ราคาทองสปอตตลาดสหรัฐขึ้น 1% ขณะตลาดกังวลกับภาวะศก.ถดถอย

เมื่อวันที่ 28 สิงหาคม สำนักข่าวรอยเตอร์ รายงานว่า ราคาทองสปอตที่ตลาดสหรัฐพุ่งขึ้น 16.40 ดอลลาร์ หรือ 1.07% สู่ 1,542.40 ดอลลาร์ต่อออนซ์ในช่วงท้ายตลาดวันอังคาร โดยได้รับแรงหนุนจากปัจจัยหลายประการ ซึ่งรวมถึงความกังวลเรื่องภาวะเศรษฐกิจถดถอย, ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐที่น่าผิดหวัง และสงครามการค้าระหว่างจีนกับสหรัฐ ทางด้านราคาโลหะเงินพุ่งขึ้นเหนือระดับ 18 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้เป็นครั้งแรกในรอบเกือบ 2 ปี

ราคาสัญญาทองเดือน ธ.ค.ปิดตลาดพุ่งขึ้น 14.60 ดอลลาร์ หรือ 1% สู่ 1,551.80 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ทางด้านราคาโลหะเงินในตลาดสปอตปิดทะยานขึ้น 0.530 ดอลลาร์ หรือ 3.01% สู่ 18.160 ดอลลาร์/ออนซ์ หลังจากขึ้นไปแตะ 18.203 ดอลลาร์ในระหว่างวัน ซึ่งถือเป็นจุดสูงสุดนับตั้งแต่เดือนก.ย. 2017 ส่วนราคาพลาตินั่มในตลาดสปอตปิดพุ่งขึ้น 10.51 ดอลลาร์ หรือ 1.23% สู่ 865.51 ดอลลาร์/ออนซ์ และราคาพัลลาเดียมในตลาดสปอตปิดปรับขึ้น 8.51 ดอลลาร์ สู่ 1,482.02 ดอลลาร์/ออนซ์

สำนักงาน Conference Board ของสหรัฐรายงานว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคร่วงลงจาก 135.8 ในเดือนก.ค. สู่ 135.1 ในเดือนส.ค. ทางด้านราคาบ้านในสหรัฐปรับขึ้นในอัตราที่เชื่องช้าที่สุดในรอบเกือบ 7 ปี โดยดัชนี S&P CoreLogic Case-Shiller สำหรับราคาบ้านใน 20 เมืองใหญ่ของสหรัฐปรับขึ้น 2.1% ในเดือนมิ.ย.เมื่อเทียบรายปี ซึ่งถือเป็นอัตราการปรับขึ้นที่ต่ำที่สุดนับตั้งแต่เดือน ส.ค. 2012

นักลงทุนกังวลกับภาวะเศรษฐกิจถดถอย ในขณะที่ภาวะ inversion ของเส้นอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ (การที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรระยะสั้นอยู่สูงกว่าพันธบัตรระยะยาว) ทวีความรุนแรงมากยิ่งขึ้น และตลาดหุ้นสหรัฐร่วงลงท่ามกลางความกังวลเรื่องสงครามการค้า ทั้งนี้ ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐกล่าวในวันจันทร์ว่า เจ้าหน้าที่จีนได้ติดต่อกับเจ้าหน้าที่การค้าของสหรัฐ และเสนอที่จะกลับเข้าสู่การเจรจาต่อรอง อย่างไรก็ดี โฆษกกระทรวงการต่างประเทศของจีนกล่าวในวันอังคารว่า เขาไม่ได้รับรายงานว่ามีการโทรศัพท์หารือกัน

ราคาโลหะมีค่าได้รับแรงหนุนจากการอ่อนค่าของดอลลาร์ ในขณะที่นักลงทุนคาดว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.25% ในการประชุมวันที่ 17-18 ก.ย. และจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงกว่า 1.00% ก่อนสิ้นปี 2020

 

 


ที่มา : มติชนออนไลน์