สื่อต่างประเทศรายงาน สองยักษ์เครือข่ายชำระเงิน Visa-Mastercard เตรียมขึ้นค่าธรรมเนียมบัตรเครดิตจากร้านค้า คาดการณ์ร้านค้าต่าง ๆ แบกรับต้นทุนเพิ่ม 500 ล้านเหรียญสหรัฐ
วันที่ 1 กันยายน 2566 The Wall Street Journal รายงานว่า วีซ่า (Visa) และมาสเตอร์การ์ด (Mastercard) มีแผนจะขึ้นค่าธรรมเนียมสำหรับร้านค้าที่รับชำระเงินจากลูกค้าด้วยบัตรเครดิต โดยอ้างอิงข้อมูลจากแหล่งข่าวและเอกสารต่าง ๆ ระบุว่า การขึ้นค่าธรรมเนียมครั้งนี้ ส่วนมากจะกระทบกับการใช้จ่ายผ่านออนไลน์
- ทำฟันประกันสังคม ไม่ต้องสำรองจ่าย เดือน มี.ค. 67 ยอด 169 ล้านบาท
- สหรัฐ อังกฤษ ฝรั่งเศส ไทย และหลายชาติ ออกแถลงการณ์ร่วม เรียกร้องปล่อยตัวประกันในกาซา
- “ทางรัฐ” ซูเปอร์แอปแห่งชาติ รองรับแจกเงินดิจิทัล 10,000 บาท
ขณะที่ CMSPI บริษัทที่ปรึกษาสำหรับผู้ประกอบการร้านค้า คาดว่า การขึ้นค่าธรรมเนียมในครั้งนี้ อาจทำให้ร้านค้าต้องแบกรับต้นทุนเพิ่มขึ้นทุกปี ราว 502 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยค่าธรรมเนียมที่เพิ่มขึ้นนี้ มากกว่าครึ่งจะมาจากค่าธรรมเนียมเครือข่าย และส่วนที่เหลือเป็นค่าธรรมเนียมการรูดที่ร้านค้าจะต้องจ่ายเมื่อมีการรับชำระเงินด้วยบัตรเครดิต
ด้าน Nilson Report ผู้จัดพิมพ์รายงานเกี่ยวกับอุตสาหกรรมต่าง ๆ รายงานว่า เมื่อปี 2565 ที่ผ่านมา ร้านค้าในสหรัฐอเมริกา จ่ายค่าธรรมเนียมการรูดบัตรเครดิตราว 93,000 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นจากเมื่อ 10 ปีที่แล้ว (ปี 2555) ซึ่งร้านค้าต่าง ๆ จ่ายค่าธรรมเนียมการรูดบัตรเครดิตราว 33,000 ล้านดอลลาร์
ขณะที่ร้านค้าต่าง ๆ เลือกใช้วิธีการปรับราคาสินค้าให้สูงขึ้น หรือเสนอส่วนลดให้กับผู้ที่จ่ายด้วยเงินสดหรือบัตรเดบิต เพื่อลดภาระต้นทุนจากการรูดบัตรเครดิตของร้านค้า
ด้านรอยเตอร์ ได้สอบถามไปยังวีซ่า และมาสเตอร์การ์ดแล้ว แต่ยังไม่มีการตอบกลับเกี่ยวกับประเด็นนี้แต่อย่างใด
สำหรับค่าธรรมเนียมการรูดบัตรนั้น จะมีทั้งส่วนค่าธรรมเนียมเครือข่าย และค่าธรรมเนียมการรูดบัตร ซึ่งเครือข่ายการชำระเงินทั้งวีซ่า และมาสเตอร์การ์ด จะได้ส่วนค่าธรรมเนียมเครือข่าย เพื่อนำไปใช้กับการพัฒนานวัตกรรม และการป้องกันการทุจริตและภัยการเงิน
ขณะที่ค่าธรรมเนียมการรูดบัตร จะเข้าไปยังธนาคารผู้ให้บริการ เพื่อนำไปใช้กับการจัดโปรโมชั่นต่าง ๆ โดยเฉพาะโปรแกรมสะสมคะแนนบัตรเครดิตเพื่อแลกรางวัลต่าง ๆ