ผุดโมเดล “ท่องเที่ยวไฮเอนด์” ปิดภูเก็ต-สมุย-พะงัน สร้างพื้นที่ปลอดเชื้อดึงต่างชาติเที่ยว

นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา

“พิพัฒน” ผุด “โมเดลท่องเที่ยวไฮเอนด์” ปิดเมืองภูเก็ต-สมุย/พะงัน สร้างพื้นที่ปลอดเชื้อ ดึงต่างชาติใช้จ่ายสูงหนีหนาวเที่ยวไทย เงื่อนไขพักเกิน 1 เดือน-บินตรงเข้าเมืองปลายทาง-ห้ามเดินทางข้ามจังหวัด-ผ่านคัดกรอง สธ.ไทย รับตะวันออกไม่พ้นวิกฤตเร็วนัก ขอความเห็นประชาชน-ผู้ประกอบการก่อนเดินหน้าต่อ คาดเริ่มนับ 1 ท่องเที่ยวไทย ก.ค.นี้!!!

นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า ขณะนี้กระทรวงฯ ได้ร่วมกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) วางแผนโมเดลการท่องเที่ยวใหม่สำหรับนักท่องเที่ยวไฮเอนด์ (Hi-end) หลังจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในไทยลดระดับลงและเข้าสู่ช่วงปลอดเชื้อโควิด-19 โดยการเสนอให้ปิดชายแดนเมืองท่องเที่ยว 2 แห่งที่เป็นเกาะ ได้แก่ “ภูเก็ต” และ “สมุย-พะงัน” เพื่อให้นักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาท่องเที่ยวได้อย่างปลอดภัยไร้เชื้อ

โดยเงื่อนไขของโมเดลคือ นักท่องเที่ยวจะต้องพำนักในไทยอย่างน้อย 1 เดือนขึ้นไป เดินทางตรงเข้าสู่สนามบินในจังหวัด และไม่เดินทางข้ามจังหวัดระหว่างพำนักในประเทศไทย นอกจากนั้น ก่อนเดินทางเข้าสู่ประเทศไทยนักท่องเที่ยวจะต้องผ่านการคัดกรองทางด้านสาธารณสุขจากประเทศต้นทางและผ่านการคัดกรองจากกระทรวงสาธารณสุขไทยอีกครั้งก่อนเดินทางเข้าประเทศไทย

“แนวคิดดังกล่าวนี้เกิดขึ้นเพื่อรองรับนักท่องเที่ยวต่างชาติกลุ่มที่มีศักยภาพในการใช้จ่ายสูงและต้องการเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวและพักผ่อนหย่อนใจในประเทศไทยในช่วงที่ไทยปลอดเชื้อแล้ว ในขณะที่ประเทศต้นทางที่มาอาจจะยังไม่พ้นจากภาวะแพร่ระบาดของเชื้อและกำลังเข้าสู่ฤดูหนาวที่มีอากาศหนาวจัด อาทิ ภูมิภาคอเมริกา ภูมิภาคยุโรป โดยวางแผนว่าน่าจะนำร่องโมเดลดังกล่าวในหน้าหนาวนี้ หากได้รับความเห็นชอบจากภาคส่วนต่างๆ”

อย่างไรก็ตาม โครงการดังกล่าวจำเป็นที่จะต้องปิดชายแดนของทั้ง 2 พื้นที่และจะมีผลกระทบต่อการใช้ชีวิตของประชาชนในจังหวัดอย่างแน่นอน ดังนั้น ความคิดเห็นของประชาชนและผู้ประกอบการธุรกิจต่างๆ รวมถึงหน่วยงานในพื้นที่จึงมีความสำคัญอย่างมาก ถ้าหากประชาชนไม่เห็นด้วยก็ไม่สามารถทำได้ โดยที่ผ่านมาตนได้ลงพื้นที่จังหวัดภูเก็ตและได้พูดคุยกับผู้ประกอบการคร่าวๆ แล้วในประเด็นนี้ หลายฝ่ายเห็นด้วย แต่น่าจะต้องมีการพูดคุยในรายละเอียดอีกครั้ง

“การจัดแพ็คเกจท่องเที่ยวในลักษณะดังกล่าวจะช่วยเสริมความมั่นใจให้กับนักท่องเที่ยวว่าไม่ได้เอาโรคกลับบ้านแน่นอน และเช่นเดียวกันนักท่องเที่ยวที่ผ่านการคัดกรองอย่างละเอียดของกระทรวงสาธารณสุขก็ไม่สามารถนำโรคมาแพร่สู่คนไทยได้เช่นกัน”

สำหรับแผนการตลาดของโมเดลดึงดูดนักท่องเที่ยวไฮเอนด์มาท่องเที่ยวในไทยได้สั่งการให้ ททท.พูดคุยกับสำนักงานของ ททท.ในต่างประเทศแล้วว่ามีความเป็นไปได้มากน้อยแค่ไหนและจะใช้วิธีใดในการทำตลาด โดยที่แน่นอนคือจะขอความร่วมมือให้โรงแรม 4-6 ดาวเป็นผู้เสนอแพ็คเกจดังกล่าวให้กับแขกประจำของโรงแรม เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับนักท่องเที่ยวและตัดสินใจเดินทางง่ายขึ้น

นายพิพัฒน์ เสริมอีกว่า จากตัวเลขจำนวนผู้ติดเชื้อในแต่ละวันที่ลดน้อยลงอย่างต่อเนื่องประกอบกับปัจจัยแวดล้อมต่างๆ ตนเชื่อว่าภายในเดือนมิถุนายนสถานการณ์โควิด-19 ในไทยจะสิ้นสุด การท่องเที่ยวภายในประเทศน่าจะเริ่มกลับมาเดินทางได้ในระยะเวลาอันใกล้ และอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยจะเริ่มนับ 1 ใหม่ในเดือนกรกฎาคม

“ขณะเดียวกัน กระทรวงฯ ก็ได้เสนอของบประมาณจากเงินกู้ของรัฐ เพื่อนำมาซ่อมสร้างแหล่งท่องเที่ยวต่างๆ ในประเทศตามที่ได้วางแผนไว้ ไม่ว่าจะเป็นแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ โบราณสถาน หรือชุมชน โดยจะต้องมีการพูดคุยกับเจ้าของสถานที่ก่อน คาดว่าจะเห็นความคืบหน้าหลังจาก พ.ร.บ.เงินกู้ผ่านสภาแล้ว”