ญี่ปุ่นหวั่นโรคหัดระบาดซ้ำ หลังพบผู้ติดเชื้อเพิ่มตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์

ญี่ปุ่น Japan
Photo by Robby McCullough on Unsplash

ญี่ปุ่นหวั่นโรคหัดกลับมาสระบาด หลังพบประชาชน นักท่องเที่ยวต่างชาติผู้ติดเชื้อเพิ่มต่อเนื่องตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ซ้ำร้ายมือมืดปล่อยข่าวล่วงสร้างความสับสน ด้านภาครัฐเร่งออกมาตรการรับมือ กระตุ้นประชาชนฉีดวัคซีน

วันที่ 17 มีนาคม 2024 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำนักข่าว NHK รายงานเมื่อวันที่ 14 มีนาคม 2024 ว่า ความเสี่ยงที่เกิดการระบาดของโรคหัดในประเทศญี่ปุ่นกำลังสูงขึ้น หลังสัปดาห์ที่ผ่านมาพบผู้ป่วยใหม่ 9 รายที่สนามบินคันไซ ในกรุงโอซากา โดยในจำนวนนี้ 8 รายเป็นผู้ที่โดยสารเครื่องบินจากสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์เข้ามายังญี่ปุ่นเมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา และอีก 1 รายเป็นผู้ที่อยู่ในสนามบินอยู่แล้ว

ทาเคมิ เคอิโซ รัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุขของญี่ปุ่นคาดการณ์ว่า การพบผู้ป่วยเพิ่มขึ้นในประเทศญี่ปุ่นนี้ เป็นเป็นผลต่อเนื่องจากการระบาดของโรคหัดในยุโรปและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดย ณ วันที่ 8 มีนาคมที่ผ่านมา จำนวนผู้ป่วยโรคหัดในยุโรปเพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วถึง 30 เท่า และมีจำนวนไม่น้อยที่ป่วยอาการหนักรวมถึงเสียชีวิต

ด้านศาสตราจารย์ฮามาดะ อัตสึโอะ จากมหาวิทยาลัยการแพทย์โตเกียว ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดเชื้อเสริมว่า ช่วงการระบาดของโควิด-19 ที่ผ่านมาหลายประเทศไม่ได้ฉีดวัคซีนโรคหัดให้กับเด็ก ทำให้เกิดการระบาดในทวีปเอเชียและแอฟริกา ก่อนจะขยายตัวไปยังกลุ่มประเทศพัฒนาแล้วเมื่อข้อจำกัดด้านการเดินทางถูกยกเลิก

ขณะเดียวกัน หน่วยงานปกครองส่วนท้องถิ่นของกรุงโตเกียวเริ่มใช้มาตรการเพื่อจำกัดการระบาด โดยเผยแพร่สถานที่ที่ผู้ติดเชื้อเคยเดินทางไป เช่น ร้านอาหาร พร้อมขอให้ประชาชนที่อยู่ในสถานที่ดังกล่าวในช่วงเวลาเดียวกันรีบเข้าพบแพทย์ พร้อมแนะนำให้บุคคลเหล่านี้งดใช้ขนส่งสาธารณะหากเริ่มมีปัญหาสุขภาพ

Gavi, the Vaccine Alliance หน่วยงานนานาชาติด้านสุขภาพพยายามกระตุ้นให้ชาวญี่ปุ่นฉีดวัคซีนโรคหัด โดยยืนยันว่าวัคซีนโรคหัดมีประสิทธิภาพในการป้องกันการติดเชื้อถึง 97% และการฉีดเพียง 2 เข็มก็สามารถป้องกันการติดเชื้อได้ตลอดชีวิต พร้อมชี้แจงว่าความเสี่ยงของวัคซีนโรคหัดนั้น อาจทำให้เกิดโรคไข้สมองอักเสบได้ แต่มีความเสี่ยงต่ำกว่าอันตรายจากโรคหัดมาก

อย่างไรก็ตาม ประชาชนบางส่วนกลับโพสต์ข้อมูลเท็จเกี่ยวกับเหตุการณ์นี้บนโซเชียลมีเดีย เช่น การทานวิตามินสามารถป้องกันการติดเชื้อได้โดยไม่ต้องฉีดวัคซีน หรือแนะนำให้เดินทางไปยังสถานที่เสี่ยงเพื่อให้ติดเชื้อและเกิดภูมิคุ้มกันตามธรรมชาติ

ดร.นากาโนะ ทาคาชิ ศาสตราจารย์ที่ Kawasaki Medical School และผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดเชื้อ กล่าวถึงความเสี่ยงในการแพร่ระบาดของโรคหัดว่า โรคหัดเป็นโรคติดเชื้อที่ระบาดได้ง่ายที่สุด โดยเพียงแค่อยู่ในห้องเดียวกับผู้ป่วยก็มีโอกาสเกือบ 100% ที่จะติดเชื้อไปด้วย และผู้ป่วย 1 คนสามารถแพร่เชื้อไปยังคนอื่นได้ 12-18 คน ซึ่งนับว่าสูงมากเมื่อเทียบกับการที่ผู้ป่วยโควิด- 19 สามารถแพร่เชื้อได้เพียง 2-3 คนเท่านั้น

ดร.นากาโนะกล่าวต่อไปว่า โรคหัดสามารถป้องกันได้ด้วยการฉีดวัคซีน ซึ่งผู้ที่ได้รับวัคซีนครบ 2 เข็มแล้วแม้จะสัมผัสกับผู้ป่วยก็จะไม่แสดงอาการใด ๆ พร้อมแนะนำให้ประชาชนตรวจสอบว่าตนได้รับวัคซีนมาแล้วกี่ครั้ง

สอดคล้องกับ Gavi, the Vaccine Alliance หน่วยงานนานาชาติด้านสุขภาพ ซึ่งพยายามกระตุ้นให้ชาวญี่ปุ่นฉีดวัคซีนโรคหัด โดยยืนยันว่าวัคซีนโรคหัดมีประสิทธิภาพในการป้องกันการติดเชื้อถึง 97% และการฉีดเพียง 2 เข็มก็สามารถป้องกันการติดเชื้อได้ตลอดชีวิต

พร้อมชี้แจงว่า ความเสี่ยงของวัคซีนโรคหัดนั้น อาจทำให้เกิดโรคไข้สมองอักเสบได้ แต่มีความเสี่ยงต่ำกว่าอันตรายจากโรคหัดมาก

ทั้งนี้ องค์การอนามัยโลก (WHO) ประกาศรับรองว่าญี่ปุ่นประสบความสำเร็จในการกำจัดไวรัสโรคหัดให้หมดไปจากประเทศแล้วตั้งแต่ปี 2015 ซึ่งที่ผ่านมา ผู้ป่วยโรคหัดในญี่ปุ่นเมื่อสืบประวัติการติดเชื้อล้วนพบว่าเป็นการติดจากต่างประเทศ