
สำนักข่าวชาติตะวันตกพากันเผยแพร่ความเห็นของอดีตนายทหารรัสเซียที่กล้าวิจารณ์ศึกยูเครนในมุมลบกับรัฐบาล ทั้งยังออกสื่อทางการของรัสเซียเอง ซึ่งหาได้น้อยมาก
วันที่ 18 พฤษภาคม 2565 ซีเอ็นเอ็น รายงานว่า สถานีโทรทัศน์รอสซิยา ของทางการรัสเซีย ออกอากาศรายการดีเบต One’s 60 Minutes ที่สัมภาษณ์อดีตนายทหารระดับสูงถึงสถานการณ์สู้รบ รัสเซีย-ยูเครน ล่าสุด มีเนื้อหาที่วิจารณ์ศึกอย่างตรงไปตรงมาที่หาได้ยากมากในรัสเซีย รวมถึงคำเตือนว่า ศึกครั้งนี้มีแต่จะทำให้รัสเซียย่ำแย่ลง ต้องรีบหาทางลง
- Young FTI สะท้อน 8 ปัญหาถึง “พิธา” นวัตกรรมดีแต่พี่ไม่เหลียวแล
- กรมอุตุฯอัพเดต เส้นทางพายุไต้ฝุ่น “มาวาร์” เตือนฝนตกหนัก 27-30 พ.ค.
- เวียดนามไฟดับ สะเทือนถึง “นักลงทุนไทย”
พันเอก มิกฮาคิล โคดาเรน็อก นักวิเคราะห์การทหารที่เกษียณราชการแล้ว กล่าวว่า ข้อมูลลวงตาที่แพร่สะพัดอยู่ว่ากองทัพยูเครนกำลังเข้าตาจน ใกล้วิกฤตแตกร้าวและเสียขวัญนั้นเป็นเรื่องห่างไกลจากความเป็นจริงมาก
“หากเราพิจารณาถึงความช่วยเหลือของยุโรปที่หลั่งไหลเข้ามายังยูเครนอย่างเต็มพิกัด นั่นหมายถึงทหารยูเครนนับล้านได้รับการติดอาวุธ เราจะตาสว่างและเห็นความจริงในเวลาอันใกล้ เราจำเป็นต้องคำนวณถึงยุทธศาสตร์และปฏิบัติการ ว่าสถานการณ์นี้ถ้ามองอย่างตรงไปตรงมาแล้ว เรายิ่งรบก็มีแต่จะยิ่งแย่ลง” พันเอกโคดาเรน็อกกล่าว
แม้ว่าพิธีกรรายการพยายามจะพูดให้เนื้อหาซอฟต์ลง แต่อดีตนายทหารท่านนี้ยังคงมองสถานะของรัสเซียในสงครามไปในทางลบ และเตือนว่าต้องรีบหาทางลง
“ลองดูสถานะทางยุทธศาสตร์ของเราในภาพรวม อย่าล่อให้มีการเอาขีปนาวุธมาติดตั้งในฟินแลนด์ นั่นเหลวไหลเกินไป ปัญหาใหญ่ที่สุดของกองทัพเราและสถานการณ์ทางการเมือง คือเราถูกโดดเดี่ยวอย่างสิ้นเชิง ทั้งโลกต่อต้านเรา แม้ว่าเราไม่อยากยอมรับมันก็ตาม”
ก่อนหน้านี้ พันเอกโคดาเรน็อกเป็นผู้ที่ให้ความเห็นเตือนตั้งแต่ก่อนที่รัสเซียจะบุกยูเครนแล้วว่า ศึกในยูเครนจะเป็นเรื่องยากกว่าที่เคยเจอมา โดยบทความที่เขียนเมื่อเดือนก.พ. 2022 เตือนว่า “ระดับความเกลียดชัง (ซึ่งคุณก็รู้ว่ามันเป็นเชื้อเพลิงในการต่อสู้เป็นอย่างดี) ในบรรดาชาติเพื่อนบ้านที่มีต่อรัฐบาลรัสเซียนั้นถูกประเมินต่ำเกินไป” พร้อมทำนายว่า รัสเซียจะพ่ายแพ้ยูเครนภายในช่วงเวลาไม่นาน

ด้านสำนักข่าว เอพี รายงานสถานการณ์ในสมรภูมิ มาริอูปอล ว่าดูเหมือนจะอยู่ในกำมือของรัสเซียแล้ว หลังทหารและนักรบยูเครนชุดสุดท้ายที่โรงงานเหล็กอาซอฟสตัลยอมจำนน นับเป็นเมืองใหญ่และยุทธศาสตร์หลักในสงครามนี้ที่รัสเซียบุกยึดได้ เพื่อใช้เป็นเส้นทางส่งทหารและอาวุธเข้าไปยังสมรภูมิภาคตะวันออกของยูเครน

จากภาพที่กระทรวงกลาโหมรัสเซียเผยแพร่ นักรบฝ่ายยูเครนมากกว่า 260 นาย รวมถึงนักรบที่บาดเจ็บทยอยออกมาจากอุโมงค์ข้างใน และถูกฝ่ายรัสเซียนำตัวขึ้นรถบัส 7 คัน ไปยังเมืองโอเลนนิฟกา ที่อยู่ขึ้นไปทางเหนือของมาริอูปอล 88 ก.ม. ภายใต้ควบคุมของรัสเซีย
รัสเซียเรียกสถานการณ์นี้ว่า ยูเครนยอมแพ้แล้ว แต่รัฐบาลยูเครนหลีกเลี่ยงใช้คำดังกล่าว แต่เรียกว่า นักรบปฏิบัติภารกิจเสร็จสมบูรณ์แล้ว และจำเป็นต้องรักษาชีวิตไว้เป็นสำคัญ