ไบเดน เรียกร้องประชาชนออกไปฉีดวัคซีน ผวาสายพันธุ์เดลต้า

REUTERS/Evelyn Hockstein

“โจ ไบเดน” ประธานาธิบดีสหรัฐ เรียกร้องให้ประชาชนออกไปฉีดวัคซีน ขณะที่ประเทศกำลังเผชิญกับการระบาดของโควิด-19 สายพันธุ์เดลต้า ซึ่งมีอัตราการแพร่ระบาดที่รวดเร็วกว่าสายพันธุ์อื่น ๆ

วันที่ 7 กรกฎาคม 2564 สำนักข่าวรอยเตอร์สรายงานว่า “โจ ไบเดน” ประธานาธิบดีสหรัฐ เรียกร้องให้ประชาชนออกไปฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ขณะที่ประเทศกำลังเผชิญกับการระบาดของโควิดสายพันธุ์เดลต้า หรือสายพันธุ์ที่ถูกค้นพบครั้งแรกที่อินเดีย พร้อมกับจะแถลงการณ์พิเศษช่วงสุดสัปดาห์นี้ หลังประชาชน 160 ล้านคน ฉีดวัคซีนครบโดสแล้ว

ทั้งนี้ ไบเดนระบุว่า ประชาชนสหรัฐหลายล้านคน ยังไม่ได้ฉีดวัคซีน ซึ่งทำให้คนรอบข้าง อย่างครอบครัว และเพื่อนฝูง เสี่ยงมีอาการป่วย หรือเสียชีวิต จากติดเชื้อโควิด-19 จึงอยากเรียกร้องให้ประชาชนออกไปฉีดวัคซีน รวมถึงยังระบุด้วยว่า ต้องไปฉีดวัคซีนเพราะสายพันธุ์เดลต้า “น่าเป็นห่วง”

รายงานข่าวระบุว่าโควิด-19 สายพันธุ์เดลต้า กำลังเป็นสายพันธุ์หลักที่แพร่ระบาดในแต่ละประเทศ นอกจากนี้ มีอัตราการแพร่ระบาดที่รวดเร็วกว่าสายพันธุ์อื่น ๆ ที่ได้ระบาดไปก่อนหน้านี้ รวมถึงทำให้เกิดอาการป่วยจากการติดเชื้อที่รุนแรงกว่า โดยเฉพาะในกลุ่มประชากรที่ไม่สูงอายุ

โดยเมื่อวันที่ 4 กรกฎาคมที่ผ่านมา ไบเดนได้แถลงการณ์เฉลิมฉลอง “ชัยชนะ” จากการระบาดของโควิด-19 ในวันอิสรภาพ หรือวันชาติของสหรัฐ (Independence Day) พร้อมกับระบุด้วยว่า การฉีดวัคซีนเป็นสิ่งที่ “รักชาติ” มากที่สุด ที่คุณสามารถทำได้ โดยหลังจากโครงการฉีดวัคซีนที่รวดเร็ว อัตราผู้ติดเชื้อโควิด-19 รวมถึงผู้เสียชีวิตของสหรัฐ ใกล้อยู่ในระดับต่ำที่สุด ตั้งแต่โรคเริ่มระบาดเมื่อปีที่ผ่านมา

ขณะเดียวกันยังระบุว่า เราสามารถร่วมกันพูดได้แล้วว่า “อเมริกาได้กลับมาแล้ว” รวมทั้งกล่าวว่า วันชาติปีนี้ไม่ได้เป็นเพียงแค่การเฉลิมฉลองอิสรภาพของประเทศ แต่ยังเฉลิมฉลอง การสิ้นสุดของปีโรคระบาด ซึ่งเต็มไปด้วยความเจ็บปวด ความโดดเดี่ยว และความสูญเสีย แต่ก็เน้นย้ำว่า แม้ประเทศกำลังใกล้ที่จะมีอิสรภาพจากไวรัสนี้ แต่การต่อสู้กับโควิด-19 ยังไม่สิ้นสุดลง