ญี่ปุ่นมูลค่าส่งออกโตน้อยกว่าคาด ด้านปริมาณหด 6 เดือนติด สะท้อนดีมานด์โลกยังไม่ฟื้น

ญี่ปุ่น ส่งออก นำเข้า
ท่าเรือขนส่งสินค้าในประเทศญี่ปุ่น (ภาพโดย Richard A. Brooks / AFP)

มูลค่าการส่งออกของญี่ปุ่นในเดือนกรกฎาคมโต 10.3% น้อยกว่าที่คาด ขณะที่ปริมาณการส่งออกลดลงติดต่อกันเป็นเดือนที่ 6 สะท้อนว่าดีมานด์ในตลาดโลกยังไม่ฟื้นดี 

วันที่ 21 สิงหาคม 2024 รอยเตอร์ (Reuters) รายงานว่า การส่งออกของญี่ปุ่นในเดือนกรกฎาคม 2024 เติบโตช้ากว่าที่คาดการณ์ไว้เล็กน้อย และในแง่ปริมาณการส่งออกยังลดลงอย่างต่อเนื่อง ทำให้เกิดคำถามเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจญี่ปุ่นที่เพิ่งเริ่มฟื้นตัว ดังที่เห็นในตัวเลขจีดีพีไตรมาส 2 ที่เติบโต 3.1% จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อนหน้า (YOY) 

ข้อมูลจากกระทรวงการคลังของญี่ปุ่นระบุว่า มูลค่าการส่งออกของญี่ปุ่นในเดือนกรกฎาคมเพิ่มขึ้น 10.3% จากเดือนเดียวกันของปีก่อนหน้า (YOY) เพิ่มขึ้นเป็นเดือนที่ 8 ติดต่อกัน แต่เพิ่มขึ้นน้อยกว่าค่ากลาง (Median) ในการคาดการณ์ของตลาดที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 11.4% 

ในแง่ตลาดส่งออกสำคัญของญี่ปุ่น การส่งออกไปยังจีนเพิ่มขึ้น 7.2% (YOY) เนื่องจากดีมานด์อันแข็งแกร่งในหมวดเครื่องมือผลิตชิป ขณะที่การส่งออกไปยังสหรัฐอเมริกาเพิ่มขึ้น 7.3%

อย่างไรก็ตาม มูลค่าการส่งออกที่เพิ่มขึ้นเป็นผลมาจากการที่เงินเยนอ่อนค่าลง ทำให้แลกเงินค่าสินค้าจากเงินดอลลาร์สหรัฐเป็นเงินเยนได้มากขึ้น ส่วนในแง่ปริมาณการส่งออกโดยรวมลดลง 5.2% จากเดือนเดียวกันของปีก่อนหน้า (YOY) ซึ่งเป็นการลดลงติดต่อกันเป็นเดือนที่ 6

ฝั่งการนำเข้าเพิ่มขึ้น 16.6% สูงกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 14.9% ส่งผลให้ญี่ปุ่นขาดดุลการค้า 621,800 ล้านเยน (ประมาณ 145,840 ล้านบาท) สูงกว่าที่คาดว่าจะขาดดุล 330,700 ล้านเยน (ประมาณ 77,565 ล้านบาท) 

ADVERTISMENT

ทาเคชิ มินามิ (Takeshi Minami) หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของสถาบันวิจัยโนรินชูคิน (Norinchukin) กล่าวว่า การที่ปริมาณการส่งออกลดลงบ่งชี้ว่าการอ่อนค่าของเงินเยนได้บดบังความจริงที่ว่าอุปสงค์ทั่วโลกอ่อนแอ 

“แนวโน้มอุปสงค์ทั่วโลกยังคงมืดมัว เนื่องจากปัญหาอสังหาริมทรัพย์ยังคงส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจจีนและตลาดงานของสหรัฐที่เย็นลง และหากเงินเยนแข็งค่าขึ้นต่อไป มูลค่าการส่งออกของญี่ปุ่นก็จะชะลอตัวลงเช่นกัน”

ADVERTISMENT

หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของสถาบันวิจัยโนรินชูคินวิเคราะห์อีกว่า เนื่องจากกลไกการส่งออกไม่น่าจะฟื้นตัวได้ เศรษฐกิจญี่ปุ่นจึงต้องพึ่งพาการฟื้นตัวของการบริโภคในประเทศที่ได้รับการสนับสนุนจากการเติบโตของค่าจ้างในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า

“ผมคาดว่าธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) จะขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกครั้งภายในปีนี้ ตราบใดที่ตลาดการเงินยังค่อนข้างสงบและการบริโภคยังคงแข็งแกร่ง ถึงแม้ว่าการแข็งค่าของเงินเยนอาจทำให้เงินเฟ้อชะลอลงในที่สุด และอาจบังคับให้ BOJ หยุดการขึ้นอัตราดอกเบี้ยในช่วงปีหน้าก็ตาม” มินามิกล่าว