คณะกรรมาธิการยุโรป (European Commission) ปรับลดภาษีนำเข้ารถเทสลา (Tesla) ที่ผลิตในจีนลงเหลือ 9% จากเดิมที่จะถูกเก็บ 20.8% เช่นเดียวกับผู้ผลิตรถเจ้าอื่นในจีน จากเกณฑ์ชั่วคราวที่สหภาพยุโรป (EU) ประกาศเอาไว้ในเดือนมิถุนายน
วันที่ 21 สิงหาคม 2024 การ์เดียน (Guardian) รายงานว่า คณะกรรมาธิการยุโรปออกรายงานความคืบหน้าล่าสุด ระบุว่าเทสลาจะต้องเสียภาษี 9% สำหรับการส่งออกรถยนต์ที่ผลิตในจีนมายังสหภาพยุโรป ลดลงจากเดิมที่จะถูกเก็บเพิ่ม 20.8% เช่นเดียวกับเจ้าอื่น ๆ เป็นผลจากการเรียกร้องของเทสลาให้มีการปฏิบัติเฉพาะราย
ที่ผ่านมาอียูสอบสวนกรณีให้เงินอุดหนุนรถยนต์ไฟฟ้า (EV) อย่าง “ไม่เป็นธรรม” ของรัฐบาลจีน โดยผู้ผลิตที่ให้ความร่วมมือกับการสอบสวนของอียูจะถูกเรียกเก็บภาษีที่ 21.3% และบริษัทที่ไม่ให้ความร่วมมือจะถูกเก็บที่ 36.3% ซึ่งเป็นการเก็บเพิ่มจากภาษีนำเข้ารถโดยทั่วไป 10% ที่มีอยู่แล้ว อย่างไรก็ตาม อัตราภาษีดังกล่าวยังต่ำกว่าอัตราภาษี 100% ของสหรัฐอยู่มาก
คณะกรรมการยุโรปมองว่าเทสลาได้รับประโยชน์จากการอุดหนุนของรัฐบาลจีนจริง ตรงที่ได้รับแบตเตอรี่ราคาถูก นอกจากนี้ ยังมีที่ดินราคาถูกและเงินอุดหนุนสำหรับผู้ส่งออกอีกด้วย
ไม่เฉพาะแค่เทสลาเท่านั้น แต่ค่ายรถอีวีจีนก็ถูกปรับลดภาษีเช่นกัน จากแถลงการณ์ล่าสุด บีวายดี (BYD) ถูกเรียกเก็บภาษี 17% ลดลงจาก 17.4% จีลี่ (Geely) เก็บ 19.3% จาก 19.9% และเอสเอไอซี (SAIC) เก็บ 36.3% จาก 37.6% ซึ่งเป็นการลดลงจากมาตรการที่ประกาศไว้ชั่วคราวในเดือนมิถุนายน และอาจมีการเปลี่ยนแปลงอีกครั้ง
ขณะนี้ยังไม่มีการเรียกเก็บภาษีชั่วคราวใด ๆ ก่อนที่จะถูกบังคับใช้อย่างเป็นทางการภายในวันที่ 31 ตุลาคมเป็นอย่างช้า ซึ่งต้องผ่านการอนุมัติจากประเทศสมาชิกสหภาพยุโรปเสียก่อน
เจ้าหน้าที่อียูสรุปว่า ผู้ผลิตรถชาวยุโรปกำลังเผชิญกับภัยคุกคามที่อาจก่อให้เกิดความเสียหาย มากกว่าความเสียหายที่มีขึ้นจริง เช่น การปิดโรงงานหรือประกาศเลิกจ้าง แต่ถ้าอียูไม่ดำเนินการใด ๆ ไม่นานพลังการสนับสนุนจากรัฐบาลจีนก็จะก่อให้เกิดความเสียหายจริงขึ้นได้
เมื่อต้นปีนี้ สถาบันวิจัยเศรษฐกิจโลกคีล (Kiel Institute for the World Economy) ประมาณการว่า ความช่วยเหลือรถยนต์ไฟฟ้าของจีนในปี 2022 มีมูลค่าประมาณ 5,600 ล้านดอลลาร์ (ราว 1.91 แสนล้านบาท) ซึ่งเป็นปีที่จีนทยอยเลิกจ่ายเงินโดยตรงให้แก่ผู้ผลิต
บีวายดีถือเป็นผู้ได้รับประโยชน์สูงสุด โดยได้รับเงินช่วยเหลือ 3,700 ล้านดอลลาร์ (ราว 1.26 แสนล้านบาท) แม้เทสลาจะได้รับการช่วยเหลือน้อยกว่า แต่ก็นับว่าใหญ่เป็นอันดับสอง โดยโรงงานเทสลาในเซี่ยงไฮ้ได้รับเงินช่วยเหลือราว 426 ล้านดอลลาร์ (ราว 14,608 ล้านบาท)
เว็บไซต์โซปบ๊อกซ์ (Soapbox) ซึ่งเชี่ยวชาญด้านการค้าจีนเผยแพร่การวิเคราะห์ตัวเลขจากยูโรสแตต (Eurostat) ซึ่งเป็นหน่วยงานข้อมูลของคณะกรรมาธิการยุโรปและหน่วยงานศุลกากรของจีนเมื่อสัปดาห์นี้ โดยพบว่า ระหว่างเดือนมิถุนายน 2020 ถึงมิถุนายน 2024 จีนส่งออกรถยนต์ไฟฟ้าไปยังสหภาพยุโรปคิดเป็น 45% ของมูลค่าการส่งออกรถยนต์ไฟฟ้าทั้งหมด
ข้อมูลของศุลกากรแสดงให้เห็นว่าในเดือนเมษายนก่อนที่จะมีการตั้งกำแพงภาษี การส่งออกรถยนต์ที่ผลิตในจีนพุ่งสูงขึ้น และระหว่างเดือนเมษายนถึงพฤษภาคมยอดการนำเข้ารถยนต์ไฟฟ้าจากจีนในยุโรปก็เพิ่มขึ้นด้วยเช่นกัน ก่อนที่จะตกลงหลังจากนั้น