ข้อมูลการติดตามเรือขนส่งสินค้าชี้ว่า สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (UAE) และซาอุดีอาระเบียรับซื้อน้ำมันดิบของรัสเซียมากขึ้น ช่วยต้านทานผลกระทบจากการคว่ำบาตร และแรงกดดันของสหรัฐและชาติตะวันตกที่จะโดดเดี่ยวรัสเซีย
ก่อนหน้านี้มีข้อมูลการค้าระหว่างประเทศออกมาให้เห็นกันว่า ประเทศที่มีประชากรมากที่สุดในโลกอย่างจีนและอินเดีย เป็นประเทศที่ซื้อน้ำมันรัสเซียเพิ่มขึ้นมาก ทำให้รัสเซียไม่เดือดร้อนจากการโดนสหรัฐอเมริกากับยุโรปคว่ำบาตรมากนัก
- ร้านธงฟ้า 1.4 แสนแห่ง พร้อมรับดิจิทัลวอลเลต เช็กจังหวัดไหนร้านธงฟ้ามาก-น้อยสุด
- นักท่องเที่ยวเข้าต่ำแสน หวั่นโลว์ซีซั่นทรุดหนัก ททท.ชี้กระทบสั้นยอดบุ๊กกิ้งแอร์ไลน์แน่น
- เปิด 10 อันดับมหาวิทยาลัยรัฐ-ราชภัฏ-เอกชน ที่ได้รับความนิยมมากสุด
แต่ข้อมูลที่เผยออกมาเรื่อย ๆ ชี้ให้เห็นว่า ไม่ใช่เพียงจีน อินเดีย ซึ่งนับเป็นประเทศผู้บริโภคเท่านั้นที่ซื้อน้ำมันรัสเซียมาก แต่กลุ่มประเทศผู้ผลิตน้ำมันเองก็ซื้อน้ำมันรัสเซียเพิ่มขึ้นมากเช่นกัน ส่วนจะซื้อไปใช้จริง หรือซื้อเพียงเพื่อเป็นทางผ่านที่จะช่วยให้น้ำมันรัสเซียขายให้ประเทศอื่น ๆ ได้ ก็คงต้องวิเคราะห์กันดู
สำนักข่าว Reuters รายงานเมื่อวันที่ 6 มีนาคม 2566 ว่า สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (UAE) รับซื้อน้ำมันดิบของรัสเซียมากขึ้น อิงตามข้อมูลการติดตามเรือและแหล่งการค้า เป็นอีกหนึ่งตัวอย่างที่แสดงให้เห็นว่า การคว่ำบาตรรัสเซียโดยชาติตะวันตกได้ส่งผลต่อการปรับเส้นทางการค้าพลังงานไปจากเดิมอย่างไร
หลังจากรัสเซียโดนคว่ำบาตร ทำให้น้ำมันรัสเซียมีผู้ซื้อน้อยลง รัสเซียก็ได้ขายผลิตภัณฑ์ทั้งน้ำมันดิบและน้ำมันสำเร็จรูปในราคาที่มีส่วนลดพิเศษ
การที่สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ซื้อน้ำมันดิบจากรัสเซียเพิ่มขึ้นเป็นการเน้นย้ำถึง “ความร่วมมือที่เพิ่มขึ้น” ระหว่างรัสเซียกับประเทศผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่ในอ่าวอาหรับ เช่น ซาอุดีอาระเบียและสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ซึ่งช่วยต้านทานแรงกดดันจากสหรัฐ ที่จะโดดเดี่ยวรัสเซีย และขุดเจาะน้ำมันมากขึ้นเพื่อทดแทนอุปทานน้ำมันจากรัสเซียที่หายไปจากตลาด หลังจากที่ตะวันตกคว่ำบาตรรัสเซีย
Reuters รายงานว่า ไม่ทราบแน่ชัดว่าสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์เริ่มนำเข้าน้ำมันดิบรัสเซียเพิ่มมากขึ้นตั้งแต่เมื่อใด แต่ข้อมูลการติดตามเรือบรรทุกน้ำมันบ่งชี้ว่า ปริมาณการนำเข้าของ UAE เพิ่มขึ้นหลังจากที่รัสเซียรุกรานยูเครนในเดือนกุมภาพันธ์ 2565 แล้วชาติตะวันตกคว่ำบาตรรัสเซีย
ข้อมูลการติดตามเรือขนส่งสินค้าแสดงตัวเลขว่า น้ำมันดิบของรัสเซียราว 1.5 ล้านบาร์เรลถูกส่งไปยังสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2565 โดยการนำเข้าของ UAE อาจเริ่มต้นขึ้นหรือเพิ่มมากขึ้นตั้งแต่ต้นปี 2565
ตามข้อมูลจากบริษัทวิเคราะห์พลังงาน Kpler ระบุว่า การจัดส่งน้ำมันดิบรัสเซียไปยังสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ครั้งแรกเกิดขึ้นในปี 2562 แต่มีการจัดส่งเพิ่มขึ้นหลังจากเดือนเมษายน 2565 แล้วหยุดจัดส่งชั่วคราวในช่วงเดือนกรกฎาคมถึงตุลาคม 2565
ค่อนข้างสอดคล้องกันกับข้อมูลของบริษัทวิเคราะห์ข้อมูลในตลาดการเงินการลงทุน Refinitiv Eikon ที่แสดงให้เห็นว่า การขนส่งน้ำมันดิบของรัสเซียไปยัง UAE ครั้งแรกเริ่มขึ้นในปี 2565 และมีปริมาณการจัดส่งเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในเดือนเมษายน 2565
ซาอุดีอาระเบียที่เป็นประเทศผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่อันดับ 2 ของโลกก็ได้นำเข้าน้ำมันเชื้อเพลิงของรัสเซียจำนวนมาก เพื่อใช้เป็นพลังงานเชื้อเพลิงในโรงไฟฟ้า ในขณะเดียวกันก็ได้เพิ่มการส่งออกน้ำมันดิบ
ขณะที่จีน อินเดีย ประเทศอื่น ๆ ในตะวันออกกลาง และหลายประเทศในทวีปแอฟริกา เป็นกลุ่มประเทศที่เพิ่มการนำเข้าน้ำมันดิบและผลิตภัณฑ์น้ำมันของรัสเซีย ท่ามกลางการคว่ำบาตรของชาติตะวันตก
