ระบบไฟฟ้าและทำความร้อนในยูเครนใช้ได้ 70% หลังขีปนาวุธรัสเซียโจมตีหลายระลอกในสัปดาห์ก่อน รัฐบาลขอความร่วมมือประชาชนใช้ไฟประหยัด ลดปัญหาไฟขาดยามฉุกเฉิน
วันที่ 29 พฤศจิกายน 2565 รอยเตอร์ รายงานว่า เป็นเวลานานเกือบ 1 สัปดาห์ หลังจากรัสเซียใช้ขีปนาวุธโจมตียูเครน สรา้งความเสียหายแก่สาธารณูปโภคด้านพลังงานทั่วยูเครน และจนถึงวันนี้ ยูเครนยังต้องเผชิญกับปัญหาการกู้สถานการณ์พลังงานในประเทศต่อไป
- ประกาศแล้ว! พระราชกฤษฎีกาเงินช่วยค่าครองชีพผู้รับเบี้ยหวัดบำนาญ รับ 11,000 บาทต่อเดือน
- อย. เตือนอย่าซื้อผลิตภัณฑ์ CDS มาทาน อันตรายถึงชีวิต
- แห่ขายที่ดินพ่วงโรงงาน เอกชนถอดใจ-สินค้าจีนตีตลาด
Ukrenegro ผู้ดำเนินการระบบส่งไฟฟ้าแห่งชาติ ระบุว่าการขาดแคลนไฟฟ้าเพิ่มขึ้นเล็กน้อย หลังจากการปิดฉุกเฉินของโรงไฟฟ้าหลายแห่งและปริมาณการใช้ไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้นในฤดูหนาว
“ณ เวลา 11.00 น. ของวันที่ 29 พฤศจิกายน ผู้ผลิตไฟฟ้าจัดหาไฟฟ้าให้ 70% ของการใช้ไฟฟ้าในยูเครน ยังขาดแคลนกำลังการผลิตอยู่อีก 30%” Ukrenergo แจ้งบนเฟซบุ๊กและแอปพลิเคชั่นเทเลแกรม
“เราขอย้ำว่าการขาดแคลนพลังงานทั่วประเทศ เป็นผลมาจากการโจมตีโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงานด้วยขีปนาวุธของรัสเซียถึง 7 ครั้ง”
ทั้งนี้ รัสเซียยิงขีปนาวุธใส่โครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงานของยูเครนมาตั้งแต่ต้นเดือนตุลาคม โดยสร้างความเสียหายสะสม กระทั่งมีระลอกใหญ่ลูกสุดท้าย เมื่อวันพุธที่ 23 พ.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งสร้างความเสียหายเป็นวงกว้าง
การประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศ จากประเทศกลุ่มนาโตในกรุงบูคาเรสต์ในสัปดาห์นี้ จะกำหนดหาทางช่วยฟื้นฟูแหล่งผลิตพลังงานและแหล่งผลิตเครื่องทำความร้อนในยูเครน
DTEK ผู้ผลิตไฟฟ้าเอกชนรายใหญ่ที่สุดของยูเครน ระบุวานนี้ (28 พ.ย.) ว่าจะลดการจ่ายไฟฟ้าลง 60% สำหรับผู้บริโภคในกรุงเคียฟ เนื่องจากอุณหภูมิยังคงอยู่ที่ประมาณศูนย์องศาเซลเซียส หรือ 32 องศาฟาเรนไฮต์
โดบรัฐบาลขอให้ประชาชนประหยัดพลังงาน เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดไฟดับฉุกเฉินอีก และช่วยทีมซ่อมแซมเพื่อแก้ไขความเสียหาย
พร้อมกันนี้ ยูเครนกล่าวว่าการโจมตีที่มุ่งสร้างความทุกข์ยากแก่พลเรือนถือเป็นอาชญากรรมสงคราม ขณะที่รัสเซียกล่าวว่า การโจมตีมีเป้าหมายทางทหารที่ถูกต้องตามกฎหมาย