โอด!เลื่อนเปิดประเทศ ทำป่วน ทุบมู้ด-เชื่อมั่น ท่องเที่ยว-คู่ค้าต่างประเทศ

ท่องเที่ยว

คนท่องเที่ยวโอดนโยบายเปิดประเทศเฟสสอง 5 จังหวัดเลื่อนแล้วเลื่อนอีก ทำป่วน เอกชนสับสน ไม่กล้ารีสตาร์ตธุรกิจทุบความเชื่อมั่นผู้ประกอบการ คู่ค้าต่างประเทศ “พัทยา” ยันพร้อมมาก รอแค่วัคซีนรัฐ ขณะที่ “หัวหิน” วัคซีนเข็ม 2 ทะลุ 70% แล้ว วอนขอเปิดเมือง 15 ตุลาคมนี้ ด้าน “พิพัฒน์ รัชกิจประการ” รมว.การท่องเที่ยวฯ ปรับแผนปูพรมโครงการ “เราเที่ยวด้วยกัน เฟส 3-ทัวร์เที่ยวไทย” ปลุกไทยเที่ยวไทย

แหล่งข่าวในธุรกิจโรงแรมรายหนึ่งกล่าวกับ “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า การประกาศเลื่อนแผนเปิดประเทศเฟส 2 จำนวน 5 จังหวัด รับนักท่องเที่ยว ได้แก่ กรุงเทพฯ เชียงใหม่ (อ.เมือง, แม่ริม, แม่แตง, ดอยเต่า) ชลบุรี (พัทยา, อ.บางละมุง, อ.สัตหีบ) เพชรบุรี (ชะอำ) ประจวบคีรีขันธ์ (หัวหิน) จากวันที่ 1 ตุลาคม 2564 เป็นวันที่ 1 พฤศจิกายน 2564 นั้น

เป็นปัจจัยลบที่ส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นอย่างมากต่อทั้งบริษัทนำเที่ยวต่างประเทศ บริษัทนำเที่ยวในประเทศ และนักท่องเที่ยวต่างชาติอย่างมาก รวมถึงยังทำลายบรรยากาศการท่องเที่ยวในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีนี้อย่างมาก

แผนขยับ-ทุบเชื่อมั่น

แหล่งข่าวกล่าวด้วยว่า การเลื่อนแบบนี้สร้างความปั่นป่วน ทำลายความเชื่อมั่นผู้ประกอบการอย่างมาก ที่สำคัญ ยังทำให้สับสน ไม่กล้าขยับ ไม่กล้าลงทุน เตรียมความพร้อมรอรับการเปิดประเทศ เพราะสุดท้ายแล้วคำตอบของรัฐบาล คือ ทุกอย่างขึ้นอยู่กับอัตราการฉีดวัคซีน และจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ ซึ่งก็ยังไม่มีใครการันตีว่า 1 พฤศจิกายนนี้ จะเปิดได้แน่นอนหรือไม่

“บอกตามตรงว่าตอนนี้เอกชนท่องเที่ยวบางส่วน ทั้งบริษัททัวร์ โรงแรม ร้านอาหาร ฯลฯ สถานประกอบการต่าง ๆ ไม่มีใครเชื่อรัฐบาลแล้ว แถมส่วนใหญ่เริ่มไม่ยินดียินร้ายกับแผนการเปิดประเทศเท่าไหร่นัก และยังไม่อยากเตรียมแผนกลับมารีสตาร์ตธุรกิจอีกครั้ง เพราะไม่รู้ว่าเมื่อถึงเวลาแล้วจะขยับอีกหรือไม่ เพราะความเชื่อมั่นในนโยบายไม่มี ที่สำคัญ ไม่ใช่เฉพาะผู้ประกอบการในประเทศเท่านั้น ยังส่งผลถึงผู้ประกอบการในต่างประเทศที่เป็นคู่ค้าในต่างประเทศด้วย” แหล่งข่าวกล่าว

สอดรับกับ นายธเนศ ศุภรสหัสรังสี รักษาการประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวชลบุรี ที่กล่าวกับ “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า การประกาศขยับแผนการเปิดประเทศไปเรื่อย ๆ แบบไม่มีความแน่นอนนั้นส่งผลกระทบโดยตรงต่อความเชื่อมั่นของคู่ค้าในต่างประเทศรวมถึงนักท่องเที่ยวต่างชาติ โดยเฉพาะในส่วนของคู่ค้าที่เป็นบริษัทนำเที่ยว และผู้ให้บริการสายการบิน ที่ไม่สามารถวางแผนขนส่งนักท่องเที่ยวต่างชาติได้

ผู้ประกอบการไทย-เทศสะดุด

อาทิ กรณีของตลาดรัสเซีย และอินเดีย ซึ่ง 70-80% นักท่องเที่ยวต่างชาตินิยมเดินทางผ่านบริษัทนำเที่ยวที่เดินทางโดยใช้สายการบินชาร์เตอร์ไฟลต์ หรือเที่ยวบินเช่าเหมาลำ และต้องใช้เวลาทำการตลาดล่วงหน้าอย่างต่ำประมาณ 2 เดือน การขยับไทม์ไลน์บ่อย ๆ ทำให้บริษัทคู่ค้าในต่างประเทศที่เตรียมการขายล่วงหน้าได้รับความเสียหาย

“ผมว่าประเด็นสำคัญในเวลานี้ คือ เรื่องความเชื่อมั่นของนานาประเทศ เพราะหากเขาขายล่วงหน้าไปแล้ว พอรัฐประกาศเลื่อน เขาก็ต้องไปเลื่อนลูกค้าต่อ ซึ่งก็ส่งผลในเรื่องความน่าเชื่อถือต่อบริษัทของเขา สุดท้ายเขาก็จะเปลี่ยนไปทำการค้ากับประเทศอื่นที่มีความแน่นอนกว่าแทน” นายธเนศกล่าว

และว่า ขณะที่ผู้ประกอบการในประเทศก็ได้รับความเสียหายเช่นกัน เพราะทันทีที่มีการประกาศเปิดประเทศโดยไม่กักตัวสำหรับชาวต่างชาติที่ได้รับการฉีดวัคซีนครบ 2 เข็มแล้ว ทำให้ต่างชาติบางส่วนชะลอการจองห้องพัก เพื่อรอมาตรการดังกล่าว ดังนั้น การเลื่อนแล้วเลื่อนอีกนี้ ไม่ได้เป็นผลดีทั้งต่อภาพลักษณ์ของประเทศ และผู้ประกอบการในภาคการท่องเที่ยวของประเทศด้วย

พัทยาพร้อม-รอแค่วัคซีนรัฐ

นายธเนศกล่าวด้วยว่า การดำเนินงานในเชิงนโยบายที่ไม่บูรณาการกันของหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้องกับการเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวของรัฐบาลในช่วงที่ผ่านมาอย่างมาก โดยเฉพาะแผนการเปิดประเทศในเฟส 2 จำนวน 5 จังหวัดดังกล่าว ยกตัวอย่าง กรณีของพัทยา (ชลบุรี) นั้นมีการขยับไทม์ไลน์มาอย่างต่อเนื่อง จากเดิมที่เตรียมแผนเปิดตั้งแต่ 1 กันยายนที่ผ่านมา เลื่อนมาเป็น 1 ตุลาคม และล่าสุดคือ 1 พฤศจิกายน

“ถามว่าพัทยาพร้อมไหม พัทยานั้นเตรียมความพร้อมมานาน และพร้อมมากสำหรับการเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติเราได้หารือกันในคณะทำงานหลายครั้ง มีการจัดทำ SOP เสนอต่อสาธารณสุขจังหวัดไปแล้ว จะเปิด 1 ตุลาคม หรือ 15 ตุลาคม หรือ 1 พฤศจิกายน เราพร้อมหมด รออย่างเดียว คือ รัฐบาลจัดสรรวัคซีนลงมาเติมเท่านั้น ซึ่งวันนี้ พัทยาฉีดวัคซีนเข็ม 1 ไปแล้ว 70-80% และเข็ม 2 ประมาณ 40-50% แล้ว และส่วนใหญ่ก็เป็นแอสตร้าเซนเนก้าที่ต้องใช้เวลาฉีดเข็ม 2 ประมาณ 3 เดือน” นายธเนศกล่าว

“หัวหิน” ขอเปิด 15 ตุลาฯ

ขณะที่นายกรด โรจนเสถียร ผู้จัดการฝ่ายขายและการตลาด บริษัท ชีวาศรม อินเตอร์เนชั่นแนล เฮลท์ รีสอร์ท จำกัด ผู้บริหารรีสอร์ตเพื่อสุขภาพ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ กล่าวกับ “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า โครงการหัวหินรีชาร์จ (Hua Hin Recharge) ในพื้นที่ 2 ตำบล คือ เทศบาลเมืองหัวหิน และหนองแก พื้นที่ 86.36 ตารางกิโลเมตร ฉีดวัคซีนเข็ม 2 ครบ 70% ในวันที่ 24 กันยายนที่ผ่านมา

ขณะเดียวกัน ผู้ประกอบการที่ได้รับมาตรฐาน SHA+ ก็มีปริมาณเข้ามาระดับหนึ่ง โดยเฉพาะในส่วนของโรงแรม ขณะนี้ได้รับมาตรฐาน SHA+ แล้ว จำนวน 31 แห่ง ประมาณ 1,000 ห้องพัก เพียงพอสำหรับรองรับนักท่องเที่ยวต่างชาติในช่วงเบื้องต้นนี้

“นับจากวันที่ 24 กันยายน ที่เราฉีดวัคซีนเข็ม 2 ครบ 70% จะทำให้เรามีมาตรฐานความปลอดภัยสูงสุดในด้านภูมิคุ้มกันหมู่ ตั้งแต่วันที่ 8-9 ตุลาคม เราจึงอยากขอเปิดหัวหิน รีชาร์จ ในวันที่ 15 ตุลาคมนี้ เป็นต้นไป” นายกรดกล่าว

ปรับแผนบูม “ไทยเที่ยวไทย”

ด้านนายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวกับ “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า สรุปล่าสุดคือรัฐบาลขยับแผนเปิดประเทศเฟส 2 จำนวน 5 จังหวัดดังกล่าวไป 1 พฤศจิกายน 2564 ทั้งนี้ เนื่องจากความไม่พร้อมในส่วนของการฉีดวัคซีนให้คนในพื้นที่ที่ยังไม่ครอบคลุม 70% เป็นหลัก ซึ่งส่วนใหญ่มีแผนรับวัคซีนเข็ม 2 ครบ 70% ในช่วงประมาณวันที่ 15 ตุลาคม จึงตัดสินใจเลื่อนเพื่อให้สามารถเปิดพร้อมกันได้ทั้ง 5 จังหวัด เพื่อให้การทำงานง่ายขึ้น และนักท่องเที่ยวจะได้ไม่สับสนด้วย

“ตอนแรกก็คิดว่าใน 4 พื้นที่ คือ พัทยา, หัวหิน, ชะอำ และเชียงใหม่ พร้อมแล้ว แต่พอรีเช็กก็พบว่า ยังไม่ค่อยพร้อมเท่าไหร่ พอมาหารือกันทางสาธารณสุข และ ศบค.ชุดเล็กก็บอกว่า ขอความร่วมมือให้ไปเปิดวันที่ 1 พฤศจิกายนเลย เราก็ตกลง ไม่มีปัญหา”

นายพิพัฒน์ยังกล่าวด้วยว่า สำหรับนโยบายเปิดประเทศ 120 วัน ที่จะถึงกำหนดในวันที่ 15 ตุลาคมนี้นั้น ขณะนี้ได้ปรับแผนมาทยอยผ่อนคลายและเปิดการท่องเที่ยวภายในประเทศ โดยเปิด 77 จังหวัด ให้คนไทยเดินทางท่องเที่ยวก่อน โดยจะเปิดให้คนไทยเดินทางท่องเที่ยวผ่านโครงการเราเที่ยวด้วยกัน เฟส 3 และโครงการทัวร์เที่ยวไทย ในวันที่ 15 ตุลาคมนี้ เป็นต้นไป ซึ่งได้เปิดระบบให้คนเข้าไปลงทะเบียนจองสิทธิ์แล้วตั้งแต่ 24 กันยายนที่ผ่านมาแล้ว

“เพื่อความสบายใจของคนทั้งประเทศ เมื่อตลาดต่างประเทศยังต้องรอเราก็จะหันมากระตุ้นการเดินทางภายในประเทศไปก่อน ซึ่งตามแนวทางเราก็เปิดทั่วประเทศให้เดินทางได้ ซึ่งก็ตอบโจทย์เปิดประเทศ 120 วันของนายกรัฐมนตรีได้เช่นกัน” นายพิพัฒน์กล่าว