“ทีเส็บ” ผนึกเอกชน 13 สมาคม กระตุ้นอุตสาหกรรมไมซ์ไทยฝ่าโควิด

งานสัมนา
ภาพประกอบข่าวไม่เกี่ยวกับเนื้อหา

“ทีเส็บ” ผนึกพลัง 13 องค์กรไมซ์เอกชนกระตุ้นอุตสาหกรรมไมซ์ในประเทศ พยุงผู้ประกอบการ-ชุมชน เผยเร่งดำเนินงาน 6 ด้านหลัก พร้อมต่อยอดโครงการ “ประชุมเมืองไทยปลอดภัยกว่า” สนับสนุนการฝึกอบรมรองรับไมซ์ในอนาคต

นายจิรุตถ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือทีเส็บ เปิดเผยว่า การแพร่ระบาดของโควิด-19 ระลอกใหม่นี้ส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมไมซ์ ทีเส็บและภาคีภาคเอกชน 13 สมาคม

อาทิ สภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยว, สมาคมธุรกิจท่องเที่ยวภายในประเทศ, สมาคมส่งเสริมการประชุมนานาชาติ (ไทย), สมาคมการแสดงสินค้าไทย, สมาคมโรงแรมไทย, สมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยว ฯลฯ จึงได้เร่งหารือร่วมกันเพื่อหามาตรการที่เหมาะสมในการพยุงอุตสาหกรรมไมซ์เฉพาะหน้า รวมถึงเตรียมความพร้อมของแผนงานในระยะยาว

โดยผลของการประชุมร่วมครั้งนี้นั้น นายจิรุตถ์กล่าวว่า ได้แบ่งการดำเนินงานเป็น 6 ด้าน ประกอบด้วย

1.การส่งเสริมตลาดเพื่อผู้ประกอบการ กระตุ้นการจัดประชุมสัมมนาในประเทศ สานต่อโครงการประชุมเมืองไทยปลอดภัยกว่าต่อเนื่องจากปีที่ผ่านมา สนับสนุนงบประมาณขยายผลให้ครอบคลุมทั่วประเทศ ปรับเกณฑ์ขอรับการสนับสนุนให้เข้าถึงง่าย สะดวกรวดเร็วขึ้น

รวมถึงศึกษาความเป็นไปได้ในการเชื่อมโยงกับโครงการอื่น ๆ ของรัฐ ทั้งยังคงสนับสนุนผู้ประกอบการในการเตรียมความพร้อมสถานที่ตามมาตรฐานความปลอดภัยและสุขอนามัย และการฝึกอบรมพัฒนาศักยภาพบุคลากรเพื่อรองรับความต้องการเฉพาะกลุ่ม

2.กระตุ้นกิจกรรมในภูมิภาคเพื่อฟื้นฟูท้องถิ่น โดยให้เอกชนจัดทำแผนงานกระตุ้นเศรษฐกิจด้วยกิจกรรมไมซ์ประเภทต่าง ๆ และนำเสนอของบประมาณผ่านทีเส็บ เน้นให้ภาคเอกชนบูรณาการการทำงานร่วมกันกับทุกภาคส่วน เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดด้านเศรษฐกิจและสังคม

3.การเพิ่มมาตรฐานความปลอดภัยสาธารณสุขของงาน โดยทีเส็บจะเน้นประชาสัมพันธ์เรื่องการจัดงานอย่างปลอดภัย โดยส่งเสริมมาตรฐานและความปลอดภัยในการจัดงานและสถานที่จัดงาน เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้นักเดินทางไมซ์และสาธารณชนในวงกว้าง ขณะเดียวกันจะผลักดันให้มีการกำหนดแผนฟื้นฟูร่วมกัน

4.ส่งเสริมการจัดกิจกรรมโดยหน่วยราชการ โดยผลักดันให้มีนโยบายกระตุ้นการจัดประชุมสัมมนาของหน่วยงานภาครัฐ โดยเฉพาะการจัดงานในวันธรรมดา เพื่อกระจายรายได้สู่ท้องถิ่นและภูมิภาค พร้อมมีการติดตามผลเพื่อการดำเนินการอย่างต่อเนื่อง รวมถึงผลักดันให้หน่วยงานภาครัฐเสนอตัวเป็นเจ้าภาพดึงงานและการประชุมระดับนานาชาติที่มีความสำคัญเข้ามาจัดในประเทศไทย

5.ดึงงานไมซ์ในอนาคตเข้าสู่ประเทศไทย เช่น งานประชุมนานาชาติ เพื่อขับเคลื่อนการเป็นศูนย์กลางการประชุมนานาชาติของไทย ตามแผนแม่บทภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติประเด็นท่องเที่ยวเชิงธุรกิจ ตลอดจนพัฒนาเครือข่ายตัวแทนการตลาดและพันธมิตรเพื่อเป็นกำลังสำคัญในการทำการตลาด ดึงงาน และสร้างงานต่าง ๆ ในแต่ละอุตสาหกรรมตามนโยบายรัฐบาล

และ 6.การสนับสนุนในระดับนโยบายจากรัฐบาล เช่น จัดงบประมาณให้กับภาคเอกชนไปดำเนินการจัดกิจกรรมการประชุมสัมมนา หรืองานแสดงสินค้า การประกาศให้หน่วยงานภาครัฐจัดการประชุมสัมมนา หรือการผ่อนคลายมาตรการด้านการจัดซื้อจัดจ้างของทางภาครัฐ เพื่อผู้ประกอบการรายย่อยจะได้มีโอกาสในการจ้างงานมากขึ้น โดยทีเส็บเป็นตัวกลางในการรวบรวมข้อเสนอต่าง ๆ เพื่อนำเสนอกับรัฐบาลตามลำดับขั้นตอนต่อไป

“โครงการหลักที่จะดำเนินงานคือ ต่อยอดโครงการประชุมเมืองไทยปลอดภัยกว่า สนับสนุนงบประมาณกระตุ้นการจัดกิจกรรมไมซ์และการเดินทางในประเทศ โดยใช้ไมซ์เป็นเครื่องมือช่วยบรรเทาปัญหาของประเทศ ที่ทีเส็บและภาคีร่วมกันทำ และประสบความสำเร็จอย่างมากในปีที่ผ่านมา กล่าวคือมีองค์กรภาคเอกชนจัดกิจกรรมไมซ์มากถึง 1,049 กลุ่ม มีการเดินทางของประชาชน 62,000 คน ไปในกว่า 50 จังหวัด ช่วยกระจายเม็ดเงินไปในทุกภูมิภาคไม่ต่ำกว่า 130 ล้านบาท” นายจิรุตถ์กล่าว