งดจ่ายประกันรายได้ปาล์มงวด 13 หลังราคาพุ่งแตะ 6.77 บาทต่อกก.

ปาล์ม

ประกันรายได้ปาล์มน้ำมัน งวดที่ 13 งดจ่ายหลังราคาปาล์มพุ่งต่อเนื่อง ล่าสุด 6.77 บาทต่อกก. สูงกว่าราคาประกัน 4 บาทต่อกก. พาณิชย์ เตรียมเสนอ โครงการประกันรายปาล์มปี 2 เข้าที่ประชุม กนป.

วันที่ 9 ธันวาคม 2563 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายวัฒนศักย์ เสือเอี่ยม รองอธิบดี รักษาราชการแทนอธิบดีกรมการค้าภายใน ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการกำกับดูแลและกำหนดเกณฑ์กลางอ้างอิงโครงการประกันรายได้เกษตรกรชาวสวนปาล์มน้ำมัน ปี 2562-2563 ได้ลงนามในประกาศอนุกรรมการบริหารโครงการประกันรายได้เกษตรกรชาวสวนปาล์มน้ำมัน ปี 2562-2563 ในการกำหนดราคาตลาดอ้างอิง งวดที่ 13 ช่วงระหว่างวันที่ 8 พฤศจิกายน -7 ธันวาคม 2563

สำหรับผลปาล์มทะลายคุณภาพน้ำมันที่ 18% มีราคาอยู่ที่กิโลกรัม (กก.) ละ 6.77 บาท ซึ่งสูงกว่าราคาเป้าหมายที่ประกันรายได้ไว้ที่กิโลกรัมละ 4 บาท จึงไม่มีส่วนต่างระหว่างราคาเป้าหมายกับราคาตลาดอ้างอิง ที่ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ต้องจ่ายส่วนต่างให้กับเกษตรกรชาวสวนปาล์มสำหรับงวดนี้ ที่เดิมจะต้องจ่ายในวันที่ 15 ธันวาคม 2563 นี้

นอกจากนี้ คณะกรรมการนโยบายปาล์มน้ำมันแห่งชาติ (กนป.) ได้มีมติให้ต่ออายุโครงการประกันรายได้เกษตรกรชาวสวนปาล์มน้ำมัน ปี 2562-2563 ออกไป เพราะยังมีวงเงินจากโครงการเดิมเหลืออยู่กว่า 6,000 ล้านบาท หากจะรอโครงการใหม่ อาจต้องใช้เวลา

โดยก่อนหน้านี้ การจ่ายชดเชยรายได้ให้กับเกษตรกรผู้ปลูกปาล์มน้ำมัน ได้จ่ายงวดที่ 1 และ 2 แต่พอมาถึงงวดที่ 3-5 ไม่ได้จ่ายชดเชย เพราะราคาผลปาล์มสูงกว่าราคาประกันรายได้ แต่งวดที่ 6 กลับมาจ่ายอีกครั้ง ในอัตรา 0.97 บาทต่อกก. งวดที่ 7 จ่าย 0.82 บาทต่อกก.

และงวดที่ 8 จ่าย 0.99 บาทต่อกก. งวดที่ 9 จ่าย 0.66 บาทต่อกก. และงวดที่ 10 จ่าย 0.46 บาทต่อกก. แต่พองวดที่ 11-13 ไม่ต้องจ่าย เพราะราคาปรับตัวสูงขึ้นเกินเพดานที่ประกันรายได้

อย่างไรก็ดี โครงการประกันรายได้เกษตรกรชาวสวนปาล์มปี 2563/64 หรือโครงการประกันรายได้ปีที่ 2 จะมีการนำเสนอให้ที่ประชุม กนป. เพื่อพิจารณา ก่อนนำเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติ โดยเงื่อนไขของโครงการประกันรายได้เกษตรกรชาวสวนปาล์มน้ำมัน ยังคงเดิมโดยที่ประกันรายได้ไว้ที่กิโลกรัมละ 4 บาท ที่เปอร์เซ็นต์น้ำมัน 18% ไม่เกิน 25 ไร่ เพราะแม้ราคาผลปาล์มปัจจุบันจะมีราคาสูงเกิน แต่ก็ต้องมีโครงการไว้รองรับ กรณีที่อาจจะมีความผันผวนด้านราคาเกิดขึ้น แต่เชื่อว่า ราคาน่าจะทรงตัวอยู่ในระดับสูงต่อไป