มอร์แกน สแตนลีย์ ปลดพนักงานราว 1,600 คน รับมือเศรษฐกิจถดถอย

Morgan Stanley มอร์แกน สแตนลีย์
ภาพจาก morganstanlet.com

มอร์แกน สแตนลีย์ ประกาศปลดพนักงานราว 1,600 คน เพื่อรับมือกับสถานการณ์การชะลอตัวของเศรษฐกิจสหรัฐฯ

วันที่ 7 ธันวาคม 2565 เดอะบิสซิเนสไทมส์ ของสิงคโปร์ รายงานว่า มอร์แกน สแตนลีย์ (Morgan Stanley) บริษัทผู้ให้บริการทางการเงินระดับโลก ประกาศปลดพนักงานทั่วโลกราว 2% หรือคิดเป็นประมาณ 1,600 คน เนื่องจากความพยายามของตลาดหุ้นวอลล์สตรีท (Wall Street) ที่ต้องการควบคุมค่าใช้จ่ายก่อนเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอยในสหรัฐอเมริกา (US Recession)

ทั้งนี้ บริษัทฯ มีพนักงาน ณ ไตรมาส 3/2565 อยู่ที่ประมาณ 80,000 คน เพิ่มจากช่วงก่อนการระบาดของโควิด-19 ซึ่งอยู่ที่ประมาณ 60,000 คน

เจมส์ กอร์ดอน (James Gordon) ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ มอร์แกน สแตนลีย์ กล่าวขณะการรายงานผลประกอบการเมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมา โดยยอมรับว่าได้เรียนรู้บางสิ่งจากช่วงสถานการณ์โควิด-19 นั่นคือ วิธีการทำงานที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น ซึ่งเป็นสิ่งที่ผู้บริหารกำลังดำเนินการในระหว่างนี้จนถึงสิ้นปี

ก่อนหน้านี้ เมื่อ 6 ธันวาคมที่ผ่านมา ผู้บริหารของ 2 ยักษ์สถาบันการเงินในสหรัฐฯ อย่างกลุ่มโกลด์แมน แซคส์ (Goldman Sachs Group) และธนาคารแห่งอเมริกา (Bank of America) เคยออกมาเตือนเรื่องสัญญาณการจ้างงานที่มีแนวโน้มชะลอตัวลง เนื่องจากสถานการณ์เศรษฐกิจที่ชะลอตัว