
วังอังกฤษไม่ตอบโต้การเปิดศึกของ เจ้าชายแฮร์รี ผ่านหนังสือ SPARE แต่ตัดทิ้งชื่อจากผู้เข้าร่วมพระราชพิธีบรมราชาภิเษก พระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3 แล้ว
วันที่ 8 มกราคม 2566 ซันเดย์ไทมส์ รายงานว่า จากการเปิดเผยของแหล่งข่าวราชวงศ์อังกฤษ เจ้าชายแฮร์รี พระราชโอรสองค์รองของพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3 ถูกตัดรายชื่อออกจากผู้เข้าร่วมพระราชพิธีบรมราชาภิเษก วันที่ 6 พฤษภาคมปีนี้ อย่างแน่นอนแล้ว หลังจากพระองค์ทรงเปิดศึกกับราชวงศ์อย่างต่อเนื่อง ล่าสุดเป็นหนังสือบันทึกความทรงจำ ชื่อ SPARE

สื่อมวลชนต่างรายงานข้อมูลรั่วไหลจากหนังสือเล่มนี้ก่อนวางขายอย่างเป็นทางการ วันที่ 10 มกราคม ว่าเจ้าชายแฮร์รีเขียนเรื่องราวโจมตีเจ้าชายวิลเลียม พระเชษฐาอีกครั้ง หลังจากพยายามเรียกร้องปฏิกิริยาจากเจ้าชายวิลเลียมมาหลายครั้ง ตั้งแต่ไปให้สัมภาษณ์โอพราห์ วินฟรีย์ ออกสารคดีเน็ตฟลิกซ์ จนมาถึงหนังสือชื่อ “สแพร์” ที่หมายถึง “ตัวสำรอง”
แหล่งข่าวเผยว่า แม้วังทั้งเคนซิงตันและบักกิงแฮมจะไม่ออกแถลงการณ์แสดงความเห็นหรือตอบโต้ใด ๆ ต่อหนังสือของเจ้าชายแฮร์รี แต่เจ้าชายวิลเลียมทรงพิโรธไม่น้อยที่พระอนุชายังไม่หยุดที่จะโจมตีคนในวัง รวมถึงเจ้าพระชาร์ลส์ และพระองค์ออกสื่อ


เนื้อหาตอนหนึ่งเจ้าชายแฮร์รีระบุว่า วันที่พระเจ้าชาร์ลส์ทรงมาบอกข่าวการสิ้นพระชนม์ของเจ้าหญิงไดอานา พระองค์ไม่ได้กอดปลอบใจลูก ๆ เลย เจ้าชายแฮร์รียังโจมตีพระบิดาด้วยว่า กลัวจะถูกรัศมีดาราฮอลลีวูดของเมแกนบดบัง
ด้านเจ้าชายวิลเลียม ถูกพระอนุชาโจมตีว่า ทำร้ายร่างกายด้วยการผลักลงไปกองกับพื้นและกระแทกกับชามข้าวสุนัขจนเป็นแผลถลอก ระหว่างที่ทะเลาะกัน โดยเจ้าชายวิลเลียมต่อว่า เมแกน ดาราสาวอเมริกัน คนรักของเจ้าชายแฮร์รี เป็นคนเรื่องมาก หยาบคาย และกวนประสาท

แหล่งข่าวใกล้ชิดเจ้าชายวิลเลียมเผยกับซันเดย์ไทมส์ ว่า นอกจากเจ้าชายวิลเลียมจะทรงพิโรธแล้ว ยังทรงอึดอัดและเสียใจที่พระอนุชาเขียนถึงพระองค์เช่นนั้น ซึ่งเพื่อนคนหนึ่งของเจ้าชายวิลเลียมเห็นว่า เป็นความขลาดเขลาของเจ้าชายแฮร์รี
“วิลเลียมจะไม่เอาคืนหรอก เขาไม่เคยทำเช่นนั้น เพราะเขามีเกียรติและยึดมั่นต่อราชวงศ์มาก มันเป็นเรื่องโหดร้าย ขลาดเขลา และน่าเศร้าสำหรับวิลเลียมที่ต้องคอยรับหมัด พระองค์จะนิ่งเงียบเพื่อครอบครัวและประเทศ” เพื่อนคนหนึ่งกล่าว

ส่วนอีกคนเผยว่า “วิลเลียมอึดอัดและเศร้า เขาทุ่มเทไปที่ภรรยาและลูก ๆ ภายนอกเขารับมือได้ดี แต่ภายในกำลังลุกไหม้”
วังไม่โต้ แต่กองทัพโต้
ส่วนกรณีที่เจ้าชายแฮร์รีกล่าวอ้างว่า ช่วงที่ไปร่วมรบกับกองทัพอังกฤษในอัฟกานิสถานสองครั้งนั้น ครั้งที่สอง ปี 2555-2556 เป็นกัปตันร่วมและมือยิงของเฮลิคอปเตอร์อาปาเช ซึ่งพระองค์สังหารนักรบตาลิบันไป 25 ราย พระองค์ไม่ได้พอใจหรือละลายใจกับการกระทำนี้ เพราะถูกฝึกไม่ให้มองตาลิบันเป็นคน

ริชาร์ด เคมป์ นายทหารเกษียณราชการ วิจารณ์เนื้อหาดังกล่าวที่เจ้าชายแฮร์รีกล่าวอ้างว่า เป็นการตัดสินแบบผิด ๆ การมองนักรบฝ่ายศัตรูเป็นเหมือนเบี้ยในหมากกระดาน ไม่ใช่วิธีที่กองทัพฝึกทหารของตนเองเลย
“ผมคิดว่าความเห็นแบบนั้นไม่ได้สะท้อนความจริง และทำให้เกิดความคิดผิด ๆ และอาจเป็นประโยชน์กับคนที่ไม่หวังดีกับกองทัพและรัฐบาลอังกฤษ” เคมป์กล่าว
ด้านอับดุล คาฮาร์ บัลคี โฆษกกระทรวงต่างประเทศอัฟกานิสถาน กล่าวว่า ความเห็นของเจ้าชายแฮร์รีสะท้อนถึงประสบการณ์เลวร้ายที่มีต่อชาวอัฟกันในช่วงที่ผู้รุกรานยึดครอง และสังหารผู้บริสุทธิ์โดยไม่มีเหตุผล

……