‘อิตาลี’ สั่งปิดประเทศ หลังยอดตายไวรัสโควิด-19 พุ่ง 463 ราย

รัฐบาลอิตาลีประกาศบังคับใช้มาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่หรือโควิด-19 ด้วยการขยายจากการปิดเมืองเพียงบางเมืองที่พบการแพร่ระบาดอย่างหนักเป็นการปิดทั้งประเทศแล้ว

นายจุสเซปเป คอนเต นายกรัฐมนตรีอิตาลี ระบุว่า ภายใต้มาตรการดังกล่าวซึ่งมีผลบังคับใช้ทันทีในวันที่ 10 มีนาคม ประเทศอิตาลีทั้งหมดจะกลายเป็นพื้นที่ควบคุม ผู้คนจะได้รับอนุญาตให้เดินทางเฉพาะเพื่อไปทำงานหรือเมื่อเกิดเหตุฉุกเฉินกับครอบครัวเท่านั้น ขณะเดียวกันก็ยังมีคำสั่งห้ามการชุมนุมในที่สาธารณะ การท่องเที่ยวในยามค่ำคืน รวมถึงการแข่งขันกีฬาต่างๆ อาทิ การแข่งขันฟุตบอล ซึ่งจะถูกระงับทั่วประเทศอีกด้วย

นายคอนเตประกาศผ่านสถานีโทรทัศน์ว่า ชาวอิตาลีจะต้องเปลี่ยนแปลงกิจวัตรประจำวัน และหนทางที่ดีที่สุดคือผู้คนจะต้องอยู่แต่ในบ้าน หลังจากที่พบการแพร่ระบาดและการเสียชีวิตเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ชาวอิตาลีทุกคนจะต้องร่วมแรงร่วมใจกันเพื่อทำให้ประเทศดีขึ้น และต้องลงมือทำในขณะนี้ เพราะสิ่งนี้จะทำได้ก็ต่อเมื่อทุกคนให้ความร่วมมือและทำตามมาตรการที่เข้มงวด ซึ่งเป็นที่มาที่ทำให้เขาตัดสินใจประกาศใช้มาตรการที่มากขึ้น เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัสและปกป้องสุขภาพของประชาชนทุกคน

คำประกาศดังกล่าวยังมีขึ้นหลังจากที่เมื่อวันที่ 9 มีนาคมที่ผ่านมา อิตาลีประกาศว่ามีผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นอีก 97 ราย ทำให้ยอดผู้เสียชีวิตรวมจากไวรัสโคโรนาในประเทศเพิ่มขึ้นเป็น 463 ราย

ขณะที่จำนวนผู้ติดเชื้อที่ได้รับการยืนยันก็เพิ่มขึ้นเป็น 9,172 คนจาก 7,375 คนเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา และมีการยืนยันพบผู้ติดเชื้อในทั้ง 20 แคว้นของประเทศอิตาลีแล้ว ทำให้อิตาลีกลายเป็นประเทศที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาหนักที่สุดรองจากจีน

ส่วนยอดผู้ติดเชื้อที่ได้รับการยืนยันแล้วทั่วโลกอยู่ที่ 113,585 คน โดยที่อิตาลีมีผู้ติดเชื้อรวม 9,172 เกาหลีใต้ 7,478 อิหร่าน 7,161 ฝรั่งเศส 1,209 เยอรมนี 1,176 สเปน 1,073 ส่วนที่พบผู้ติดเชื้อหลักร้อยมีบนเรือไดมอนด์ ปรินเซส 696 สหรัฐ 605 ญี่ปุ่น 511 สวิตเซอร์แลนด์ 374 เนเธอร์แลนด์และอังกฤษ 321 สวีเดน 248 เบลเยียม 239 นอร์เวย์ 205 สิงคโปร์ 150 ออสเตรเลีย 131 มาเลเซีย 117 และฮ่องกง 115

ขณะที่จำนวนผู้ติดเชื้อและหายแล้วอยู่ที่ 62,517 คน

ข้อมูล:มติชนออนไลน์