บิ๊กมูฟ “ยูดีทาวน์” ทุ่มพันล้าน ผุด “ศูนย์ประชุม-รร.” หนุนอุดรสู่ไมซ์ซิตี้

“ยูดีทาวน์” ทุ่มพันล้านปลุกธุรกิจไมซ์-ท่องเที่ยวเมืองอุดร พร้อมสานต่อนโยบายหนุนอุดรฯขึ้นแท่นเมืองไมซ์ซิตี้อันดับ 1 ภาคอีสาน ผุดศูนย์ประชุมระดับนานาชาติ “มลฑาทิพย์ฮอลล์” ใจกลางเมือง ดึงงานแสดงสินค้า-เอ็กซิบิชั่นขนาดใหญ่ทั่วประเทศ-กลุ่มประเทศลุ่มน้ำโขง ตั้งเป้าคืนทุนภายใน 5 ปี ล่าสุดเตรียมลงทุนโรงแรมระดับ 4 ดาวบวก รองรับนักท่องเที่ยวกลุ่มธุรกิจ พร้อมต่อจิ๊กซอว์ธุรกิจในเครือสู่โครงการมิกซ์ยูสครบวงจรในย่าน New CBD

นายธนกร วีรชาติยานุกูล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อุดรพลาซ่า จำกัด ผู้บริหารศูนย์การค้า “ยูดีทาวน์” และประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจังหวัดอุดรธานี เปิดเผยว่า อุดรธานีเป็นจังหวัดที่มีการขยายตัวทางเศรษฐกิจค่อนข้างดีมาอย่างต่อเนื่อง และมีความพร้อมในด้านสถานที่ท่องเที่ยวโรงแรมที่พัก ร้านอาหาร ฯลฯ รวมถึงระบบการคมนาคมขนส่ง ทั้งทางรถยนต์ รถไฟ และทางอากาศ โดยเฉพาะทางอากาศปัจจุบันท่าอากาศยานอุดรธานีมีปริมาณเที่ยวบินให้บริการถึง 56 เที่ยวบิน สูงสุดในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (อีสาน)

ทุ่ม 800 ล.ผุดศูนย์ประชุม

และมีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างประเทศเดินทางมาถึง 3.7 ล้านคนในปี 2561 ที่ผ่านมา และคาดว่าจะเพิ่มเป็น 4 ล้านคนในปีนี้ โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวกลุ่มธุรกิจที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน แต่เป็นจังหวัดที่ยังไม่มีสถานที่รองรับการจัดงานประชุมสัมมนา งานแสดงสินค้า และงานเอ็กซิบิชั่นระดับนานาชาติ ที่เป็นมาตรฐานสำหรับรองรับนักท่องเที่ยวกลุ่มธุรกิจ หรือกลุ่มไมซ์ (MICE) บริษัทจึงใช้เงินลงทุนกว่า 800 ล้านบาท สำหรับก่อสร้างศูนย์ประชุมและจัดแสดงสินค้าระดับนานาชาติ “มลฑาทิพย์ฮอลล์” บนที่ดิน 10 ไร่ บริเวณใจกลางเมือง (ตรงข้ามศูนย์การค้ายูดีทาวน์) ห่างจากสนามบินนานาชาติอุดรธานี เพียง 10 นาที

ทั้งนี้ เพื่อรองรับการจัดงานประชุมสัมมนา งานแสดงสินค้า และงานเอ็กซิบิชั่นขนาดใหญ่และงานในระดับนานาชาติ ทั้งจากในจังหวัดอุดรธานี จังหวัดใกล้เคียง กรุงเทพฯ รวมถึงกลุ่มประเทศอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขง หรือ GMS ที่มีการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งสอดรับกับยุทธศาสตร์การขับเคลื่อนจังหวัดอุดรธานีให้เป็นเมืองไมซ์ซิตี้ในระดับภูมิภาคอีกด้วย

นายธนกรกล่าวว่า ศูนย์ประชุมแห่งนี้ถือว่าทันสมัยและเพียบพร้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกที่สุดในภาคอีสาน มีพื้นที่ใช้สอยรวมกว่า 2.5 หมื่นตารางเมตร ที่จอดรถกว่า 1 พันคัน และห้องจัดงานที่สามารถเลือกได้ตามความเหมาะสมจำนวน 5 ห้อง (สามารถเปิดทะลุถึงกันได้) โดยห้องใหญ่สามารถจุคนได้ถึง 4-5 พันคน พร้อมด้วยพื้นที่เป็นฟรีฟังก์ชั่น และสวนสไตล์โคโลเนียล ซึ่งมีศักยภาพในการรองรับได้ทั้งงานที่เป็นประชุมสัมมนา (meeting & intensive), งานแต่งงาน (wedding) และงานจัดแสดงสินค้าและนิทรรศการ (exhibition)

คาดคืนทุนได้ภายใน 5 ปี

นายภาสกร วีรชาติยานุกูล กรรมการผู้จัดการ ศูนย์ประชุมนานาชาติ มลฑาทิพย์ฮอลล์ กล่าวเสริมว่า ศูนย์ประชุมแห่งใหม่นี้ได้เริ่มเปิดให้บริการมาแล้วตั้งแต่เดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ซึ่งได้รับการตอบรับค่อนข้างดีเกินคาด ปัจจุบันมีงานที่เซ็นสัญญาไปจนถึงปลายปีแล้ว ประมาณ 50 งาน แต่เปิดตัวอย่างเป็นทางการในเดือนสิงหาคมนี้

โดยประเดิมงานแรกด้วยการจัดการแข่งขันชกมวย THAI FIGHT คำชะโนดในวันที่ 24 สิงหาคมนี้ ทั้งนี้ ตั้งเป้ารายได้รวมในช่วงครึ่งปีหลังนี้ ซึ่งเป็นปีแรกของการเปิดให้บริการไว้ประมาณ 40 ล้านบาท

“การจัดการแข่งขันชกมวย THAI FIGHT ถือเป็นอีเวนต์ระดับประเทศ การมาจัดงานที่ศูนย์ประชุมมลฑาทิพย์ ฮอลล์ จะทำให้ศูนย์ประชุมของเราเป็นที่รับรู้ไปทั่วประเทศและในทั่วโลกอีกด้วย”

นายภาสกรกล่าวต่อไปว่า ทิศทางการจัดงานประชุมสัมมนา งานแสดงสินค้า และเอ็กซิบิชั่นในปัจจุบันนั้นมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน จึงคาดว่าศูนย์ประชุมแห่งนี้จะได้รับการตอบรับจากกลุ่มบริษัทออร์แกไนเซอร์ เจ้าของสินค้าและบริษัทต่าง ๆ ตอบรับเข้ามาจัดงานในอัตราที่เพิ่มขึ้นในปีที่ 2 ของการเปิดดำเนินงาน

โดยตั้งเป้ามีงานขนาดใหญ่เข้ามาใช้บริการไม่ต่ำกว่า 26 งานต่อปี หรือมีรายได้รวมไม่ต่ำกว่า 100 ล้านบาท นอกจากนี้ บริษัทยังมีแผนสร้างงานอีเวนต์ขนาดใหญ่ของตัวเองที่มีศักยภาพในการทำรายได้ไม่ต่ำกว่า 50 ล้านบาทต่องาน อีกประมาณ 8 งานต่อปี (ไตรมาสละ 2 งาน) จากแผนดังกล่าวนี้ ทำให้คาดว่าบริษัทน่าจะสามารถคืนทุนได้ภายใน 5 ปี

จ่อลงทุนโรงแรมเสริมพอร์ต

นายธนกรกล่าวต่อไปอีกว่า นับจากนี้ภาพลักษณ์ความเป็นไมซ์ซิตี้ของจังหวัดอุดรธานีจะเริ่มชัดเจนขึ้นเรื่อย ๆ และมีนักเดินทางท่องเที่ยวกลุ่มธุรกิจเพิ่มมากขึ้น บริษัทจึงมีแผนลงทุนเพิ่มอีกประมาณ 200 ล้านบาท สำหรับลงทุนในธุรกิจโรงแรมระดับ 4 ดาว+ ขนาดไม่เกิน 80 ห้องพัก บนที่ดินประมาณ 2 ไร่ (ข้างศูนย์ประชุม) อีกหนึ่งธุรกิจ เพื่อรองรับนักเดินทางท่องเที่ยวกลุ่มธุรกิจที่คาดว่าจะมีอัตราการเติบโตที่เพิ่มขึ้นตามยุทธศาสตร์การผลักดันให้จังหวัดอุดรธานีเป็นไมซ์ซิตี้

“ตอนนี้โครงการดังกล่าวอยู่ระหว่างการออกแบบก่อสร้าง คาดว่าน่าจะเริ่มลงทุนได้ในช่วงประมาณปลายปีนี้ ซึ่งเราเชื่อว่าทั้งศูนย์ประชุมและโรงแรมจะเป็นธุรกิจใหม่ที่จะมาต่อจิ๊กซอว์ให้โครงการศูนย์การค้ายูดีทาวน์ มีความครบวงจร หรือเป็นโครงการ mixed useที่สมบูรณ์และทันสมัย และสร้างให้ทำเลดังกล่าวกลายเป็นพื้นที่เศรษฐกิจใหม่ หรือ New CBD ของเมืองอุดรอย่างชัดเจนอีกด้วย” นายธนกรกล่าว

นายธนกรยังกล่าวเพิ่มเติมด้วยว่า นอกจากนี้ ในอนาคตอันใกล้ยังมีโครงการรถไฟทางคู่ไทย-จีน (สถานีอยู่บริเวณโครงการ) เข้ามาสนับสนุน และช่วยดึงทราฟฟิกนักเดินทางท่องเที่ยวทั้งจากในจังหวัดอุดรานี จังหวัดใกล้เคียง และจากต่างประเทศโดยเฉพาะทางประเทศจีนเข้ามาได้สะดวกยิ่งขึ้น ซึ่งแน่นอนคาดว่าจะทำให้ธุรกิจและสินทรัพย์ (asset) ทั้งหมดของกลุ่มยูดีทาวน์มีมูลค่าเพิ่มสูงขึ้นตามไปด้วย

มุ่งยกระดับมาตรฐานสู่สากล

ด้านนายสิธิชัย จินดาหลวง รองผู้ว่าราชการจังหวัดอุดธานี กล่าวเสริมว่าสำหรับแนวทางในการขับเคลื่อนจังหวัดอุดรธานีสู่ไมซ์ซิตี้นั้นประกอบด้วย 4 ส่วนหลัก ๆ ได้แก่ 1.การสร้างแบรนด์เมือง โดยนำเอาดีเอ็นเอของเมืองมาส่งเสริมธุรกิจไมซ์ 2.พัฒนาเครือข่ายธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจไมซ์ อาทิ โรงแรม ที่พัก การคมนาคมขนส่ง สถานประกอบการด้านท่องเที่ยว ฯลฯ 3.การพัฒนาบุคลากรที่เกี่ยวข้อง และ 4.การพัฒนาศักยภาพของสถานที่ที่เกี่ยวข้องให้รองรับธุรกิจไมซ์โดยตรง โดยพัฒนาให้ทั้ง 4 ส่วนมีมาตรฐานที่เป็นระดับสากล

“การขับเคลื่อนสู่ไมซ์ซิตี้นั้นถือเป็นยุทธศาสตร์สำคัญในการพัฒนาเศรษฐกิจของจังหวัดอุดรธานี โดยได้วางแนวทางการขับเคลื่อนโดยใช้กลไกของเอกชนเป็นหลัก ทั้งนี้ เนื่องจากมองว่าธุรกิจไมซ์มีศักยภาพในการสร้างให้จังหวัดมีอัตราการเติบโตได้สูงกว่าจังหวัดอื่น ๆ ถึง 3 เท่าตัว” นายสิธิชัยกล่าว