เหวียน ซวน ฟุก ลาออกจากตำแหน่ง ประธานาธิบดีเวียดนาม อย่างกะทันหัน หลังถูกบีบต้องรับผิดชอบกับการกระทำผิดของรัฐมนตรีคนอื่นในช่วงโควิด
วันที่ 17 มกราคม 2566 สำนักข่าว เอเอฟพี รายงานว่า นายเหวียน ซวน ฟุก ประธานาธิบดีเวียดนาม อายุ 68 ปี ลาออกจากตำแหน่งแล้วอย่างกะทันหัน หลังจากมีข่าวลือมาหลายวันนี้ว่า นายฟุกอาจถูกปลดจากตำแหน่ง ต่อเนื่องจากที่มีรองนายกรัฐมนตรีรัฐมนตรี 2 คนถูกปลดไปแล้ว
“ฟุกยื่นใบลาออกจากตำแหน่ง ลาออกจากงาน และเกษียณแล้ว” สำนักข่าวทางการ VNA รายงาน พร้อมระบุว่า นายฟุกถูกพรรคคอมมิวนิสต์ตัดสินว่า มีส่วนต่อการกระทำผิดของรัฐมนตรีว่าการ ในสมัยที่นายฟุกเป็นนายกรัฐมนตรี ช่วงปี 2559-2564
การลาออกของนายเหวียน ซวน ฟุก เป็นเรื่องที่สื่อต่างประเทศมองว่า ผิดปกติอย่างยิ่งสำหรับประเทศคอมมิวนิสต์อย่างเวียดนาม ที่การเปลี่ยนแปลงทางการเมืองมักจัดการอย่างระมัดระวังอย่างยิ่ง เพื่อไม่ให้กระทบต่อเสถียรภาพ
เมื่อต้นเดือนนี้ รองนายกรัฐมนตรี 2 คน ได้แก่ นายฟาม บินห์ มินห์ และนายวู ดุก ดาม ถูกปลดจากตำแหน่ง จากข้อกล่าวหาคอร์รัปชั่น โดยนายมินห์เป็นรัฐมนตรีว่าการกิจการต่างประเทศ ส่วนนายดามทำหน้าที่รับมือกับสถานการณ์โรคระบาด
นอกจากนี้มีเจ้าหน้าที่รัฐและนักธุรกิจ ร่วมร้อยคน รวมถึงผู้ช่วยของรัฐมนตรีดาม ถูกจับกุมดำเนินคดี ตามข้อกล่าวหาว่า พัวพันกับผลประโยชน์ข้อตกลงที่เกี่ยวข้องกับการรับสถานการณ์โรคระบาดโควิด หลังมีข่าวเกี่ยวข้องกับการขนส่งชุดตรวจหาโรคโควิด-19
ในบรรดาผู้ถูกจับกุมอีก 37 คนที่เกี่ยวข้องกับการส่งชาวเวียดนามกลับประเทศช่วงโรคระบาด มีหลายคนเป็นนักการทูตระดับสูงและเจ้าหน้าที่ตำรวจ
ช่วงเวลาดังกล่าวนั้น เวียดนามปิดพรมแดนเพื่อชะลอการระบาดของเชื้อไวรัส ทางเวียดนามได้จัดเครื่องบินเช่าเหมาลำนำคนเวียดนามที่อยู่ในต่างแดน 60 ประเทศและดินแดนกลับมาประเทศ แต่ผู้เดินทางกลับต้องเผชิญกับขั้นตอนที่ต้องจ่ายค่าตั๋วเครื่องบินและค่าธรรมเนียบกักตัวที่สูงเกินไปมาก
แถลงการณ์ของคณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์ระบุว่า นายฟุกมีส่วนต้องรับผิดชอบในฐานะผู้นำ ช่วงที่เจ้าหน้าที่รัฐหลายคน รวมถึงรองนายกฯ 2 คน รัฐมนตรีอีก 3 คน ละเมิดกฎหมาย และบริหารงานผิดพลาดทำให้เกิดเหตุการณ์ร้ายแรงตามมา
นายฟุกได้รับตำแหน่งประธานาธิบดี ซึ่งส่วนใหญ่ทำงานเกี่ยวกับงานพิธี เมื่อเดือนเมษายน 2564 หลังจากเอาชนะโรคระบาดโควิดได้เป็นอย่างดี
คณะบุคคลที่คัดเลือกผู้นำพรรคคอมมิวนิสต์คือคณะโปลิตบูโร จะเป็นกลุ่มที่เลือกเลขาธิการพรรค ประธานาธิบดี และนายกรัฐมนตรี โดยคณะโปลิตบูโรชุดล่าสุดนี้เป็นคณะที่ 16 ของประเทศ
นายเล่อ หงเฮียป นักวิชาการประจำสถาบัน ISEAS-Yusof Ishak Institute ในสิงคโปร์มองว่า การลาออกของนายฟุกอาจสะท้อนถึงการต่อสู้ทางการเมืองภายในพรรคคอมมิวนิสต์ แม้ว่าการปลดบุคคลทางการเมืองส่วนใหญ่จะเป็นการสอบสวนคดีคอร์รัปชั่น แต่ก็ไม่อาจปฏิเสธความเป็นไปได้ว่า มีฝ่ายอริทางการเมืองที่ต้องการเขี่ยนายฟุกให้พ้นตำแหน่งเช่นกัน
“นักการเมืองบางคนต้องการไต่ขึ้นสู่ตำแหน่งสูงสุด แต่เพราะการแข่งขันระหว่างคู่อริ อย่างกรณีของนายฟุก อาจทำให้เขาถูกเขี่ยไปให้พ้นทางจากฝ่ายที่ต้องการขึ้นสู่ตำแหน่งผู้นำ” นายเล่อให้ความเห็น
สำหรับนายเหวียน ฝู จ่อง เลขาธิการคณะกรรมาธิการการทหารกลางพรรคคอมมิวนิสต์เวียดนาม ซึ่งเป็น
ผู้นำพรรคคอมมิวนิสต์เวียดนามคนปัจจุบัน มีผลงานวางแนวทางปราบปรามการคอร์รัปชั่นอย่างมโหฬาร โดยมีวาระสิ้นสุดตำแหน่งในปี 2569
#เวียดนาม