
ความกังวลว่า “เศรษฐกิจสหรัฐจะถดถอย” เพิ่งจะลดน้อยลงได้ไม่กี่วัน เนื่องจากมีตัวเลของค์ประกอบทางเศรษฐกิจหลายตัวออกมายันว่าเศรษฐกิจไม่ได้อ่อนแอขนาดนั้น แต่ล่าสุดก็มีข้อมูลใหม่ออกมาจุดประเด็นถกเถียงและเพิ่มความกังวลอีกว่า จริง ๆ แล้วเศรษฐกิจสหรัฐเป็นอย่างไรแน่
ตลาดแรงงานสหรัฐไม่แข็งแกร่งเท่าที่ได้รับข้อมูลกันมาตลอดช่วง 1 ปีกว่าที่ผ่านมา !
นี่คือข้อเท็จจริงใหม่จากข้อมูลใหม่ที่สำนักงานสถิติแรงงาน (Bureau of Labor Statistics : BLS) กระทรวงแรงงานสหรัฐ เผยแพร่เมื่อวันพุธที่ 21 สิงหาคมที่ผ่านมา ซึ่งโดยปกติแล้ว ในทุก ๆ ปี สำนักงานสถิติแรงงานจะมีการปรับปรุงแก้ไขตัวเลขการจ้างงานใหม่สองรอบจากข้อมูลที่รวบรวมได้มากขึ้นและมีความแม่นยำกว่าตัวเลขที่เผยแพร่รายเดือน
ข้อมูลใหม่ล่าสุดจากการทบทวนแก้ไขครั้งแรกของสำนักงานสถิติแรงงานระบุว่า การจ้างงานใหม่หรือการเติบโตของตำแหน่งงานนอกภาคเกษตรในช่วง 1 ปี ระหว่างเดือนเมษายน 2023 ถึงมีนาคม 2024 อยู่ที่ 2.1 ล้านตำแหน่ง น้อยกว่าตัวเลขที่รายงานเป็นรายเดือน ซึ่งมีจำนวนรวมอยู่ที่ 2.9 ล้านตำแหน่ง ถึง 818,000 ตำแหน่ง
ตัวเลขการเติบโตของตำแหน่งงานที่ลดลงนี้ถือเป็นตัวเลขแก้ไขที่ลดลงมากที่สุดนับตั้งแต่ตัวเลขของเดือนเมษายน 2008 ถึงมีนาคม 2009 ซึ่งในปีนั้น สำนักงานสถิติแรงงานแก้ไขตัวเลขการเติบโตของตำแหน่งงานลง 824,000 ตำแหน่ง
จากตัวเลขใหม่นี้ จำนวนตำแหน่งงานใหม่รายเดือนโดยเฉลี่ยจะอยู่ราว ๆ 174,000 ตำแหน่ง ลดจากตัวเลขรายงานรายเดือนที่เฉลี่ยอยู่ที่ 242,000 ตำแหน่ง
นอกจากนั้น ตัวเลขสำมะโนการจ้างงานและค่าจ้างรายไตรมาส (QCEW) ซึ่งอิงจากข้อมูลเงินประกันการว่างงานระดับรัฐ และครอบคลุมตำแหน่งงานเกือบทั้งหมดในสหรัฐที่เผยแพร่ในวันเดียวกันก็แสดงให้เห็นว่า ค่าจ้างในช่วงเดือนเมษายน 2023 ถึงเดือนมีนาคม 2024 เพิ่มขึ้นเฉลี่ย 1.3% จากช่วงหนึ่งปีก่อนหน้า (YOY) ซึ่งน้อยกว่าในข้อมูลการจ่ายเงินเดือนขั้นต้นที่เพิ่มขึ้นเฉลี่ย 1.9% (YOY)
เมื่อตัวเลขการเพิ่มขึ้นของงานที่แก้ไขแล้วลดน้อยลงกว่าเดิมสะท้อนว่า ตลาดแรงงานสหรัฐไม่ได้แข็งแกร่งเท่าที่เข้าใจกันมาก่อนหน้านี้ สอดคล้องกับมุมมองของนักเศรษฐศาสตร์จำนวนหนึ่งที่มองว่า มีปัญหาในการรวบรวมข้อมูล ซึ่งทำให้จำนวนการจ้างงานใหม่รายเดือนที่รายงานออกมาก่อนหน้านี้ถูกประเมินสูงเกินไป ก็ย่อมนำมาซึ่งคำถามเกี่ยวกับความแข็งแกร่งของเศรษฐกิจ ไปจนถึงคำถามเกี่ยวกับการพิจารณากำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในช่วงที่ผ่านมา ซึ่งพิจารณาและตัดสินใจบนตัวเลขตลาดงานที่ “ดีเกินจริง”
ตัวเลขการจ้างงานใหม่ที่ลดลงมากขนาดนี้ทำให้หลายคนคิดว่าตัวเลขใหม่นี้อาจผลักดันให้เฟดปรับลดดอกเบี้ยลงอย่างเร็วและแรงกว่าที่คาด ซึ่งก่อนที่จะเห็นตัวเลขนี้ ตลาดเทน้ำหนักคาดการณ์ว่า เฟดจะลดดอกเบี้ยครั้งแรกในเดือนกันยายนนี้เพียง 0.25% พอตัวเลขนี้ออกมา ก็ทำให้มีการคาดการณ์มากขึ้นว่าเฟดอาจจะลด 0.50% แต่ส่วนใหญ่ก็ยังคงคาดว่าในการปรับลดครั้งแรก เฟดจะลดแค่ 0.25%
ไรอัน สวีต (Ryan Sweet) หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ด้านเศรษฐกิจสหรัฐ ของบริษัทวิจัยและพยากรณ์เศรษฐกิจ ออกซ์ฟอร์ด อีโคโนมิกส์ (Oxford Economics) กล่าวว่า ตัวเลขที่ลดลงนี้เป็นการลดลงมากกว่าการแก้ไขข้อมูลโดยปกติอย่างเห็นได้ชัด และคงไม่ใช่เรื่องเกินจริงหากเฟดจะสรุปว่าการเติบโตของการจ้างงานในช่วงที่ผ่านมานั้นเกินจริง ซึ่งจะสนับสนุนให้เฟดหันเหความสนใจจากอัตราเงินเฟ้อไปที่ตลาดแรงงานมากขึ้น
อย่างไรก็ตาม มีนักเศรษฐศาสตร์และผู้ร่วมตลาดจำนวนมากที่ไม่คิดว่าตัวเลขที่ลดลงนี้เป็นอะไรที่น่าตกใจ
แน่นอนหนึ่งในนั้นคือ นักเศรษฐศาสตร์ประจำทำเนียบขาว จาเร็ด เบิร์นสไตน์ (Jared Bernstein) ที่แย้งว่า ตัวเลขที่ออกมานี้ “ไม่ได้เปลี่ยนความจริงที่ว่าการฟื้นตัวของการจ้างงานนั้นแข็งแกร่งและยังคงแข็งแกร่งมาตลอด ส่งผลให้การจ้างงานและค่าจ้างเพิ่มขึ้นอย่างมั่นคง การใช้จ่ายของผู้บริโภคก็แข็งแกร่งเช่นกัน และมีการก่อตั้งธุรกิจขนาดเล็กในระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์”
จากข้อมูลและข้อถกเถียงใหม่นี้ หากลองพิจารณาย้อนกลับไป เฟดกล่าวในแถลงการณ์การประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (FOMC) ครั้งล่าสุดเมื่อเดือนกรกฎาคมว่า ให้ความสำคัญกับตลาดงานพอ ๆ กับการแก้ปัญหาเงินเฟ้อ
และล่าสุด ในการประชุมประจำปี 2024 ของเฟด หรือ “การประชุมแจ็กสันโฮล” สุนทรพจน์ของ เจอโรม พาวเวลล์ (Jerome Powell) ประธานเฟด ก็ได้ให้ความสำคัญกับตลาดงานมากยิ่งขึ้น
เมื่อเห็นแล้วว่าตัวเลขตลาดงานไม่ได้แข็งแกร่งมากเท่าที่เคยเข้าใจ …ก็นับว่าสมเหตุสมผล หากนักเศรษฐศาสตร์ นักลงทุน หรือใครก็ตามคาดหวังว่าเฟดจะลดดอกเบี้ยลงเร็วครั้งเดียว 0.50%
แต่เฟดจะตัดสินใจอย่างไร ก็ยังคงต้องลุ้นต่อไป ตามที่พาวเวลล์บอกว่า “ระยะเวลาและความเร็วในการปรับลดอัตราดอกเบี้ยจะขึ้นอยู่กับข้อมูลที่เข้ามา แนวโน้มที่เปลี่ยนแปลงไป และน้ำหนักของความเสี่ยง [ต่อภารกิจคู่ขนาน]”
อ้างอิง :