เปิดความสำเร็จ ‘อัลฟาเบต’ หุ้น ‘บิ๊กเทค’ ดีที่สุดแห่งปี

บริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ต่างได้รับประโยชน์จากความต้องการ “เทคโนโลยี” ที่เพิ่มสูงขึ้นในช่วงการแพร่ระบาดของโควิด-19 โดยเฉพาะ “อัลฟาเบต” (Alphabet) บริษัทแม่ของกูเกิล ที่สามารถออกแบบสินค้าและบริการที่ตอบโจทย์ผู้ใช้งานได้หลากหลาย และขึ้นแท่นเป็นบิ๊กเทคที่มีประสิทธิภาพให้ผลตอบแทนสูงสุดในปี 2021

ซีเอ็นบีซีรายงานว่า ปี 2021 ที่ผ่านมา ราคาหุ้นของ “อัลฟาเบต” เพิ่มสูงขึ้นราว 68% กลายเป็นบริษัทเทคโนโลยีที่มีมูลค่าหุ้นเติบโตสูงที่สุด ขณะที่บิ๊กเทครายอื่น ๆ อย่าง “ไมโครซอฟท์” ยักษ์ซอฟต์แวร์ระดับโลก ปีนี้ราคาหุ้นพุ่งขึ้นราว 51%

ตามมาด้วยหุ้นของ “แอปเปิล” ผู้ผลิตไอโฟนที่ราคาหุ้นเพิ่มขึ้นราว 33% ส่วน “เฟซบุ๊ก” หรือ “เมตา” (Meta) ในปัจจุบันมีมูลค่าหุ้นเติบโตประมาณ 23% ตามมาด้วยอีคอมเมิร์ซยักษ์ใหญ่อย่าง “อเมซอน” ที่ราคาหุ้นราว 5% และหากนับ “เทสลา” เป็นหนึ่งในบริษัเทคโนโลยีมาแรง ก็ยังคงมีการเติบโตของหุ้นอยู่ที่ราว 51%

จากราคาหุ้นที่พุ่งสูงขึ้นเกือบ 70% ทำให้มูลค่าตามราคาตลาด (มาร์เก็ตแคป) ของอัลฟาเบตพุ่งขึ้นแตะ 2 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ ทั้งนี้รายรับส่วนใหญ่ของอัลฟาเบตมาจากธุรกิจโฆษณาเป็นหลัก ซึ่งสถานการณ์โควิด-19 ส่งผลให้จำนวนผู้ใช้งานบริการเพิ่มสูงขึ้น ไม่ว่าจะเป็นเสิร์ชเอ็นจิ้นอย่าง “กูเกิล” ทั้งบนคอมพิวเตอร์และในสมาร์ทโฟน รวมถึงแผนที่ วิดีโอ ยูทูบ และระบบคลาวด์ที่มีผู้ใช้งานเพิ่มขึ้นเช่นกัน

โดยในไตรมาส 3/2021 อัลฟาเบตรายงานรายรับจากธุรกิจโฆษณาบนกูเกิลราว 53,130 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 43% จากช่วงเดียวกันของปี 2020 ขณะที่รายรับจากการโฆษณาบนยูทูบก็เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 7,205 ล้านดอลลาร์สหรัฐ จาก 5,037 ล้านดอลลาร์สหรัฐในไตรมาส 3/2020

ขณะที่บริษัทเทคโนโลยีอื่น ๆ ที่พึ่งพิงรายรับจากการโฆษณาเช่นกัน อย่าง “เฟซบุ๊ก” และ “สแนป” ได้รับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงนโยบายความเป็นส่วนตัวบนระบบปฏิบัติการไอโอเอสของแอปเปิล ส่งผลให้ช่องทางการโฆษณาถูกจำกัดมากขึ้น แต่กูเกิลซึ่งเป็นเจ้าของระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์จึงไม่ได้รับผลกระทบดังกล่าว

ในช่วงต้นปี 2021 กูเกิลได้เริ่มกลับมาโตในระดับเดียวกันกับช่วงก่อนสถานการณ์โรคระบาด ซึ่งเป็นผลมาจากการฟื้นตัวของธุรกิจโฆษณา การผ่อนคลายมาตรการของหลายประเทศ ที่ทำให้ผู้บริโภคเริ่มกลับมาเข้าถึงสินค้าและบริการอีกครั้ง ขณะที่ “ยูทูบ” สินค้าอีกตัวของอัลฟาเบต ก็กลายเป็นแอปพลิเคชั่นโซเชียลมีเดียที่มีจำนวนผู้ใช้งานชาวอเมริกันเพิ่มขึ้นมากที่สุดในช่วงการแพร่ระบาดของโควิด-19 ตามรายงานของศูนย์วิจัยพิว

ไม่เพียงแต่รายรับจากการโฆษณาเท่านั้น รายรับจากธุรกิจคลาวด์ของอัลฟาเบตในไตรมาส 3/2021 ยังสูงถึง 4,990 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 45% จากช่วงเดียวกันปี 2020

แม้ว่าอัลฟาเบตจะพัฒนาระบบคลาวด์ตามหลังบริษัทเทคโนโลยีรายอื่น อย่าง “อเมซอน เว็บ เซอร์วิส” และ “ไมโครซอฟท์ แอซเชอร์” (Microsoft Azure) แต่ก็ยังได้รับประโยชน์จากเทรนด์ของตลาดมัลติคลาวด์ในปัจจุบัน ที่ธุรกิจขนาดใหญ่มักเลือกใช้บริการผู้ให้บริการระบบคลาวด์หลายรายเพื่อกระจายปริมาณงาน

นอกจากนี้ อัลฟาเบตยังมีรายรับจากการลงทุนผ่านบริษัทร่วมลงทุน (venture capital) อย่าง “จีวี” และบริษัทไพรเวตอีควิตี้ “แคปิตอลจี” ซึ่งลงทุนบริษัทสตาร์ตอัพหลายราย เช่น “ยูไอพาท” (UiPath) ผู้พัฒนาซอฟต์แวร์หุ่นยนต์ และ “โทสต์” (Toast) เทคโนโลยีสำหรับร้านอาหาร โดยอัลฟาเบตรายงานผลกำไรจากการลงทุนในส่วนนี้อยู่ที่ราว 188 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในไตรมาส 3/2021

นักวิเคราะห์ของบริษัทวิจัยตลาดการเงิน “รีฟินิทิฟ” คาดว่า รายรับตลอดปี 2021 ของอัลฟาเบต จะแตะระดับ 254,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือเพิ่มขึ้นราว 39% จากปี 2020 นับเป็นการเติบโตที่สูงที่สุดนับตั้งแต่ปี 2007 แต่ในปี 2022 การเติบโตด้านรายได้ของอัลฟาเบตอาจชะลอตัวลงอยู่ที่ระดับ 17% ใกล้เคียงกับก่อนสถานการณ์โควิด-19 ซึ่งอัลฟาเบตอาจจำเป็นต้องหาสิ่งขับเคลื่อนใหม่ที่มีประสิทธิภาพเพื่อสร้างการเติบโตต่อไป