เทสลา ขึ้นราคารถยนต์ไฟฟ้า 10% ในตลาดจีนและสหรัฐชี้ต้นทุนโลหะและโลจิสติกส์สูงขึ้น
วันที่ 16 มีนาคม 2565 รอยเตอร์สรายงานว่า Tesla Inc. ผู้ผลิตรถยนต์พลังงานไฟฟ้า ประกาศปรับราคาขายรถยนต์ในจีนและสหรัฐเป็นครั้งที่สอง ในรอบไม่ถึงสัปดาห์ หลังจากที่นายอีลอน มัสก์ ซีอีโอเทสลากล่าวว่า กำลังเผชิญกับแรงกดดันด้านเงินเฟ้อที่สำคัญในวัตถุดิบ วัสดุและโลจิสติกส์
- “ทางรัฐ” ซูเปอร์แอปแห่งชาติ รองรับแจกเงินดิจิทัล 10,000 บาท
- ทำฟันประกันสังคม ไม่ต้องสำรองจ่าย เดือน มี.ค. 67 ยอด 169 ล้านบาท
- รู้ไหม ? 31 มณฑลจีน ชอบสินค้าอะไรของไทย
รายงานระบุว่า การเพิ่มขึ้นนี้เกิดขึ้นเนื่องจากต้นทุนของวัตถุดิบที่พุ่งสูงขึ้น ซึ่งรุนแรงขึ้นจากการหยุดชะงักของห่วงโซ่อุปทานหลังจากการรุกรานยูเครนของรัสเซีย โดยราคาโลหะที่ใช้ในรถยนต์พุ่งสูงขึ้น รวมถึงอะลูมิเนียมที่ใช้ในตัวถังรถ พาลลาเดียมที่ใช้ในเครื่องฟอกไอเสียเชิงเร่งปฏิกิริยา และนิกเกิลและลิเทียมที่ขับเคลื่อนแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้า (EV)
การปรับขึ้นราคาของรถเทสลาในสองตลาดใหญ่ของบริษัททั้งจีนและสหรัฐ คราวนี้ยังอยู่ในช่วงที่ราคาน้ำมันตลาดโลกปรับตัวสูงขึ้นเนื่องจากภาวะตึงเครียดจากวิกฤตยูเครน โดยเทสลาประกาศขึ้นราคารถยนต์ไฟฟ้าทั้งหมด ระหว่าง 5-10% โดยรุ่นที่ถูกสุดอย่าง Model 3 Rear-Wheel Drive ตอนนี้เริ่มต้นที่ 46,990 ดอลลาร์ ส่วนรถรุ่น Model X Tri motor ซึ่งเป็นรุ่นแพงสุดมีราคาเพิ่มขึ้น 12,500 ดอลลาร์ จาก 126,490 ดอลลาร์ เป็น 138,990 ดอลลาร์
อนึ่ง จากปรากฏการณ์ที่ราคาน้ำมันพุ่งสูงขึ้นต่อเนื่องเป็นประวัติการณ์ ทำให้ยอดสั่งซื้อรถยนต์เทสลาในสหรัฐเพิ่มสูงขึ้นเช่นกัน โดยยอดสั่งซื้อสูงขึ้นถึง 100% ภายในสัปดาห์เดียว ส่งผลให้ก่อนหน้านี้เมื่อ 9 มีนาคม เทสลาได้ประกาศขึ้นราคารถยนต์บางรุ่นในก่อนหน้านั้นแล้ว กระทั่งประกาศขึ้นราคารถยนต์ทุกรุ่นดังกล่าว
ขณะที่ เว็บไซต์เทสลาในจีนได้ประกาศราคาเริ่มต้นของรถรุ่น Model 3 Performance ที่ 367,900 หยวน (57,648 ดอลลาร์) โดยก่อนหน้านี้เมื่อ 10 มีนาคม ราคารถรุ่นนี้เคยอยู่ที่ 349,900 หยวน
