ธุรกิจท่องเที่ยว

ศูนย์สิริกิติ์ ผนึก 13 โรงแรม รับนักเดินทางธุรกิจทั่วโลก

ศูนย์สิริกิติ์

ศูนย์การประชุมสิริกิติ์ ขยับเพิ่มประสิทธิภาพการบริการอีกขั้น ผนึกพลัง 13 พันธมิตรโรงแรมชั้นนำ เปิดตัวโครงการ Hotel Partnership มอบสิทธิประโยชน์ บริการพิเศษ อำนวยความสะดวกแก่ลูกค้าของศูนย์สิริกิติ์หวังสร้างประสบการณ์ที่เหนือกว่า เพิ่มความพึงพอใจสูงสุดแก่ผู้ใช้บริการ รับการเปิดศูนย์สิริกิติ์โฉมใหม่กันยายนนี้

นายศักดิ์ชัย ภัทรปรีชากุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็น.ซี.ซี. แมนเนจเม้นท์ แอนด์ ดิเวลลอปเม้นท์ จำกัด ผู้บริหารศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ เปิดเผยว่า ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์เตรียมเพิ่มประสิทธิภาพการบริการอีกขั้นรับการเปิดให้บริการศูนย์สิริกิติ์โฉมใหม่ในเดือนกันยายน 2565 นี้ โดยร่วมมือกับ 13 พันธมิตรโรงแรมชั้นนำทั้งในกรุงเทพฯ และในจังหวัดท่องเที่ยว มอบสิทธิประโยชน์และบริการพิเศษในการเข้าพัก

รวมถึงอำนวยความสะดวกแก่ลูกค้าของศูนย์สิริกิติ์ ทั้งผู้จัดงานและผู้เข้าร่วมงาน เพื่อมอบประสบการณ์ที่เหนือกว่า และสร้างความพึงพอใจสูงสุดแก่ผู้ใช้บริการ ภายใต้โครงการ Hotel Partnership

ศักดิ์ชัย ภัทรปรีชากุล

“โครงการนี้เป็นหนึ่งในกลยุทธ์ทางการตลาดที่มุ่งเน้นลูกค้าเป็นสำคัญ ยกระดับการบริการให้เหนือระดับกว่าการให้บริการด้านสถานที่จัดงาน โดยมอบสิทธิประโยชน์พิเศษที่หลากหลายในการเข้าพักสำหรับลูกค้าที่มาจัดงาน หรือเข้าร่วมงานที่ศูนย์สิริกิติ์ อาทิ บริการรถรับส่งฟรีไปกลับจากโรงแรม-ศูนย์สิริกิติ์ การมอบบัตรโดยสาร MRT หรือบัตรโดยสาร BTS การให้อัตราค่าห้องพักและบริการรับส่งไปยังสนามบินในราคาพิเศษ บริการเคาน์เตอร์เช็กอินที่ศูนย์สิริกิติ์ การสะสมคะแนนพิเศษกับโรงแรม และการเช็กอินก่อนเวลา/เช็กเอาต์หลังเวลา” นายศักดิ์ชัยกล่าว

และว่า โครงการดังกล่าวเกิดขึ้นจากความตั้งใจในการตอบโจทย์ครบทุกมิติของลูกค้า ทั้งด้านพื้นที่จัดงาน ด้านเทคโนโลยี ด้านความปลอดภัย ด้านสิ่งแวดล้อม และด้านโรงแรมที่พัก โดยในเฟสแรก ได้ร่วมมือกับ 9 โรงแรมชั้นนำทั้งในกรุงเทพฯ ที่สามารถให้บริการห้องพักได้มากกว่า 3,500 ห้อง บริเวณรอบศูนย์สิริกิติ์ (Satellite Hotel) บริเวณรัศมี 5 กิโลเมตร จำนวน 9 โรงแรม

ได้แก่ แบงค็อก แมริออท มาร์คีส์ ควีนส์ปาร์ค, ฮิลตัน สุขุมวิท กรุงเทพฯ, ดิ แอทธินี โฮเทล แบงค็อก, อะ ลักซ์ชูรี คอลเล็คชั่น โฮเทล, ดับเบิ้ลยู กรุงเทพฯ, ดิ โอกุระ เพรสทีจ กรุงเทพฯ, เลอ เมอริเดียน กรุงเทพฯ, ดับเบิ้ลทรี บาย ฮิลตัน สุขุมวิท กรุงเทพฯ, โมเดนา บาย เฟรเซอร์ กรุงเทพฯ และฮอลิเดย์ อินน์ เอ็กซ์เพรส กรุงเทพ สาทร

และโรงแรมในจังหวัดท่องเที่ยว ที่สามารถให้บริการห้องพักได้มากกว่า 680 ห้อง ในการดีไซน์แพ็กเกจพิเศษที่สามารถสนองความต้องการและสร้างประสบการณ์ที่เหนือกว่าให้กับลูกค้าของศูนย์สิริกิติ์ จำนวน 4 โรงแรม ได้แก่ เชอราตัน สมุย รีสอร์ท, มีเลีย เกาะสมุย, วนาเบลล์ เอ ลักซ์ซูรี่ คอลเลคชั่น รีสอร์ท เกาะสมุย และมีเลีย เชียงใหม่

นายศักดิ์ชัยกล่าวเพิ่มเติมด้วยว่า โครงการดังกล่าวนอกจากจะเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพการบริการเพื่อมอบความพึงพอใจสูงสุดแก่ลูกค้าแล้วยังเป็นการเตรียมความพร้อมในการรองรับผู้เดินทางจากทั่วโลกที่จะเข้ามาจัดงาน หรือเข้าร่วมงานที่ศูนย์สิริกิติ์ ที่คาดว่าจะมีจำนวนเพิ่มมากขึ้น หลังจากที่ทางรัฐบาลไทยยกเลิกมาตรการ Test & Go ตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคมที่ผ่านมา ซึ่งจะส่งผลดีในการกระตุ้นการเติบโตอุตสาหกรรมไมซ์ให้กลับมาคึกคักอีกครั้ง