1 ต.ค. ต่างชาติบินเข้าไทย ‘เปิดประเทศ’ ฟื้นท่องเที่ยว

File Photo (Photo by Romeo GACAD / AFP)

“พิพัฒน์” เดินหน้าเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวพิเศษ STV เผยต่างชาติรอคิวเข้าไทยเพียบ คาดเดือนแรกเต็มโควตา 1.2 พันคน กลุ่มแรกเข้าไทย 1 ตุลาคมนี้ พร้อมกักตัวโรงแรมในกรุงเทพฯ ถ้าบริหารจัดการได้ดี-ไร้เชื้อโควิดขอเพิ่มจำนวนทันที เอกชนยิ้มรับ ชี้เป็นจุดเริ่มต้นที่ดี ประตูจะเปิดกว้างขึ้น สมาคมแอตต้าชงข้อมูลเฟส 2 ขอเปิดรับนักท่องเที่ยวจากประเทศ/เมืองปลอดเชื้อโควิดสัปดาห์หน้า หวังช่วยพยุงเศรษฐกิจภาพรวม

จากกรณีที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติหลักการและแนวทางการเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติประเภทพิเศษ หรือ special tourist visa (STV) ตามที่กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬานำเสนอไปเมื่อ 15 กันยายนที่ผ่านมา โดยนักท่องเที่ยวกลุ่มที่จะเข้ามานั้นต้องพำนักระยะยาว (long stay) ยอมปฏิบัติตามมาตรการของศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) และกักตัวในห้อง 14 วัน โดยวีซ่าดังกล่าวนี้นักท่องเที่ยวจะได้รับอนุญาตให้อยู่ในประเทศไทยได้ 90 วัน และต่อได้อีก 2 ครั้ง ครั้งละ 90 วัน รวมเป็น 270 วัน (ดูกราฟิกประกอบ)

เริ่มนับ 1 เปิดรับ นทท.ทันที

นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า หลังที่ครม. อนุมัติเปิดรับนักท่องเที่ยวประเภท STV จากนี้เป็นต้นไปประเทศไทยสามารถเข้าสู่กระบวนการเปิดรับนักท่องเที่ยวได้ในทันที โดยนักท่องเที่ยวชาวต่างประเทศสามารถแจ้งความประสงค์ผ่านทางการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.), บริษัท ไทยแลนด์ ลองสเตย์ จำกัด หรือบริษัทนำเที่ยวที่พร้อมเข้าร่วมโครงการ ให้ประสานงานด้านการบริการและเอกสาร เพื่อขออนุมัติ STV จากสถานทูต

หลังจากที่นักท่องเที่ยวแจ้งความประสงค์ในการเดินทาง พร้อมส่งใบตรวจรับรองสุขภาพให้กับบริษัททัวร์บริษัทจะดำเนินการจองโรงแรมที่พักสำหรับเป็นสถานที่กักตัว 14 พาหนะโดยสาร ประกันการเดินทาง บริการทางการท่องเที่ยวอื่น ๆ รวมถึงเที่ยวบินเช่าเหมาลำหรือเที่ยวบินเจ็ตส่วนตัวให้กับนักท่องเที่ยว พร้อมยื่นขออนุมัติ special tourist visa ต่อสถานทูต หลังจากสถานทูตอนุมัติวีซ่าเรียบร้อยจะออกหนังสือรับรองสถานภาพการพำนัก หรือ certificate of eligibility : COE ในประเทศไทยเพื่อเป็นใบผ่านทางให้กับนักท่องเที่ยว

ทั้งนี้มีข้อแนะนำว่าให้นักท่องเที่ยวติดต่อสอบถามบริการผ่านทางการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานต่าง ๆ ทั่วโลก ซึ่งสามารถเลือกได้ว่าจะเดินทางกับบริษัท ไทยแลนด์ ลองสเตย์ หรือบริษัทนำเที่ยวอื่น ๆ เพื่อความสะดวกในการจับจองบริการในประเทศไทย และการขออนุมัติเอกสารต่าง ๆ รวมถึงความสะดวกในการจองเครื่องบินเช่าเหมาลำ นอกจากนักท่องเที่ยวจะสะดวกเดินทางด้วยเครื่องบินเจ็ตส่วนตัว

หากไร้ปัญหาขอเพิ่มโควตาทันที

นายพิพัฒน์กล่าวต่อไปว่า ขณะนี้มีนักท่องเที่ยวต่างชาติแจ้งความประสงค์ขอรับ special tourist visa เข้ามาแล้วจำนวนมาก หากกระบวนการจัดทำวีซ่าดำเนินการได้เร็ว นักท่องเที่ยวชุดแรกจะสามารถเดินทางเข้าสู่ประเทศไทยได้ภายในวันที่ 1 ตุลาคมนี้ และคาดว่าจะมีจำนวนเต็มขีดความสามารถที่ 1,200 คน ตามเป้าหมายที่กำหนดสำหรับเดือนแรก ทั้งหมดจะเข้ารับการกักตัวในโรงแรม ALSQ ในพื้นที่กรุงเทพฯ เพื่อไม่ให้กระทบความรู้สึกของประชาชนในพื้นที่ท่องเที่ยวอื่น ๆ

“ขณะนี้ในยุโรปเริ่มเข้าสู่ช่วงอากาศหนาวเย็น ทำให้มีนักท่องเที่ยวจำนวนมากต้องการเดินทางมาพักผ่อนในพื้นที่ที่มีอากาศอุ่นอย่างไทย นอกจากนี้ยังมีนักท่องเที่ยวเอเชียที่มีกำลังซื้อต้องการจะเดินทางผ่านเข้ามาในโครงการนี้เช่นกัน หากลอตแรกในเดือนตุลาคมสามารถดำเนินการได้โดยไม่มีปัญหาแทรกซ้อนอื่น ๆ น่าจะมีโอกาสในการยื่นขอเพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยวเพิ่มเติมในเดือนต่อ ๆ ไป” นายพิพัฒน์กล่าว

เอกชนขานรับเป็นจุดเริ่มต้นที่ดี

นายชัยรัตน์ ไตรรัตนจรัสพร ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (สทท.) กล่าวกับ “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า ที่ผ่านมาภาคธุรกิจท่องเที่ยวพยายามเรียกร้องให้รัฐบาลทดลองเปิดรับนักท่องเที่ยวมาตลอด โดยรูปแบบจะเป็น travel bubble หรือภูเก็ตโมเดล หรือ STV นั้น ภาคเอกชนเห็นด้วยอย่างยิ่ง
เพราะอย่างน้อยก็เป็นจุดเริ่มต้นเพื่อจะดูว่าสามารถบริหารจัดการได้หรือยัง หรือต้องแก้ไขอะไรเพื่อให้เกิดความเชื่อมั่นและความปลอดภัยสูงสุด

“ช่วงเริ่มต้นเรายังไม่อยากคาดหวังเรื่องรายได้มากนักแม้ว่าจะเป็นการพักระยะยาว และนักท่องเที่ยวจะใช้จ่ายสูง แต่ในแง่ของจำนวนยังไม่มาก สิ่งที่เราคาดหวังคือ ถ้าได้ทดลองเปิดและไม่มีปัญหาอะไร ประตูที่แง้มได้แล้วจะค่อย ๆ เปิดกว้างขึ้น สุดท้ายเมื่อมีความเชื่อมั่นนักท่องเที่ยวก็จะเข้ามาไทยมากขึ้น และอาจไม่ต้องกักตัว 14 วัน” นายชัยรัตน์กล่าว

เฟส 2 รับ นทท.เมืองปลอดโควิด

ด้านนายวิชิต ประกอบโกศล นายกสมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยว (แอตต้า) สมาคมท่องเที่ยวตลาดนักท่องเที่ยวขาเข้า(inbound) กล่าวว่า นโยบายดังกล่าวเป็นจุดเริ่มต้นที่ดี แม้จำนวนนักท่องเที่ยวที่เข้ามาช่วงแรกอาจมีเพียง 1,200 คน/เดือน และในแง่รายได้อาจมีเพียง 1,200 ล้านบาทซึ่งไม่มากนักเมื่อเทียบกับช่วงเวลาปกติที่มีนักท่องเที่ยวเข้ามาประมาณ 3.3 ล้านคน/เดือน สร้างรายได้ที่  1.6 แสนล้านบาท/เดือน

อย่างไรก็ตาม เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยว สมาคมได้ทำรายละเอียดข้อมูลการเปิดรับนักท่องเที่ยวที่มาจากประเทศหรือเมืองที่ปลอดภัยจากเชื้อโควิด-19 เป็นเวลามากกว่า 60 วันขึ้นไป คาดว่าจะเสนอไปยัง ททท., กระทรวงการท่องเที่ยวฯ, ศบค. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในสัปดาห์หน้า (ดูกราฟิกประกอบ) ปัจจุบันมีประเทศต่าง ๆ ที่ปลอดภัยจากโควิดเหมือนไทยเช่น จีน มีมากกว่า 20 มณฑล เช่น กว่างโจว, ฉงชิ่ง, เฉิงตู, ฉางชา, เจิ้งโจว, ไหหลำ ฯลฯ นอกจากนี้ยังมีไต้หวัน, เวียดนาม เป็นต้น

“สมาคมมองว่าทางการควรเปิดให้นักท่องเที่ยวจากเมืองเหล่านี้เข้ามาท่องเที่ยวในไทยได้ โดยไม่ต้องมีการกักตัวเพราะเขามีความปลอดภัยเหมือนประเทศไทย และเป็นกลุ่มที่มีเวลาเที่ยวในไทยเป็นระยะเวลาสั้น ๆ โดยรูปแบบการเปิดรับนักท่องเที่ยวกลุ่มนี้ทางการก็สามารถกำหนดกฎเกณฑ์ที่เป็นกรอบมาตรฐานได้ เช่น กำหนดให้นักท่องเที่ยวต้องเดินทางผ่านบริษัททัวร์ เพื่อให้สามารถควบคุมและดูแลได้ง่าย กำหนดพื้นที่ให้นักท่องเที่ยวเหล่านี้เที่ยวอย่างชัดเจนหรือก่อนมาต้องตรวจโควิดก่อน 72 ชั่วโมงเวลาออกเที่ยวต้องใส่หน้ากาก เป็นต้นหากสามารถทำได้ในสเต็ปต่อไป การเดินทางในรูปแบบต่าง ๆ จะช่วยทำให้ได้ทั้งจำนวนนักท่องเที่ยวและรายได้ที่เพิ่มขึ้น ซึ่งจะช่วยพยุงเศรษฐกิจในภาพรวมได้อีกทางหนึ่งด้วย” นายวิชิตกล่าว

“ภูเก็ต” จี้คุมเข้มมาตรการ 5T

นางสาวเชิญพร กาญจนสายะ ประธานสภาอุตสาหกรรมจังหวัด กล่าวกับ“ประชาชาติธุรกิจ” ว่า มติ ครม.เรื่องนี้ถือเป็นสิ่งที่ 12 องค์กรภาคเอกชนในจังหวัดภูเก็ตผลักดันมาตลอดและทุกคนขานรับ เพราะตอบโจทย์ทั้ง 6 ยุทธศาสตร์ฟื้นฟูเศรษฐกิจภูเก็ต

นายสรายุทธ มัลลัม ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า ภาคเอกชนเห็นด้วยกับมติ ครม.ดังกล่าว แต่ก่อนเปิดรับคนต่างชาติขอเสนอให้จังหวัดเปิดเวทีชี้แจงให้คนภูเก็ต เพื่อให้รับทราบวิธีปฏิบัติที่ชัดเจนร่วมกัน

นายพิเชษฐ์ ปาณะพงศ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ตจะซักซ้อมแนวทางปฏิบัติเพื่อเตรียมความพร้อมทั้งสถานที่กักกัน ALSQ โรงพยาบาล บุคลากร เอกชน รวมถึงหน่วยดูแลขนส่ง ระบบแอปพลิเคชั่นติดตามตัว รวมถึงสถานประกอบการต่าง ๆ  อีกครั้งหนึ่ง

ขณะที่นายภูมิกิตติ์ รักแต่งาม นายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต เปิดเผยว่า มติ ครม.ดังกล่าว เป็นเงื่อนไขที่เปิดกว้างให้หลายจังหวัดเปิดรับต่างชาติได้ และเชื่อว่ามีชาวต่างชาติหลายคนยังอยากมาประเทศไทย และพร้อมปฏิบัติตามเงื่อนไข แต่จังหวัดภูเก็ตยังยืนยันที่จะยึดมาตรการ 5T เป็นแนวทางปฏิบัติในการเปิดรับคนต่างชาติ

ที่ผ่านมาได้นำเสนอมาตรการ 5T ไปยังรัฐบาล ประกอบด้วย 1.target ภูเก็ตต้องคัดเลือกประเทศที่มีอัตราการแพร่ระบาดของโควิด-19 ต่ำ 2.testing ภูเก็ตจะตรวจสารคัดหลั่งตั้งแต่ที่สนามบิน โรงพยาบาลวชิระภูเก็ตประสานกับสำนักควบคุมโรคระบาดจะติดตั้งเครื่องเทสต์ที่สนามบินแล้วเสร็จวันที่ 28 ก.ย.นี้ 3.tracing ใช้แอปพลิเคชั่น “หมอชนะ” ติดตามตัวคนต่างชาติแบบเรียลไทม์

4.treatment ภูเก็ตเตรียมพร้อมโรงพยาบาล  บุคลากรทางการแพทย์  5.trust การสร้างความเชื่อมั่น โดยเสนอตั้ง“กองทุน” เพื่อช่วยดูแลคนภูเก็ตที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 เบื้องต้นของบประมาณ 50 ล้านบาทแรกก่อน โดยอาจจะเก็บจากต่างชาติคนละ 1,000 บาท และภาคเอกชนสมทบบางส่วน