KNLA ถอนกำลังจากเมียวดี ไปโจมตีทหารเมียนมากองพล 55 ผู้ลี้ภัยข้ามฝั่งกลับแล้ว

เมียนมา แม่สอด เมียวดี
ผู้อพยพชาวเมียนมาที่แม่น้ำเมย บริเวณ อ.แม่สอด จ.ตาก ของไทย กับ จ.เมียวดี ของเมียนมา (ภาพจากมติชน)

ผู้นำกะเหรี่ยงเผยถอนทหารออกจากเมียวดีแล้ว เพื่อนำกำลังไปปฏิบัติการโจมตีฝ่ายทหารเมียนมา กองพล 55 ส่วนผู้ลี้ภัยในพื้นที่ อ.แม่สอด กลับหมดแล้ว ล่าสุดกลับด้วยความสมัครใจ 658 คน 

วันที่ 24 เมษายน 2024 มติชนรายงานว่า ผู้สื่อข่าวรายงานจาก อ.แม่สอด จ.ตาก ถึงสถานการณ์การสู้รบระหว่างทหารเมียนมากับฝ่ายต่อต้าน (กองกำลังผสมกะเหรี่ยง KNU และ PDF) ในพื้นที่จังหวัดเมียวดี ตรงข้าม อ.แม่สอด จังหวัดตาก ว่าบรรยากาศในพื้นที่สงบทั้งวัน ไม่มีเสียงปืน ไม่มีการปฏิบัติการทางทหารจากฝ่ายใด 

ล่าสุดทหารหน่วยเฉพาะกิจราชมนูแจ้งว่า มีผู้ลี้ภัยจำนวน 658 คนจากบริเวณท่าทรายรุจิรา อ.แม่สอด ได้เดินทางกลับไปยังฝั่งประเทศเมียนมา หรือภูมิลำเนาด้วยความสมัครใจ ทั้งนี้ หลังจากเหตุการณ์สงบลง และยังคงเหลือเพียง 77 คน ที่บ้านหนองหลวง อ.อุ้มผาง ทำให้ต้องมีการปิดพื้นที่ปลอดภัยชั่วคราวลง

นายพาโด่ ซอตอนี สมาชิกคณะกรรมการบริหารงานส่วนกลางของสหภาพแห่งชาติกะเหรี่ยง (KNU) และโฆษก KNU กล่าวว่า กองกำลังผสมฝ่าย KNLA ได้ถอนกำลังออกไปจากเมียวดีชั่วคราว เพื่อนำกำลังไปปฏิบัติการโจมตีฝ่ายทหารเมียนมา กองพล 55 ที่กำลังเสริมกำลังเข้ามาตามแผนปฏิบัติการ “อ่องเส่ยะ” ของสภาทหาร SAC อย่างเต็มที่

ส่วนกรณีที่มีการเปลี่ยนธงชาติที่ค่ายผาซอง หรือกองพันทหารราบเบาที่ 275 เมียวดี นายพาโด่ ซอตอนี กล่าวถึงกรณีที่ KNA ของพันเอกหม่องชิตู่ ผู้บัญชาการกองทัพกะเหรี่ยงแห่งชาตินำทหารเมียนมาไปเปลี่ยนธงชาติที่ค่ายผาซอง หรือกองพันทหารราบที่ 275 เมียวดีนั้น ไม่ได้ให้ความสำคัญกับเรื่องนี้ แต่ KNU มีเป้าหมายที่ใหญ่กว่านี้คือ “เราไม่ได้ต่อสู้เพียงแค่การเปลี่ยนชนชั้นผู้ปกครอง (Regime Change) เท่านั้น แต่เราจะต่อสู้ปรับเปลี่ยนระบบทั้งหมด (System Change) ที่กำลังย่ำแย่สูญเสียในทุก ๆ ด้าน อย่างมุ่งมั่นตั้งใจต่อไป”