เทสลาหุ้นร่วงหนัก ความมั่งคั่ง “อีลอน มัสก์” ลดลง 1.6 ล้านล้านบาท

หุ้นเทสลาร่วงหนัก หลังอีลอนมัสก์ทำโพลทวิตเตอร์
REUTERS/Michele Tantussi/File Photo

หุ้นเทสลาปิดร่วงติดต่อกันเป็นวันที่ 2 หลังซีอีโอคนดัง “อีลอน มัสก์” ทำโพลถามชาวทวิตเตอร์ว่าจะขายหุ้น 10% ในเทสลา ดีหรือไม่ ?

วันที่ 10 พฤศจิกายน 2564 อัลจาซีรา รายงานว่า “เทสลา อิงค์” มีมูลค่าบริษัทตามการประเมินจากราคาตลาดหลักทรัพย์ร่วงลงเกือบ 175,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือราว 5.7 ล้านล้านบาท ขณะที่หุ้นของเทสลาร่วงหนักสุดในรอบ 14 เดือน ติดต่อกันเป็นวันที่ 2 ท่ามกลางข่าวเชิงลบมากมาย

เหตุการณ์เหล่านี้เกิดขึ้นหลังจากที่ซีอีโอบริษัท “อีลอน มัสก์” ทำโพลผ่านทวิตเตอร์ถามชาวเน็ตเมื่อช่วงสุดสัปดาห์ว่า เขาควรขายหุ้น 10% ในเทสลาหรือไม่ ขณะที่ก่อนหน้านั้น น้องชายของเขาคือ “คิมบาล มัสก์” ได้ขายหุ้นบางส่วนออกไป

นอกจากนี้ “ไมเคิล เบอร์รี่” นักลงทุนชาวอเมริกัน และผู้จัดการกองทุนป้องกันความเสี่ยง ยังได้ให้สัมภาษณ์ผ่านบิสสิเนส อินไซเดอร์ ว่า มัสก์อาจต้องการขายหุ้นเพื่อนำเงินไปชำระหนี้ส่วนตัว

หุ้นของเทสลาร่วงลงมากถึง 12% เมื่อวันอังคาร หลังจากปรับตัวลดลงที่ 4.8% เมื่อวันจันทร์ แต่ถึงแม้หุ้นจะร่วงหนัก โดยภาพรวมแล้ว หุ้นของเทสลายังคงเพิ่มขึ้น 46% ในปีนี้ และมีมูลค่าตลาดสูงกว่า 1 ล้านล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือราว 32 ล้านล้านบาท

ซีเอ็นบีซี รายงานว่า ก่อนหน้านี้ เทสลาได้รายงานอัตราผลกำไรของรถยนต์ไฟฟ้าที่ดีขึ้น รวมถึงความสามารถในการแก้ปัญหาขาดแคลนชิป ระหว่างที่คู่แข่งหลายรายประสบปัญหาเรื่องการผลิตจากเรื่องนี้

บลูมเบิร์ก รายงานว่า ความมั่งคั่งของมัสก์ลดลง 50,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือราว 1.6 ล้านล้านบาท ในสัปดาห์นี้ หลังหุ้นของเทสลาร่วงลงติดต่อกัน 2 วัน

หุ้นของเทสลาที่ลดลง ทำให้ช่องว่างความมั่งคั่งระหว่างมัสก์กับ “เจฟฟ์ เบโซส” ซีอีโอ อเมซอน.คอม (Amazon.com) แคบลง หลังจากที่มัสก์สามารถแซงเบโซส ขึ้นแท่นบุคคลที่ร่ำรวยที่สุดในโลกเมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา

โดยล่าสุดช่องว่างความมั่งคั่งระหว่างมัสก์กับเบโซส์ลดลงเหลือ 83,000 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือราว 2.7 ล้านล้านบาท จากก่อนหน้านี้ที่ห่างกัน 1.43 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 4.6 ล้านล้านบาท ซึ่งเป็นจำนวนที่มากกว่าทรัพย์สินสุทธิของ “บิล เกตส์” ซึ่งเป็นบุคคลที่ร่ำรวยที่สุดอันดับ 4 ของโลก