารที่เป็นฟู้ดทรักและสตรีตฟู้ดอีกจำนวนหนึ่งด้วย

3.Beach Club เป็นโซนที่สามารถเชื่อมต่อกับโซนร้านค้าและร้านอาหารได้ โซนนี้เป็นอาคาร 4 ชั้น ประกอบด้วยร้านอาหาร เครื่องดื่ม บริการตลาดทั้งวัน นอกจากนี้ยังมีพื้นที่สำหรับจัดกิจกรรมบันเทิงได้ 4.Blue Tree Lagoon ซึ่งเป็นส่วนตรงกลางของโครงการ เป็นสวนน้ำขนาดใหญ่ที่สร้างขึ้นมาบนพื้นที่ 17,000 ตารางเมตร และเป็นศูนย์รวมที่ทุกคนในครอบครัวมาร่วมสนุกสนาน

5.Lagoon Activities ส่วนของสวนน้ำและความบันเทิงที่มากกว่าสวนน้ำทั่วไป มีสไลเดอร์ความสูงตั้งแต่ 1-10 เมตร และมีโซนสำหรับเด็ก รวมถึงสลิปฟลาย สแปลชโซน รวมถึงกิจกรรมทางบกอีกหลากหลายชนิด และ 6.Fitness สำหรับเป็นฟิตเนสเซ็นเตอร์สำหรับคนรักสุขภาพ ทั้งนี้ เพื่อให้สามารถรองรับกลุ่มลูกค้าได้ทุกกลุ่มอย่างแท้จริง

“เราตั้งเป้าเปิดให้บริการโครงการบลูทรี ภูเก็ต เฟสแรกในเดือนกุมภาพันธ์ 2562 นี้ โดยมั่นใจว่าโครงการนี้จะมาเติมเต็มความบันเทิงและการพักผ่อนท่องเที่ยวสำหรับครอบครัวแห่งใหม่ของจังหวัดภูเก็ต และเชื่อมั่นว่าหลังจากเปิดให้บริการแล้วจะเป็นที่สนใจของกลุ่มนักท่องเที่ยวในอันดับต้น ๆ แน่นอน เนื่องจากสถานที่ตั้งสามารถตอบโจทย์การเติบโตในอนาคตได้เป็นอย่างดี เพราะอยู่ไม่ไกลจากโครงการลากูน่า ภูเก็ต และแวดล้อมไปด้วยโรงแรมในระดับ 4-5 ดาวจำนวนกว่า 12,000 ห้อง การเดินทางเข้า-ออกก็สะดวกสบาย” นายไมเคิลกล่าว

ตั้งเป้าปีแรกกวาด 1.5 ล้านคน

นายไมเคิลกล่าวต่อไปว่า สำหรับโครงการภูเก็ต ลากูน ถือเป็นมหาสมุทรสไตล์ลากูนที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย เป็นอันดับ 3 ในภูมิภาคเอเชีย และกว่า 300 โครงการทั่วโลก โดยในเฟสแรกนี้บริษัทจะมุ่งเน้นเรื่องของความบันเทิงเป็นหลัก

ด้านนางสาวอาริยะ งามวงศ์พาณิชย์ ผู้จัดการค้าปลีก โครงการบลูทรี ภูเก็ต กล่าวเสริมว่า จังหวัดภูเก็ตเป็นเมืองที่มีการขยายตัวของนักท่องเที่ยวอย่างต่อเนื่องทุกปี โดยคาดการณ์กันว่าในปี 2562 นี้จะมีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาภูเก็ตราว 9 ล้านคน จากปัจจุบันที่อยู่ประมาณ 6 ล้านคน โดยเฉพาะกลุ่มนักท่องเที่ยวจีน, รัสเซีย, รวมถึงประเทศอื่น ๆ ในโซนยุโรป จึงเป็นจังหวะที่ดีที่จะเปิดตัวโครงการบลูทรี ภูเก็ต ในช่วงต้นปีหน้านี้

“ในเฟสแรกนี้เรามีศักยภาพในการรองรับนักท่องเที่ยวได้ประมาณ 10,000-15,000 คนต่อวัน ซึ่งเราคาดการณ์ว่าในปีแรกของการเปิดให้บริการนี้น่าจะมีนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกเข้ามาใช้บริการประมาณ 5,000 คนต่อวัน หรือประมาณ 1.5 ล้านคนต่อปี” นางสาวอาริยะกล่าวและว่า อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าทั้งจำนวนและรายได้จะเพิ่มสูงขึ้นอีกในปีต่อๆ ไป ซึ่งบริษัทคงต้องใช้เวลาสักระยะ เพื่อประเมินผลตอบรับก่อนจะเริ่มลงทุนในเฟสต่อไป

ททท.พร้อมหนุนเต็มที่

ด้านนายฉัททันต์ กุญชร ณ อยุธยา รองผู้ว่าการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กล่าวว่า โครงการดังกล่าวนี้น่าจะเป็นอีกโปรเจ็กต์ที่สร้างการเปลี่ยนแปลงอย่างมากในด้านธุรกิจการท่องเที่ยวให้จังหวัดภูเก็ตและประเทศไทย เนื่องจากเป็นสถานที่ที่มีบริการครบวงจร ทั้งด้านบันเทิง เรื่องราวของพื้นที่ที่ชัดเจน จึงเชื่อว่าจะช่วยดึงดูดให้นักท่องเที่ยวจากทั่วโลกเข้ามาจับจ่ายและพำนักอยู่ในภูเก็ตได้มากขึ้น

“วันนี้นักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามาภูเก็ตมีจำนวนมากกว่า 6 ล้านคนต่อปี และยังมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นตลอด จึงมั่นใจภูเก็ตยังเป็นเมืองที่ยังเติบโตได้อีกมาก ทั้งในกลุ่มคนไทยและนักท่องเที่ยวต่างชาติ และเชื่อว่าจะเป็นอีกโครงการที่สามารถดึงกลุ่มนักท่องเที่ยวที่เดินทางครั้งแรกได้ ขณะที่นักท่องเที่ยวกลุ่มเดินทางซ้ำก็จะมีแหล่งท่องเที่ยวใหม่ ๆ รองรับด้วย” นายฉัททันต์กล่าว

นายฉัททันต์ยังกล่าวด้วยว่า ในส่วนของ ททท.นั้น พร้อมให้การสนับสนุนเต็มที่ ทั้งในเรื่องการส่งเสริมการขาย การตลาด รวมถึงช่วยการสร้างการรับรู้ไปยังกลุ่มนักท่องเที่ยวเป้าหมาย โดยได้เตรียมมอบข้อมูลให้สำนักงาน ททท. ในต่างประเทศ สื่อสารและบรรจุโครงการดังกล่าวเข้าไปในแพ็กเกจการขาย รวมถึงแผนการส่งเสริมการขายในทุกรูปแบบด้วย